Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

Revised Common Lectionary (Semicontinuous)

Daily Bible readings that follow the church liturgical year, with sequential stories told across multiple weeks.
Duration: 1245 days
Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
สดุดี 18:1-6

ขอบคุณพระยาห์เวห์สำหรับชัยชนะ

(2 ซมอ. 22:1-51)

ถึงหัวหน้านักร้อง เพลงของดาวิด ผู้รับใช้พระยาห์เวห์ ดาวิดร้องเพลงบทนี้ให้กับพระยาห์เวห์ ในวันที่พระองค์ช่วยท่านให้พ้นจากเงื้อมมือของพวกศัตรูทั้งหมด และจากเงื้อมมือของซาอูล

ดาวิดพูดว่า ข้าแต่พระยาห์เวห์ ผู้เป็นกำลังของข้าพเจ้า
    ข้าพเจ้ารักพระองค์
พระยาห์เวห์ คือหินกำบังของข้าพเจ้า คือป้อมปราการของข้าพเจ้า คือผู้ช่วยชีวิตของข้าพเจ้า
    พระเจ้าของข้าพเจ้า คือหินกำบังที่ข้าพเจ้าเข้าไปลี้ภัย คือโล่กำบังของข้าพเจ้า
    คือฤทธิ์อำนาจ[a] ที่ช่วยกู้ชีวิตข้าพเจ้า คือที่ซ่อนที่ปลอดภัยของข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าร้องขอความช่วยเหลือจากพระยาห์เวห์ผู้ที่ควรค่าแก่การสรรเสริญ
    แล้วพระองค์ก็ช่วยข้าพเจ้าให้พ้นจากพวกศัตรู

เชือกแห่งความตายได้มัดตัวข้าพเจ้าไว้
    และกระแสน้ำแห่งความตายกำลังจะทำให้ข้าพเจ้าจม
เชือกแห่งแดนคนตายพันอยู่รอบๆตัวข้าพเจ้า
    กับดักแห่งความตายอยู่ตรงหน้าข้าพเจ้า
เมื่อข้าพเจ้าตกอยู่ในความทุกข์ยาก ข้าพเจ้าร้องเรียกพระยาห์เวห์
    ข้าพเจ้าร้องขอความช่วยเหลือจากพระเจ้าของข้าพเจ้า
พระองค์ได้ยินเสียงของข้าพเจ้าจากวังของพระองค์นั้น
    เสียงร้องของข้าพเจ้าได้ยินไปถึงหูของพระองค์

สดุดี 18:43-50

43 พระองค์ช่วยให้ข้าพเจ้ารอดพ้นจากกองทัพศัตรูที่เข้ามาโจมตี
    พระองค์ทำให้ข้าพเจ้าเป็นหัวหน้าของชนชาติต่างๆเหล่านั้น
    แม้แต่คนที่ข้าพเจ้าไม่รู้จัก ก็รับใช้ข้าพเจ้า
44 ทันทีที่พวกเขาได้ยินเรื่องของข้าพเจ้า พวกเขาต่างยอมสยบต่อข้าพเจ้า
    คนต่างชาติหมอบลงต่อหน้าข้าพเจ้า
45 คนต่างชาติพวกนั้นขวัญหนีดีฝ่อ
    พากันออกมาจากที่ซ่อนตัวสั่นงันงกด้วยความกลัว

46 ใช่แล้ว พระยาห์เวห์มีชีวิตอยู่ ให้สรรเสริญพระเจ้าผู้เป็นหินกำบังของข้าพเจ้า
    ให้ยกย่องพระเจ้าผู้ช่วยให้ข้าพเจ้ารอดพ้น
47 พระองค์ เป็นพระเจ้าผู้ลงโทษศัตรูของข้าพเจ้า
    และทำให้ชนชาติต่างๆยอมสยบอยู่ใต้ข้าพเจ้า
48 พระองค์ช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้นจากศัตรูของข้าพเจ้า
    ใช่แล้ว พระองค์ยกข้าพเจ้าขึ้นเหนือคนเหล่านั้นที่ลุกขึ้นมาต่อสู้กับข้าพเจ้า
    พระองค์ช่วยให้ข้าพเจ้ารอดจากศัตรูที่โหดร้าย

49 ดังนั้น ข้าแต่พระยาห์เวห์ ข้าพเจ้าจะสรรเสริญพระองค์ท่ามกลางชนชาติทั้งหลาย
    ข้าพเจ้าจะร้องเพลงสรรเสริญชื่อของพระองค์
50 พระองค์ให้ชัยชนะอันยิ่งใหญ่กับกษัตริย์ของพระองค์
    พระองค์ให้ความรักอันมั่นคงกับกษัตริย์ที่พระองค์ได้เลือกไว้[a]
    ซึ่งก็คือดาวิดและลูกหลานของเขาตลอดไป

1 พงศาวดาร 10

กษัตริย์ซาอูลตาย

(1 ซมอ. 31:1-13)

10 ชาวฟีลิสเตียได้สู้รบกับชาวอิสราเอล และคนอิสราเอลก็ได้วิ่งหนีชาวฟีลิสเตีย และถูกฆ่าตายเป็นจำนวนมากบนภูเขากิลโบอา ชาวฟีลิสเตียไล่ติดตามซาอูลกับบรรดาลูกชายของเขาไป และได้ฆ่าโยนาธาน อาบีนาดับและมัลคีชูวาที่เป็นลูกชายของซาอูล ซาอูลไม่สามารถต้านทานการสู้รบได้อีกต่อไป และพลธนูก็ยิงลูกธนูมาถูกเขา และตัวเขาก็เริ่มสั่นเทิ้มด้วยความกลัว[a] พลธนูเหล่านั้น

ซาอูลจึงพูดกับคนถืออาวุธ[b] ของเขาว่า “ดึงดาบของเจ้าออกมาแทงเราซะ เพื่อว่าคนที่ไม่ได้ขลิบ[c] พวกนั้นจะได้ไม่มาทรมานล้อเลียนเรา”

แต่คนถืออาวุธนั้นไม่ยอมทำตามเพราะกลัวมาก ซาอูลจึงชักดาบของตนออกมา และล้มทับดาบนั้นจนตาย เมื่อคนถืออาวุธนั้นเห็นว่าซาอูลตายแล้ว เขาก็ล้มทับดาบของเขาตายตามไปด้วย ซาอูลและลูกชายทั้งสามคนของเขารวมทั้งครอบครัวของเขาจึงตายกันหมด

เมื่อคนทั้งหมดของอิสราเอลที่อยู่ในหุบเขาเห็นว่าซาอูลกับลูกชายของเขาได้หนีไปและตายแล้ว พวกเขาจึงได้ละทิ้งเมืองต่างๆของพวกเขาและวิ่งหนีเอาตัวรอด แล้วพวกฟีลิสเตียก็เข้ามาอยู่อาศัยในเมืองของพวกเขาแทน

วันต่อมา พวกฟีลิสเตียได้มาเก็บเอาสิ่งของมีค่าจากศพและพวกเขาก็ได้พบศพของซาอูลกับลูกชายของเขานอนตายอยู่บนภูเขากิลโบอา พวกเขาจึงถอดเสื้อผ้าของซาอูลออกและตัดหัวของเขา พวกเขาเอาหัวของซาอูลและเสื้อเกราะไป และให้คนส่งข่าวออกไปทั่วแผ่นดินของฟีลิสเตีย เพื่อประกาศข่าวดีนี้กับพวกรูปเคารพของพวกเขา และกับประชาชนทั้งหลาย 10 และพวกเขาก็ได้เอาเสื้อเกราะไปไว้ในวิหารของพระของพวกเขา และเอาหัวของซาอูลตอกไว้ในวิหารของพระดาโกน[d]

11 เมื่อประชาชนทั้งหมดในยาเบชกิเลอาดได้ยินเรื่องที่พวกฟีลิสเตียได้ทำกับซาอูล 12 เหล่าผู้กล้าทั้งหมดจึงได้ไปแย่งศพของซาอูลกับศพของบรรดาลูกชายของเขา และนำกลับมาที่ยาเบช-กิเลอาด แล้วพวกเขาก็ได้ฝังกระดูกของซาอูลกับลูกๆไว้ใต้ต้นโอ๊คในยาเบช-กิเลอาด และอดอาหารให้เป็นเวลาเจ็ดวัน

13 ซาอูลตายก็เพราะความไม่ซื่อสัตย์ของเขาต่อพระยาห์เวห์ เขาไม่ยอมเชื่อฟังคำสั่งของพระยาห์เวห์ และเขายังได้ไปขอคำปรึกษาจากพวกคนทรงเจ้า[e] 14 แทนที่จะขอให้พระยาห์เวห์นำ พระองค์จึงได้ฆ่าเขาตายและเอาแผ่นดินของเขามอบให้กับดาวิดลูกชายของเจสซี

มาระโก 9:14-29

พระเยซูรักษาเด็กที่มีผีชั่วสิงอยู่

(มธ. 17:14-20; ลก. 9:37-43)

14 เมื่อพวกเขาลงมาถึงที่ๆพวกศิษย์คนอื่นๆอยู่ ก็เห็นฝูงชนจำนวนมากรุมล้อมพวกศิษย์เหล่านั้น พวกครูสอนกฎปฏิบัติกำลังเถียงกับศิษย์พวกนั้นอยู่ 15 เมื่อฝูงชนเห็นพระเยซู ก็รู้สึกแปลกใจมาก แล้วพากันวิ่งมาต้อนรับพระองค์

16 พระเยซูถามว่า “กำลังเถียงกันเรื่องอะไร”

17 ชายคนหนึ่งในฝูงชนตอบว่า “อาจารย์ครับ ผมพาลูกชายมาหาท่าน เขาถูกผีชั่วสิงทำให้พูดไม่ได้ 18 ทุกครั้งที่มันแผลงฤทธิ์ออกมา เด็กจะล้มลง น้ำลายฟูมปาก กัดฟันแน่น ตัวแข็งทื่อไปหมด ผมขอให้พวกศิษย์ของท่านขับผีชั่วออกให้ แต่พวกเขาก็ทำไม่ได้”

19 แล้วพระเยซูพูดว่า “พวกขาดความเชื่อ เราจะต้องอยู่กับพวกคุณไปอีกนานแค่ไหน เราจะต้องอดทนกับพวกคุณไปถึงไหน พาเด็กนั้นมานี่ซิ”

20 พวกเขาก็พาเด็กมา เมื่อผีชั่วในเด็กเห็นพระเยซู มันก็ทำให้เด็กชักกระตุกอย่างแรง ล้มลงกลิ้งไปกลิ้งมาบนพื้น น้ำลายฟูมปาก

21 พระเยซูก็ถามพ่อของเด็กว่า “เป็นอย่างนี้มานานแล้วหรือยัง” พ่อเด็กตอบว่า “เป็นตั้งแต่เล็กๆเลยครับ 22 ไอ้ผีชั่วจะฆ่าเขาหลายครั้งแล้ว ทำให้ตกลงไปในไฟบ้าง หรือตกน้ำบ้าง ถ้าอาจารย์ช่วยได้ก็โปรดสงสารช่วยพวกเราด้วยเถิด”

23 พระเยซูจึงตอบว่า “ทำไมถึงพูดว่า ‘ถ้าอาจารย์ช่วยได้’ ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปได้สำหรับคนที่เชื่อ”

24 พ่อของเด็กจึงรีบร้องบอกทันทีว่า “ผมเชื่อครับ ช่วยทำให้ผมเชื่อมากขึ้นด้วยครับ”

25 เมื่อพระองค์เห็นว่าคนเริ่มมามุงดูมากขึ้น พระองค์ตวาดผีชั่วว่า “ไอ้ผีชั่วที่ทำให้คนหูหนวกและเป็นใบ้ เราสั่งให้แกออกมาจากเด็กคนนั้น และอย่าได้เข้าสิงเขาอีกเป็นอันขาด”

26 ผีชั่วก็กรีดร้องเสียงดัง มันทำให้เด็กชักกระตุกอย่างแรง แล้วออกจากร่างเด็กไป เด็กนั้นก็แน่นิ่งเหมือนตายแล้ว มีเสียงบ่นกันพึมพำว่า “เขาตายแล้ว” 27 แต่พระเยซูจับมือของเด็กและพยุงเขาขึ้นมา เด็กก็ลุกขึ้นยืน

28 เมื่อพระเยซูเข้าไปในบ้าน พวกศิษย์มาถามพระองค์ส่วนตัวว่า “อาจารย์ ทำไมพวกเราถึงไล่ผีชั่วตัวนั้นไม่ได้ล่ะครับ”

29 พระองค์บอกว่า “มีทางเดียวที่จะไล่ผีชั่วชนิดนี้ออกได้ คือต้องอธิษฐาน”[a]

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International