Revised Common Lectionary (Semicontinuous)
อธิษฐานให้กษัตริย์ในยามสงคราม
ถึงหัวหน้าวงดนตรี เพลงสดุดีของดาวิด
1 ขอให้พระผู้เป็นเจ้าตอบท่านในยามลำบาก
ขอให้พระนามของพระเจ้าของยาโคบ[a]ปกป้องท่าน
2 ขอให้พระองค์ส่งความช่วยเหลือจากสถานที่บริสุทธิ์
และให้การค้ำจุนจากศิโยน
3 ขอให้พระองค์ระลึกถึงเครื่องสักการะบูชาทั้งปวงของท่าน
และรับสัตว์ที่เผาเป็นของถวายของท่านไว้ เซล่าห์
4 สิ่งใดที่ใจท่านปรารถนา ก็ขอให้ได้รับจากพระองค์
และให้แผนการของท่านสำเร็จลุล่วงทุกประการ
5 พวกเราจะส่งเสียงร้องด้วยความยินดีในยามที่ท่านมีชัยชนะ
และจะยกธงชัยของเราขึ้นในพระนามของพระเจ้าของเรา
ทุกสิ่งที่ท่านขอจากพระผู้เป็นเจ้า ก็ขอให้ท่านได้รับ
6 ในบัดนี้ข้าพเจ้าทราบว่า
พระผู้เป็นเจ้าช่วยผู้ได้รับการเจิมของพระองค์
พระองค์จะตอบจากสวรรค์อันบริสุทธิ์ของพระองค์
ด้วยการกระทำอันยิ่งใหญ่ ด้วยมือขวาของพระองค์
7 บางคนโอ้อวดในเรื่องรถศึก บ้างก็อวดเรื่องม้า
แต่เราโอ้อวดพระนามของพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเรา
8 พวกเขาจะทรุดตัวและล้มลง
ส่วนพวกเราจะลุกขึ้นและมั่นคง
9 โอ พระผู้เป็นเจ้า ช่วยกษัตริย์ให้รอดพ้นด้วย
โปรดตอบในยามที่พวกเราร้องเรียกถึงพระองค์
15 ในวันก่อนวันที่ซาอูลจะมา พระผู้เป็นเจ้าได้เผยให้ซามูเอลทราบว่า 16 “ในวันพรุ่งนี้ประมาณเวลานี้ เราจะให้ชายผู้หนึ่งจากดินแดนของเบนยามินมาพบเจ้า จงเจิมเขาให้เป็นผู้นำอิสราเอลชนชาติของเรา เขาจะช่วยชนชาติของเราให้พ้นจากมือของชาวฟีลิสเตีย เราเห็นว่าชนชาติของเราเป็นทุกข์ เพราะเราได้ยินเสียงร้องของพวกเขา” 17 เมื่อซามูเอลแลเห็นซาอูล พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับท่านว่า “ชายผู้นี้เป็นคนที่เราบอกเจ้า เขาจะปกครองชนชาติของเรา” 18 ซาอูลเข้าไปใกล้ซามูเอลที่ทางประตูและถามว่า “ท่านจะกรุณาบอกข้าพเจ้าได้ไหมว่า บ้านของผู้รู้อยู่ที่ไหน” 19 ซามูเอลตอบว่า “เราเป็นผู้รู้ ท่านจงขึ้นไปล่วงหน้าเรา ไปสถานบูชาบนภูเขาสูง เพราะว่าวันนี้ท่านจะต้องรับประทานกับเรา และพอรุ่งเช้า เราก็จะให้ท่านไป และจะบอกท่านว่า ท่านมีความในใจอะไร 20 ไม่ต้องห่วงเรื่องลาที่หายไปเมื่อ 3 วันก่อน เพราะมีคนพบมันแล้ว สิ่งเดียวที่อิสราเอลต้องการนั้น คือใครเล่า ถ้าไม่ใช่ท่านและครอบครัวของบิดาของท่าน” 21 ซาอูลตอบว่า “ข้าพเจ้าเป็นชาวเบนยามินมิใช่หรือ มาจากเผ่าเล็กที่สุดของอิสราเอล และตระกูลของข้าพเจ้าก็สำคัญน้อยที่สุดในบรรดาทุกเผ่าของเบนยามินมิใช่หรือ ทำไมท่านจึงพูดกับข้าพเจ้าเช่นนั้น”
22 ครั้นแล้วซามูเอลก็พาซาอูลและผู้รับใช้เข้าไปในห้องโถง และให้ท่านนั่งที่หัวโต๊ะของผู้ได้รับเชิญประมาณ 30 คน 23 ซามูเอลพูดกับพ่อครัวว่า “ไปเอาเนื้อที่เราให้เจ้ามา ชิ้นที่เราบอกให้เจ้าแยกเก็บไว้” 24 ดังนั้นพ่อครัวจึงไปหยิบเนื้อท่อนขาพร้อมกับขาอ่อน มาวางไว้ที่ข้างหน้าซาอูล ซามูเอลพูดว่า “นี่เป็นสิ่งที่เก็บไว้ให้ท่าน จงรับประทาน เพราะเขาเก็บไว้ให้ท่านสำหรับโอกาสนี้ ท่านจะได้รับประทานกับแขกรับเชิญ”
วันนั้นซาอูลจึงรับประทานกับซามูเอล 25 เมื่อเขาทั้งหลายลงมาจากสถานบูชาบนภูเขาสูง และเข้าไปในเมือง ซามูเอลพูดกับซาอูลบนดาดฟ้า 26 เขาทั้งสองลุกขึ้นเมื่อฟ้าสาง ซามูเอลเรียกซาอูลที่อยู่บนดาดฟ้าว่า “เตรียมตัวให้พร้อม แล้วเราจะส่งให้ท่านออกเดินทางไป” เมื่อซาอูลพร้อมแล้ว เขากับซามูเอลก็ออกไปนอกบ้านพร้อมกัน
27 ขณะที่กำลังเดินไปถึงชานเมือง ซามูเอลพูดกับซาอูลว่า “บอกให้ผู้รับใช้ล่วงหน้าเราไปก่อน” ผู้รับใช้ก็ทำตามนั้น “แต่ท่านจงอยู่ที่นี่สักพักก่อน เราจะได้บอกให้ท่านทราบถึงสิ่งที่พระเจ้ากล่าวไว้”
ผู้เบิกทางแห่งความรอดพ้น
5 พระองค์ไม่ได้ให้บรรดาทูตสวรรค์เป็นฝ่ายปกครองโลกใหม่ที่เรากำลังพูดถึง 6 แต่มีคนกล่าวยืนยันตอนหนึ่งว่า
“มนุษย์คือใคร ที่พระองค์จะเอาใจใส่
หรือบุตรมนุษย์คือใคร ที่พระองค์จะดูแลรักษา
7 พระองค์ทำให้เขาด้อยกว่าเหล่าทูตสวรรค์เล็กน้อยเพียงชั่วขณะ
พระองค์ได้มอบบารมีและเกียรติให้แก่เขา
8 พระองค์ได้ให้ทุกสิ่งอยู่ใต้เท้าของเขา”[a]
ทุกสิ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของเขา จึงไม่มีสักสิ่งเดียวที่พระเจ้าไม่ได้ให้อยู่ภายใต้การควบคุมของเขา แต่ถึงกระนั้น พวกเราก็ไม่เห็นว่า ทุกสิ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของเขาในเวลานี้ 9 แต่พวกเราเห็นพระเยซูผู้ที่พระองค์ทำให้ด้อยกว่าเหล่าทูตสวรรค์เล็กน้อยเพียงชั่วขณะ ได้รับพระบารมีและพระเกียรติเป็นมงกุฎ เพราะพระองค์สิ้นชีวิตโดยการรับทุกข์ทรมาน ทั้งนี้โดยพระคุณของพระเจ้า พระองค์จึงได้ลิ้มรสความตายเพื่อมนุษย์ทุกคน
Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation