Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

Revised Common Lectionary (Semicontinuous)

Daily Bible readings that follow the church liturgical year, with sequential stories told across multiple weeks.
Duration: 1245 days
New Thai Version (NTV-BIBLE)
Version
สดุดี 111

พระเจ้าปฏิบัติงาน

สรรเสริญพระผู้เป็นเจ้า

ข้าพเจ้าจะขอบคุณพระผู้เป็นเจ้าอย่างสุดจิตสุดใจของข้าพเจ้า
    ในสภาอันเป็นที่ประชุมของผู้มีความชอบธรรม
สิ่งที่พระผู้เป็นเจ้ากระทำใหญ่ยิ่งนัก
    และน่าศึกษาสำหรับทุกคนที่ยินดีในการกระทำของพระองค์
สิ่งที่พระองค์กระทำนั้นยิ่งใหญ่และควรแก่การสรรเสริญ
    และความชอบธรรมของพระองค์ดำรงอยู่ตลอดกาล
พระองค์ทำให้สิ่งมหัศจรรย์ของพระองค์เป็นที่กล่าวถึง
    พระผู้เป็นเจ้ามีพระคุณและเมตตายิ่งนัก
คนที่เกรงกลัวในพระองค์จะมีอาหารรับประทาน
    พระองค์จดจำพันธสัญญาของพระองค์ได้เสมอ
พระองค์ให้ชนชาติของพระองค์รู้แจ้งถึงการกระทำอันกอปรด้วยอานุภาพของพระองค์
    โดยให้ได้เป็นเจ้าของดินแดนซึ่งเป็นของบรรดาประชาชาติ
มือของพระองค์กระทำสิ่งอันสัตย์จริงและเป็นธรรม
    ข้อบังคับทุกข้อของพระองค์เป็นที่วางใจได้
และทุกข้อก็ถูกจัดตั้งไว้ให้ยืนยงชั่วนิรันดร์กาล
    เพื่อให้ปฏิบัติตามด้วยความสัตย์จริงและความเที่ยงธรรม
พระองค์ไถ่ชนชาติของพระองค์
    พระองค์บัญชาให้รักษาพันธสัญญาของพระองค์ไว้ตลอดกาล
    พระนามของพระองค์บริสุทธิ์และน่าเกรงขาม
10 ความเกรงกลัวพระผู้เป็นเจ้าคือจุดเริ่มต้นของสติปัญญา
    ทุกคนที่ปฏิบัติตามก็ฉลาดรอบรู้
    ให้การสรรเสริญของพระองค์คงอยู่เป็นนิตย์

1 พงศ์กษัตริย์ 2:1-11

ดาวิดสั่งการกับซาโลมอน

เมื่อใกล้เวลาที่ดาวิดจะสิ้นชีวิต ท่านสั่งซาโลมอนบุตรของท่านว่า “พ่อกำลังจะไปยังที่ที่วันหนึ่งทุกคนต้องไป เจ้าจงเข้มแข็งและแสดงความเป็นลูกผู้ชายให้ประจักษ์แจ้ง และปฏิบัติตามข้อกำหนดของพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเจ้า ดำเนินตามวิถีทางของพระองค์ และรักษากฎเกณฑ์ของพระองค์ พระบัญญัติ คำบัญชา และคำสั่งของพระองค์ ตามที่มีบันทึกไว้ในกฎบัญญัติของโมเสส เจ้าจะได้เจริญในทุกสิ่งที่เจ้าทำและในทุกแห่งที่เจ้าไป เพื่อพระผู้เป็นเจ้าจะได้ทำตามพระสัญญาที่พระองค์ได้กล่าวถึงเราว่า ‘ถ้าหากว่าบรรดาบุตรของเจ้าตั้งใจให้มั่นในวิถีทางของพวกเขา ว่าจะดำเนินชีวิตด้วยความสัตย์ ณ เบื้องหน้าเราอย่างสุดดวงใจ และสุดดวงจิต แล้วอิสราเอลก็จะไม่มีวันไร้ชายที่จะครองบัลลังก์’

ยิ่งกว่านั้น เจ้าก็รู้ด้วยว่า โยอาบบุตรของนางเศรุยาห์ได้กระทำสิ่งใดต่อเราบ้าง เขาได้กระทำการใดๆ ต่อผู้บัญชาทั้งสองของกองทัพของอิสราเอล เขาเป็นคนฆ่าอับเนอร์บุตรเนอร์[a] และอามาสาบุตรเยเธอร์[b] คือเขาลงมือแก้แค้นจนถึงขั้นเลือดตกในยามสันติ ราวกับว่าเป็นการกระทำในยามสงคราม เข็มขัดที่เขาคาดรอบเอว และรองเท้าที่เขาสวมมีเลือดติดอยู่ด้วย กระทำตามสติปัญญาที่เจ้ามี แต่อย่าปล่อยให้ศีรษะหงอกของเขาลงไปสู่แดนคนตายอย่างสันติ แต่จงแสดงความกรุณาต่อบรรดาบุตรของบาร์ซิลลัยแห่งกิเลอาด และให้พวกเขาร่วมรับประทานกับคนอื่นๆ ที่โต๊ะของเจ้า เมื่อยามที่พ่อหนีอับซาโลมพี่ชายของเจ้า เขาเหล่านั้นยืนอยู่เคียงข้างพ่อ[c] และจงจำไว้ว่า ชิเมอีบุตรของเก-ราชาวเบนยามินจากบาฮูริมได้สาปแช่งพ่อในวันที่พ่อไปที่มาหะนาอิม เมื่อเขาลงมาพบกับพ่อที่แม่น้ำจอร์แดน พ่อได้สัญญากับเขาในพระนามของพระผู้เป็นเจ้าว่า ‘เราจะไม่ฆ่าฟันเจ้าให้ตาย’[d] แต่มาบัดนี้ อย่าถือว่าเขาไม่มีความผิด เจ้าเป็นคนที่มีสติปัญญา เจ้าจะรู้เองว่าควรกระทำอย่างไรต่อเขา จงทำให้ศีรษะหงอกของเขาจมในกองเลือดที่หลุมฝังศพของเขา”

ดาวิดสิ้นชีวิต

10 จากนั้นดาวิดก็สิ้นชีวิตและถูกนำไปวางรวมกับบรรพบุรุษของท่าน ศพถูกบรรจุไว้ในเมืองของดาวิด 11 ท่านปกครองอิสราเอลเป็นเวลา 40 ปี คือ 7 ปีในเฮโบรน และ 33 ปีในเยรูซาเล็ม

ยอห์น 4:7-26

พระเยซูได้กล่าวกับหญิงชาวสะมาเรียผู้หนึ่งที่มาตักน้ำว่า “ขอน้ำให้เราดื่มหน่อยเถิด” เนื่องจากในขณะนั้นพวกสาวกของพระองค์กำลังไปซื้ออาหารในเมือง หญิงชาวสะมาเรียผู้นั้นพูดกับพระองค์ว่า “เป็นไปได้อย่างไรที่ท่านผู้เป็นชาวยิวจะมาขอน้ำดื่มจากข้าพเจ้า ในเมื่อข้าพเจ้าเป็นหญิงชาวสะมาเรีย” (ด้วยเหตุว่าชาวยิวไม่คบหากับชาวสะมาเรีย) 10 พระเยซูตอบนางว่า “ถ้าเจ้ารู้จักของประทานจากพระเจ้า และรู้จักผู้ที่พูดกับเจ้าว่า ‘ขอน้ำให้เราดื่มหน่อยเถิด’ เจ้าก็คงจะขอจากท่านผู้นั้น และท่านผู้นั้นก็จะให้น้ำอันก่อให้เกิดชีวิตแก่เจ้า” 11 นางพูดกับพระองค์ว่า “นายท่าน ท่านไม่มีอะไรมาตักน้ำ มิหนำซ้ำบ่อก็ลึกเสียด้วย แล้วท่านจะเอาน้ำอันก่อให้เกิดชีวิตมาจากไหน 12 ท่านยิ่งใหญ่กว่ายาโคบบรรพบุรุษของเราผู้มอบบ่อน้ำนี้ให้แก่เราหรือ ยาโคบเองได้ดื่มน้ำจากบ่อนี้รวมทั้งบรรดาบุตรและพวกแพะแกะด้วย”

13 พระเยซูตอบว่า “ทุกคนที่ดื่มน้ำนี้จะกระหายอีก 14 แต่ผู้ใดก็ตามที่ดื่มน้ำที่เราให้จะไม่มีวันกระหาย น้ำที่เราให้แก่เขาจะกลายเป็นบ่อน้ำพุในตัวเขา พุ่งขึ้นสู่ชีวิตอันเป็นนิรันดร์” 15 หญิงนั้นพูดกับพระองค์ว่า “นายท่าน โปรดให้น้ำนี้แก่ข้าพเจ้าเถิด จะได้ไม่กระหายหรือต้องมาตักน้ำที่นี่อยู่ร่ำไป”

16 พระองค์บอกนางว่า “จงไปเรียกสามีเจ้ามานี่เถิด” 17 นางตอบว่า “ข้าพเจ้าไม่มีสามี” พระเยซูกล่าวกับนางว่า “เจ้าพูดถูกแล้วที่ว่าไม่มีสามี 18 ความจริงเจ้ามีมาแล้วถึง 5 คน และชายที่เจ้ามีเวลานี้ก็ไม่ใช่สามีของเจ้า สิ่งที่เจ้าพูดมานี้จริงทีเดียว” 19 หญิงนั้นพูดว่า “นายท่าน ข้าพเจ้าเห็นแล้วว่าท่านเป็นผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้า 20 บรรพบุรุษของเราได้นมัสการที่ภูเขานี้ และพวกท่านพูดว่าเมืองเยรูซาเล็มเป็นสถานที่ที่ควรใช้ในการนมัสการ” 21 พระเยซูกล่าวกับนางว่า “หญิงเอ๋ย เชื่อเราเถิดว่า จะถึงเวลาที่พวกเจ้าจะนมัสการพระบิดาในที่ซึ่งไม่ใช่ภูเขานี้หรือที่เมืองเยรูซาเล็ม 22 พวกเจ้านมัสการอะไรที่เจ้าไม่รู้จัก แต่พวกเรานมัสการสิ่งที่เรารู้จัก เพราะความรอดพ้นมาจากพวกชาวยิว 23 แต่จะถึงเวลา ที่จริงบัดนี้ก็ถึงเวลาแล้วที่พวกนมัสการแท้จะนมัสการพระบิดาด้วยวิญญาณและความจริง เพราะว่าพระบิดาแสวงหาผู้คนเหล่านี้ให้เป็นผู้นมัสการพระองค์ 24 พระเจ้าเป็นพระวิญญาณ ดังนั้นบรรดาผู้ที่นมัสการพระองค์ ต้องนมัสการด้วยวิญญาณและความจริง” 25 หญิงนั้นพูดว่า “ข้าพเจ้าทราบว่าพระเมสสิยาห์กำลังจะมา (คือผู้ที่เรียกว่าพระคริสต์) พระองค์จะประกาศทุกสิ่งแก่เราเมื่อมาถึง” 26 แล้วพระเยซูกล่าวกับนางว่า “เราที่พูดอยู่กับเจ้าคือผู้นั้น”[a]

New Thai Version (NTV-BIBLE)

Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation