Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

Revised Common Lectionary (Semicontinuous)

Daily Bible readings that follow the church liturgical year, with sequential stories told across multiple weeks.
Duration: 1245 days
Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
สดุดี 53

ความชั่วช้าของมนุษย์

ถึงหัวหน้านักร้อง ให้ร้องตามทำนองเพลงของมาฮาลาธ[a] บทกวีมัสคิลของดาวิด

คนโง่พูดอยู่ในใจของตัวเองว่า “ไม่มีพระเจ้าหรอก”
    พวกเขาเสื่อมทราม พวกเขาทำความบาปที่น่าขยะแขยง
    ไม่มีสักคนที่ทำดี
พระเจ้ามองลงมาจากสวรรค์ดูพวกมนุษย์ เพื่อหาว่ายังมีมนุษย์สักคนไหม
    ที่ทำสิ่งที่ฉลาดและแสวงหาพระเจ้า
แต่พวกเขาต่างหลงทางกันไปหมด เสื่อมทรามกันทุกคน
    ไม่มีใครเลย ไม่มีแม้แต่คนเดียว ที่ทำสิ่งที่ดี

คนทำชั่วเหล่านั้นกลืนกินคนของเราเหมือนกินขนมปัง
    พวกเขาไม่เคยอธิษฐานต่อพระเจ้า
    พวกเขาไม่รู้เรื่องขนาดนี้เชียวหรือ

แต่เมื่อพระเจ้าลงโทษพวกคนชั่ว
    พวกเขาจะพากันตื่นกลัวสุดขีดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
คนเหล่านั้นที่โจมตีพวกเจ้า พระเจ้าจะทำให้กระดูกของพวกเขากระจุยกระจายไป
    พวกเจ้าจะทำให้พวกเขาอับอายขายหน้าเพราะพระเจ้าทอดทิ้งพวกเขาแล้ว

ข้าพเจ้าหวังว่าชัยชนะของชาวอิสราเอลจะมาถึงในไม่ช้านี้จากพระเจ้าที่อยู่บนภูเขาศิโยน
    เมื่อพระยาห์เวห์ทำให้คนของพระองค์กลับไปมีความสุขเหมือนเมื่อก่อน
    ครอบครัวของยาโคบจะชื่นชมยินดี ชาวอิสราเอลจะดีใจ

1 ซามูเอล 13:23-14

23 ตอนนี้กองกำลังกองหนึ่งของฟีลิสเตียได้เดินทางมาถึงทางข้ามที่จะไปเมืองมิคมาชแล้ว

โยนาธานสู้กับคนฟีลิสเตีย

14 วันหนึ่งโยนาธานลูกชายของซาอูลได้พูดกับเด็กหนุ่มผู้ถืออาวุธของเขาว่า “มาเถอะ ให้พวกเราไปที่ค่ายของคนฟีลิสเตียที่อยู่ฝั่งโน้นกัน” แต่เขาไม่ได้บอกซาอูลพ่อของเขา

(ขณะนั้นซาอูลกำลังพักผ่อนอยู่ที่ชานเมืองกิเบอาห์ใต้ต้นทับทิมในมิโกรน กับคนประมาณหกร้อยคน ซึ่งในจำนวนนั้นมีอาหิยาห์ผู้ที่ใส่เอโฟดอยู่ด้วย เขาเป็นลูกชายของอาหิทูบซึ่งเป็นพี่ชายของอีคาโบด อีคาโบดและอาหิทูบเป็นลูกชายของฟีเนหัส ฟีเนหัสเป็นลูกชายของเอลี เอลีเคยเป็นนักบวชของพระยาห์เวห์อยู่ที่เมืองชิโลห์ ไม่มีใครรู้ว่าโยนาธานได้ออกไปแล้ว

ทางข้ามทั้งสองข้างที่โยนาธานจะใช้ข้ามเข้าไปยังค่ายของฟีลิสเตียนั้นเป็นหน้าผา หน้าผาทั้งสองด้านนี้ ข้างหนึ่งเรียกว่าโบเซส และอีกข้างหนึ่งเรียกว่าเสเนห์ หน้าผาด้านหนึ่งอยู่ทางเหนือตรงฝั่งเมืองมิคมาช ส่วนหน้าผาอีกด้านอยู่ทางใต้ตรงฝั่งเมืองเกบา)

โยนาธานพูดกับเด็กหนุ่มผู้ถืออาวุธของเขาว่า “ไปกันเถอะ พวกเราข้ามไปยังป้อมทหารของไอ้พวกผู้ชายที่ยังไม่ได้ทำพิธีขลิบพวกนั้น บางทีพระยาห์เวห์อาจจะมาช่วยเราทำสิ่งนี้ก็ได้ ไม่มีอะไรจะมาขัดขวางไม่ให้พระยาห์เวห์มาช่วยกู้ได้ ไม่ว่าพระองค์จะใช้คนมากหรือน้อยก็ตาม”

คนถืออาวุธของเขาพูดว่า “ทำอะไรก็ได้ตามใจท่าน ลุยไปเลย ข้าพเจ้าจะอยู่เคียงข้างท่านตลอดไป”

โยนาธานพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นไปกันเถอะ พวกเราจะข้ามไปหาคนฟีลิสเตีย และปล่อยให้พวกเขาเห็นพวกเรา ถ้าพวกเขาพูดกับพวกเราว่า ‘คอยอยู่ที่นั่นจนกว่าพวกเราจะลงไปหาเจ้า’ พวกเราก็จะหยุดในที่ที่พวกเราอยู่และจะไม่ไปหาพวกเขา 10 แต่ถ้าพวกเขาพูดว่า ‘ขึ้นมาหาพวกเราสิ’ พวกเราก็จะปีนขึ้นไป เพราะนั่นจะเป็นสัญญาณให้กับเรา ว่าพระยาห์เวห์ได้มอบพวกเขาไว้ในกำมือของพวกเราแล้ว”

11 โยนาธานและคนถืออาวุธของเขาจึงแสดงตัวให้คนฟีลิสเตียที่ค่ายได้เห็น พวกเขาก็พูดว่า “ดูซิ พวกฮีบรูกำลังคลานออกจากรูที่พวกมันใช้หลบซ่อน” 12 ชายคนหนึ่งในค่ายก็ตะโกนใส่โยนาธานและคนถืออาวุธของเขาว่า “ขึ้นมาหาพวกเราสิ แล้วพวกเราจะให้บทเรียนกับพวกเจ้า”

ดังนั้นโยนาธานจึงพูดกับคนถืออาวุธของเขาว่า “ปีนตามเรามา พระยาห์เวห์ได้มอบพวกเขาให้อยู่ในกำมือของคนอิสราเอลแล้ว”

13 โยนาธานปีนขึ้นไปด้วยมือและเท้าของเขา คนถืออาวุธของเขาปีนตามมาอย่างติดๆ โยนาธานสู้รบกับคนฟีลิสเตีย และคนฟีลิสเตียก็ล้มลงต่อหน้าโยนาธาน คนถืออาวุธของเขาก็ตามมาติดๆและได้ฆ่าฟันพวกนั้นอยู่ข้างหลังเขา 14 ในการปะทะกันครั้งแรก พวกเขาสองคนฆ่าคนฟีลิสเตียตายประมาณยี่สิบคนในพื้นที่ประมาณสองไร่

15 จากนั้นทหารทั้งกองทัพของฟีลิสเตียก็ตกใจกลัวจนตัวสั่น คือพวกที่อยู่ในค่าย ในสนามรบ พวกที่อยู่ตามป้อมต่างๆและพวกที่อยู่ในกองกำลังย่อย ได้เกิดแผ่นดินไหวขึ้น มันเป็นความหวาดกลัวที่พระเจ้าส่งมา

16 พวกยามของซาอูลที่กิเบอาห์ในแผ่นดินเบนยามิน เห็นทหารฟีลิสเตียวิ่งหนีไปคนละทิศละทาง 17 ซาอูลจึงพูดกับคนที่อยู่กับเขาว่า “เรียกพวกเรามารวมพลกันให้หมด และดูว่าใครหายไป”

เมื่อตรวจดูก็พบว่าโยนาธานและคนถืออาวุธของเขาไม่ได้อยู่ที่นั่น

18 ซาอูลจึงพูดกับอาหิยาห์ว่า “ให้นำเอโฟดมาที่นี่” (ในเวลานั้นอาหิยาห์ใส่เอโฟดยืนอยู่ต่อหน้าชาวอิสราเอล)[a] 19 ขณะที่ซาอูลกำลังพูดกับนักบวช เพื่อคอยคำแนะนำจากพระเจ้า ก็เกิดเสียงอึกทึกขึ้นในค่ายฟีลิสเตียและมันก็ดังขึ้นๆ ซาอูลจึงพูดกับนักบวชว่า “ไม่ต้องดึงสลากจากเอโฟดเพื่อถามพระยาห์เวห์แล้ว ไม่มีเวลาแล้ว”[b]

20 ดังนั้นซาอูลและประชาชนที่อยู่กับเขาจึงออกไปเพื่อจะรบ แต่พวกเขากลับพบว่าคนฟีลิสเตียอยู่ในความสับสนถือดาบฆ่าฟันกันเอง 21 คนฮีบรูที่เดิมเคยอยู่กับคนฟีลิสเตียและพวกที่อยู่ในค่ายก็หันมาร่วมมือกับคนอิสราเอล มาอยู่ฝ่ายเดียวกับซาอูลและโยนาธาน 22 เมื่อคนอิสราเอลทั้งหมดที่หลบซ่อนอยู่ตามแถบเทือกเขาเอฟราอิมรู้ข่าวว่าคนฟีลิสเตียกำลังหนี พวกเขาก็เข้าร่วมรบ และไล่ล่าคนฟีลิสเตียอย่างดุเดือด

23 ในวันนั้นพระยาห์เวห์ได้ช่วยกู้คนอิสราเอลไว้ การสู้รบได้ขยายเลยเมืองเบธาเวนออกไป กองทัพทั้งหมดได้อยู่กับซาอูล ตอนนั้นเขามีทหารอยู่หนึ่งหมื่นคน การสู้รบได้ขยายไปทุกเมืองในแถบเนินเขาของเอฟราอิม[c]

กาลาเทีย 6:11-18

เปาโลเขียนจดหมายจบ

11 ดูตัวหนังสือที่ใหญ่โตนี้สิ เป็นลายมือของผมเอง 12 คนพวกนั้นที่อยากได้หน้า พยายามบังคับให้คุณทำพิธีขลิบ ก็เพราะเหตุผลแค่ข้อเดียวคือกลัวจะถูกคนยิวข่มเหงตอนประกาศเรื่องไม้กางเขนของพระคริสต์[a] 13 ขนาดพวกมันเองที่เข้าพิธีขลิบแล้ว ก็ยังไม่ทำตามกฎ แต่ที่พวกมันอยากให้คุณทำพิธีขลิบ ก็เพื่อจะได้ไปโม้โอ้อวดว่าพวกมันนี่แน่ ที่ทำให้คุณเข้าพิธีขลิบได้ 14 ขอให้ผมอย่าได้โอ้อวดเรื่องอะไรเลย นอกจากเรื่องกางเขนของพระเยซูคริสต์เจ้าของพวกเราเท่านั้น โลกนี้ก็ได้ตาย[b] จากผมไปแล้ว และผมเองก็ได้ตายต่อโลกนี้ไปแล้วเหมือนกัน 15 จะทำหรือไม่ทำพิธีขลิบนั้น มันไม่ได้สำคัญอะไรเลย แต่สิ่งที่สำคัญคือ โลกใหม่ที่พระเจ้าได้สร้างขึ้นมา 16 ขอให้พระเจ้ามีความเมตตากรุณาและให้สันติสุขกับทุกคนที่ใช้ชีวิตตามกฎนี้ ผู้เป็นอิสราเอลแท้ๆของพระเจ้าด้วย

17 สุดท้ายนี้ อย่าให้ใครมาสร้างปัญหาเพิ่มขึ้นให้กับผมอีกเลย บาดแผล[c]ทั่วตัวของผม ก็แสดงให้เห็นแล้วว่า ผมเป็นของพระคริสต์

18 พี่น้องครับ ขอให้ความเมตตากรุณาของพระเยซูคริสต์เจ้า อยู่กับจิตวิญญาณของพวกคุณด้วยเถิด อาเมน

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International