Revised Common Lectionary (Semicontinuous)
คนโง่ถูกตัดสินโทษ
ถึงหัวหน้าวงดนตรี เพลงสดุดีของดาวิด
1 คนโง่เขลาคิดอยู่ในใจว่า
“พระเจ้าไม่มีจริง”
พวกเขาไร้ศีลธรรม และทำสิ่งที่น่าขยะแขยง
ไม่มีผู้ใดกระทำความดี
2 พระผู้เป็นเจ้ามองลงมาจากสวรรค์ ดูว่า
มีใครสักคนในบรรดาบุตรของมนุษย์
ที่เข้าใจและแสวงหาพระเจ้า
3 ทุกคนหลงผิดไป เขากลายเป็นคนไร้ศีลธรรมกันไปหมด
ไม่มีผู้ใดกระทำความดี
ไม่มีแม้แต่คนเดียว[a]
4 พวกที่ทำความชั่วไม่เข้าใจหรือ
พวกเขากินชนชาติของเราเหมือนกินขนมปัง
และไม่ร้องเรียกถึงพระผู้เป็นเจ้า
5 นั่นแหละ พวกเขาก็จะหวาดหวั่นยิ่งนัก
เพราะพระเจ้าสถิตกับบรรดาผู้มีความชอบธรรม
6 พวกเจ้าทำให้แผนการของผู้อ่อนกำลังไม่ราบรื่น
แต่พระผู้เป็นเจ้าเป็นที่พึ่งของเขา
7 ขอให้ความรอดพ้นของอิสราเอลมาจากศิโยน
เวลาที่พระผู้เป็นเจ้าทำให้ความอุดมสมบูรณ์ของชนชาติของพระองค์คืนสู่สภาพเดิม
ยาโคบจะชื่นชมยินดี อิสราเอลจะร่าเริงใจ
13 ดังนั้นโยอาบและคนที่อยู่กับเขาขยับเข้าใกล้ประจัญศึกกับชาวอารัม และชาวอารัมก็ถอยหนีไปต่อหน้าต่อตาเขา 14 ครั้นชาวอัมโมนเห็นว่าชาวอารัมหนีไป พวกเขาจึงถอยหนีไปต่อหน้าอาบีชัยเช่นกัน และเข้าไปในเมือง แล้วโยอาบก็กลับจากการสู้รบกับชาวอัมโมน และมายังเยรูซาเล็ม
15 เมื่อชาวอารัมเห็นว่าพวกตนพ่ายแพ้อิสราเอลแล้ว จึงได้รวบรวมคนเข้าด้วยกัน 16 ฮาดัดเอเซอร์ให้ชาวอารัมที่อยู่โพ้นแม่น้ำยูเฟรติสออกมา พวกเขามาถึงเมืองเฮลาม โดยมีโชบัคผู้บังคับกองพันทหารของฮาดัดเอเซอร์เป็นผู้นำ 17 เมื่อมีคนรายงานเรื่องแก่ดาวิด ท่านก็รวบรวมอิสราเอลเข้าด้วยกัน และข้ามแม่น้ำจอร์แดน มาจนถึงเฮลาม ชาวอารัมตั้งทัพของตนปะทะกับดาวิด และพวกเขาก็สู้รบกับท่าน 18 และชาวอารัมก็ถอยหนีไปต่อหน้าอิสราเอล ดาวิดฆ่าสารถีชาวอารัม 700 คน และทหารราบ 40,000 คน และโชบัคผู้บังคับกองพันทหารบาดเจ็บสาหัสและสิ้นชีวิตที่นั่น 19 เมื่อบรรดากษัตริย์ทั้งปวงที่ขึ้นกับฮาดัดเอเซอร์เห็นว่าตนพ่ายแพ้อิสราเอลแล้ว พวกเขาจึงยอมสงบศึกกับอิสราเอล และขึ้นกับพวกเขา ดังนั้นชาวอารัมจึงไม่กล้าช่วยเหลือชาวอัมโมนอีกต่อไป
31 ในขณะเดียวกันบรรดาสาวกก็ขอร้องพระองค์ว่า “รับบี เชิญรับประทาน” 32 แต่พระองค์กล่าวว่า “เรามีอาหารสำหรับรับประทานที่เจ้าไม่รู้จัก” 33 บรรดาสาวกพูดโต้ตอบกันว่า “ไม่มีผู้ใดนำอาหารมาให้พระองค์มิใช่หรือ” 34 พระเยซูกล่าวกับพวกเขาว่า “อาหารของเราคือการกระทำตามความประสงค์ของพระองค์ผู้ส่งเรามา และทำงานของพระองค์ให้เสร็จบริบูรณ์ 35 เจ้าไม่ได้พูดเช่นนี้หรือว่า ‘อีก 4 เดือนก็จะถึงฤดูเกี่ยวข้าวแล้ว’ เราขอบอกเจ้าว่า จงเปิดตาดูทุ่งนาอันเหลืองอร่ามเถิดว่าถึงเวลาเก็บเกี่ยวแล้ว 36 ผู้เก็บเกี่ยวก็จะได้รับค่าแรง และรวบรวมพืชผลสำหรับชีวิตอันเป็นนิรันดร์ และเพื่อทั้งคนหว่านและคนเก็บเกี่ยวก็จะได้ชื่นชมยินดีร่วมกัน 37 ในกรณีนี้ คำกล่าวนั้นเป็นความจริงที่ว่า ‘คนหนึ่งหว่าน และอีกคนเก็บเกี่ยว’ 38 เราส่งพวกเจ้าไปเก็บเกี่ยวสิ่งที่เจ้าไม่ได้ลงแรง คนอื่นๆ ได้ลงแรง และเจ้าได้รับประโยชน์จากแรงของเขา”
Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation