Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

Revised Common Lectionary (Semicontinuous)

Daily Bible readings that follow the church liturgical year, with sequential stories told across multiple weeks.
Duration: 1245 days
Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
สดุดี 124

พระยาห์เวห์อยู่ฝ่ายเรา

เพลงที่ร้องในระหว่างทางที่ขึ้นไปยังวิหาร บทเพลงของดาวิด

“ถ้าพระยาห์เวห์ไม่ได้อยู่ฝ่ายเรา”
    ขอให้อิสราเอลพูดว่า
“ถ้าพระยาห์เวห์ไม่ได้อยู่ฝ่ายเรา
    ตอนที่ผู้คนโจมตีพวกเรานั้น
ศัตรูของพวกเราก็คงกลืนกินเราทั้งเป็น
    ตอนที่พวกเขาโกรธเกรี้ยวเรา
แล้วพวกเขาก็คงจะซัดเราซะเรียบเหมือนน้ำท่วม
    กระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวก็คงท่วมท้นหัวเรา
น้ำที่ไหลเชี่ยวกรากก็คงท่วมท้นหัวเราไปแล้ว”

สรรเสริญพระยาห์เวห์เถิด
    ที่พระองค์ไม่ปล่อยให้เราเป็นเหยื่อของเขี้ยวศัตรู
เราเป็นเหมือนนกที่หนีรอดออกมาจากตาข่ายดักนกของนายพราน
    ตาข่ายนั้นฉีกขาด เราจึงหนีออกมาได้

ความช่วยเหลือของเรามาจากพระยาห์เวห์
    ผู้สร้างสวรรค์และแผ่นดินโลก

เอสเธอร์ 1:1-21

ราชินีวัชทีไม่เชื่อฟังคำสั่งกษัตริย์

เรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นในสมัยของกษัตริย์อาหสุเอรัส[a] พระองค์เป็นคนเดียวกับอาหสุเอรัสที่ครอบครองหนึ่งร้อยยี่สิบเจ็ดมณฑล ตั้งแต่ประเทศอินเดียไปจนถึงคูช[b] ในเวลานั้นกษัตริย์อาหสุเอรัสนั่งอยู่บนบัลลังก์ในเขตวังของเมืองสุสา

ในปีที่สามที่พระองค์ครองราชย์อยู่นั้น พระองค์ได้จัดงานเลี้ยงขึ้นให้กับเจ้าหน้าที่และพวกผู้นำทุกคนของพระองค์ รวมทั้งพวกแม่ทัพทั้งหลายของเปอร์เซียและมีเดีย ตลอดจนบรรดาขุนนางและพวกเจ้าหน้าที่ประจำมณฑลต่างๆ งานเลี้ยงนี้ได้จัดขึ้นหนึ่งร้อยแปดสิบวัน พระองค์ได้โอ้อวดถึงความร่ำรวยอันมหาศาลของอาณาจักรของพระองค์ และสง่าราศีและบารมีอันมีค่าอย่างยิ่งยวดของพระองค์ หลังจากเสร็จสิ้นงานเลี้ยงนี้แล้ว พระองค์ก็ได้จัดงานเลี้ยงอีกงานหนึ่งขึ้นเป็นเวลาเจ็ดวัน งานนี้จัดขึ้นในสวนภายในเขตวังของพระองค์ พระองค์ได้เชิญทุกคนที่อยู่ในเขตวังของเมืองสุสา ตั้งแต่คนที่มีหน้ามีตาที่สุดไปจนถึงคนที่กระจอกงอกง่อยที่สุด ภายในสวนนั้นตกแต่งด้วยเชือกที่ทำจากลินินอย่างดีและขนแกะสีม่วง คล้องกับห่วงเงินที่ติดอยู่บนเสาหินอ่อน มีเก้าอี้นอนที่ทำจากทองคำและเงิน เก้าอี้เหล่านี้ตั้งอยู่บนพื้นที่ปูด้วยกระเบื้องเคลือบสลับสี ที่ประกอบขึ้นด้วยหินสีม่วง หินอ่อนสีขาว เปลือกหอยมุข และหินอ่อนสีเข้ม เครื่องดื่มต่างๆใส่อยู่ในถ้วยทองคำ และถ้วยทุกใบก็แตกต่างกัน มีเหล้าองุ่นมากมายจากกษัตริย์ เพราะพระองค์ใจดี ไม่มีข้อห้ามสำหรับการดื่ม เพราะกษัตริย์ได้สั่งพวกพนักงานที่อยู่ในวังทุกคน ให้บริการเครื่องดื่มกับแต่ละคนมากเท่าที่เขาต้องการ

ในขณะเดียวกัน ราชินีวัชทีก็ได้จัดงานเลี้ยงให้บรรดาผู้หญิงที่อยู่ในวังของกษัตริย์อาหสุเอรัสเหมือนกัน

10 ในวันที่เจ็ดของงานเลี้ยง เมื่อกษัตริย์เริ่มมึนๆจากเหล้าองุ่นแล้ว พระองค์สั่งให้เมหุมาน บิสธา ฮารโบนา บิกธา อาบักธา เศธาร์ และคารคาส ผู้เป็นขันทีทั้งเจ็ดของพระองค์ว่า 11 ให้ไปนำตัวราชินีวัชทีมาเข้าเฝ้าพระองค์ ให้นางสวมมงกุฎมาด้วย เพื่อพระองค์จะได้อวดความงามของนางต่อประชาชนทั้งหลายและต่อบรรดาเจ้าหน้าที่ เพราะนางมีความงดงามยิ่งนัก

12 แต่ราชินีวัชทีไม่ยอมมาเข้าเฝ้าตามคำสั่งของกษัตริย์ที่สั่งผ่านมาทางพวกขันทีเหล่านั้น กษัตริย์จึงโกรธและเดือดดาลมาก

13 ดังนั้นพระองค์จึงปรึกษาพวกผู้รู้ของพระองค์ ตามปกติแล้วกษัตริย์จะปรึกษาพวกผู้รู้เหล่านี้ ในเรื่องกฎหมายและขั้นตอนทางกฎหมาย 14 ผู้รู้พวกนี้ใกล้ชิดกับกษัตริย์มาก พวกเขามีชื่อว่าคารเชนา เชธาร์ อัดมาธา ทารชิช เมเรส มารเสนา และเมมูคาน ผู้รู้ทั้งเจ็ดนี้เป็นเจ้าหน้าที่ที่สำคัญมากของเปอร์เซียและมีเดีย พวกเขาเข้าเฝ้ากษัตริย์อยู่เป็นประจำ พวกเขามีอำนาจมากในอาณาจักร 15 กษัตริย์อาหสุเอรัสถามพวกเขาว่า “ตามกฎหมายแล้ว เราควรจะทำยังไงดีกับราชินีวัชที ที่นางขัดขืนคำสั่งของกษัตริย์ที่ได้สั่งผ่านไปทางพวกขันที”

16 แล้วเมมูคานได้ตอบต่อกษัตริย์ ต่อหน้าเจ้าหน้าที่ทั้งหลายว่า “ราชินีวัชทีไม่เพียงแต่ทำผิดต่อกษัตริย์เท่านั้น พระนางยังทำผิดต่อเจ้าหน้าที่ทุกคนและประชาชนทั้งหลาย ที่อาศัยอยู่ในทุกมณฑลของพระองค์ด้วย 17 เพราะพวกผู้หญิงทุกคนจะได้ยินถึงสิ่งที่พระนางได้ทำไป แล้วพวกเขาเหล่านั้นจะพากันดูถูกสามีของตน พวกเขาจะอ้างว่า ‘ตอนที่กษัตริย์อาหสุเอรัสสั่งให้ราชินีวัชทีเข้าเฝ้า พระนางยังไม่ยอมไปเข้าเฝ้ากษัตริย์เลย’

18 ในวันนี้ พวกภรรยาของเจ้าหน้าที่ในเปอร์เซียและมีเดีย ที่ได้ยินถึงสิ่งที่ราชินีได้ทำไป ก็จะพูดอย่างนั้นเหมือนกันกับสามีของพวกเขาที่เป็นเจ้าหน้าที่ของกษัตริย์ และการดูถูกและความโกรธเกรี้ยวก็จะเกิดขึ้นอย่างไม่รู้จักจบสิ้น

19 ดังนั้นถ้าพระองค์เห็นด้วย ข้าพเจ้าขอแนะนำว่า ให้พระองค์ออกคำสั่งและให้จดบันทึกไว้ในกฎหมายของเปอร์เซียและมีเดีย ที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ คือ ราชินีวัชทีไม่อาจเข้าเฝ้ากษัตริย์อาหสุเอรัสได้อีกต่อไป และพระองค์จะมอบตำแหน่งราชินีของพระนาง ให้กับหญิงอื่นที่ดีกว่า 20 แล้วคำสั่งนี้ของพระองค์ จะถูกประกาศไปทั่วราชอาณาจักรอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ แล้วพวกผู้หญิงทั้งหลายจะได้ให้เกียรติสามีของตน ไม่ว่าสามีของเขาจะเป็นคนมีหน้ามีตาหรือคนต่ำต้อยก็ตาม”

21 ทั้งกษัตริย์และพวกเจ้าหน้าที่ทั้งหลายของพระองค์ ต่างพอใจมากกับคำแนะนำนี้ ดังนั้นกษัตริย์จึงทำตามคำแนะนำของเมมูคาน

กิจการ 4:13-31

13 เมื่อพวกผู้นำชาวยิวเห็นถึงความกล้าหาญของเปโตรกับยอห์น และเห็นว่าทั้งสองเป็นแค่คนธรรมดาๆที่ไม่ได้รับการศึกษาหรือฝึกฝนอะไรมาเป็นพิเศษ พวกเขาก็ยิ่งแปลกใจ พวกเขาต่างก็นึกขึ้นมาได้ว่า เปโตรและยอห์นเคยอยู่กับพระเยซูมาก่อน 14 ยิ่งพวกเขาได้เห็นชายง่อยซึ่งได้รับการรักษาจนหายดีแล้วยืนอยู่ข้างๆเปโตรและยอห์น พวกเขาก็ยิ่งพูดอะไรไม่ออก 15 ผู้นำชาวยิวก็สั่งให้เปโตรและยอห์นออกไปจากที่ประชุม แล้วก็ปรึกษากันว่า 16 “พวกเราจะเอาอย่างไรดีกับสองคนนี้ เพราะทุกคนที่อยู่ในเมืองเยรูซาเล็มก็รู้ว่า สองคนนี้ได้ทำเรื่องปาฏิหาริย์ที่ยิ่งใหญ่ เป็นสิ่งที่เห็นชัดแจ้งและพวกเราก็ปฏิเสธไม่ได้ 17 แต่เพื่อไม่ให้เรื่องนี้แพร่กระจายต่อไปในหมู่คนทั้งหลาย เราต้องขู่พวกเขาไม่ให้พูดถึงชื่อเยซูกับใครอีก”

18 จากนั้นเขาก็เรียกเปโตร และยอห์นเข้ามาเพื่อสั่งห้ามคนทั้งสอง ไม่ให้พูดหรือสั่งสอนอะไรเกี่ยวกับพระเยซู หรือแม้แต่จะอ้างชื่อของพระองค์อีก 19 แต่เปโตรและยอห์นตอบว่า “ท่านคิดดูเอาเองว่า มันถูกหรือเปล่า ที่จะให้เราเชื่อฟังท่าน แทนที่จะเชื่อฟังพระเจ้า 20 เป็นไปไม่ได้ที่จะให้เราเลิกพูดในสิ่งที่เราได้เห็นและได้ยิน” 21 หลังจากที่ได้ขู่เปโตรและยอห์นแล้ว พวกเขาก็ปล่อยตัวทั้งสองคนไป เพราะไม่รู้ว่าจะลงโทษอย่างไร เพราะทุกคนต่างพากันสรรเสริญพระเจ้าในเรื่องอัศจรรย์ที่เกิดขึ้น 22 อีกทั้งชายที่ได้รับการรักษา ด้วยการอัศจรรย์จนหายเป็นปกตินี้ มีอายุมากกว่าสี่สิบปีแล้ว

เปโตรและยอห์นกลับไปหาเหล่าผู้เชื่อ

23 เมื่อเขาปล่อยเปโตรและยอห์นแล้ว ทั้งสองก็กลับไปหาพรรคพวก และเล่าเรื่องทั้งหมดที่หัวหน้านักบวชสูงสุดและพวกผู้อาวุโสพูดกับพวกเขาไว้ 24 เมื่อเหล่าผู้เชื่อได้ยินอย่างนั้น ทุกคนก็เปล่งเสียงอธิษฐานต่อพระเจ้าพร้อมกันว่า “องค์เจ้าชีวิต พระองค์เป็นผู้สร้างท้องฟ้า สร้างโลก สร้างทะเลและทุกสิ่งที่มีในที่เหล่านั้น 25 พระองค์พูดไว้ด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ ผ่านปากผู้รับใช้พระองค์ คือดาวิดบรรพบุรุษของเราว่า

‘ทำไมชนชาติต่างๆถึงได้โกรธแค้น
    ทำไมผู้คนถึงได้วางแผนที่ไร้ประโยชน์
26 พวกกษัตริย์ในโลก ต่างเตรียมพร้อมที่จะสู้รบ
    และพวกผู้ปกครองรวมตัวกันต่อต้านองค์เจ้าชีวิต
และต่อต้านกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ของพระเจ้า’[a]

27 แล้วเหตุการณ์ตามที่ได้เขียนอยู่ในพระคัมภีร์ก็เกิดขึ้น เมื่อเฮโรด[b] และปอนทัส ปีลาต[c] รวมทั้งพวกต่างชาติ และประชาชนชาวอิสราเอล ได้รวมตัวกันในเมืองเพื่อต่อต้านพระเยซูผู้รับใช้ที่ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ ผู้ที่พระองค์ได้เจิมให้เป็นพระคริสต์ 28 แต่ความจริงแล้ว พวกนี้ก็ได้ทำทุกสิ่งทุกอย่าง ตามแผนที่พระองค์ได้วางไว้ก่อนล่วงหน้าแล้วที่จะให้เกิดขึ้น ซึ่งเป็นไปตามฤทธิ์อำนาจ และตามความต้องการของพระองค์ 29 ตอนนี้องค์เจ้าชีวิต ขอโปรดฟังคำขู่ของพวกเขา และช่วยพวกเราผู้รับใช้ของพระองค์ให้กล้าที่จะประกาศพระคำของพระองค์ด้วยเถิด 30 ขอโปรดยื่นมือของพระองค์ออกมารักษาโรค และทำเรื่องอัศจรรย์และปาฏิหาริย์ ผ่านทางชื่อของพระเยซู ผู้รับใช้ที่ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์”

31 เมื่อพวกผู้เชื่ออธิษฐานเสร็จ ที่ที่พวกเขามารวมตัวกันก็สั่นสะเทือน จากนั้นพวกเขาทุกคนก็เต็มไปด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ และเริ่มประกาศพระคำของพระเจ้าอย่างกล้าหาญ

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International