Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

Revised Common Lectionary (Semicontinuous)

Daily Bible readings that follow the church liturgical year, with sequential stories told across multiple weeks.
Duration: 1245 days
New Thai Version (NTV-BIBLE)
Version
กิจการของอัครทูต 8:26-40

ฟีลิปและขันทีชาวเอธิโอเปีย

26 ทูตสวรรค์ของพระผู้เป็นเจ้าได้กล่าวกับฟีลิปว่า “จงลุกขึ้น ไปยังทิศใต้ ไปตามถนนที่เป็นถิ่นทุรกันดาร ซึ่งลงจากเมืองเยรูซาเล็มไปยังเมืองกาซา” 27 ฟีลิปจึงออกเดินทางไปตามทางนั้น และได้พบขันทีชาวเอธิโอเปีย ซึ่งเป็นผู้ดูแลการคลังทั้งหมดของราชินีคานดาสีของชาวเอธิโอเปีย ในขณะที่ขันทีเดินทางกลับจากนมัสการที่เมืองเยรูซาเล็ม 28 ระหว่างทางที่เขานั่งในรถม้าเพื่อกลับบ้าน ก็ได้อ่านหนังสือฉบับที่อิสยาห์ผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้าเขียนไว้ 29 พระวิญญาณกล่าวกับฟีลิปว่า “จงไปอยู่ใกล้ๆ รถม้านั้น” 30 ฟีลิปจึงวิ่งเข้าไปใกล้รถม้านั้น จนได้ยินเสียงอ่านข้อความที่อิสยาห์ผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้าเขียนไว้ ฟีลิปจึงถามว่า “ท่านเข้าใจสิ่งที่ท่านอ่านหรือไม่” 31 เขาตอบว่า “ข้าพเจ้าจะเข้าใจได้อย่างไรถ้าไม่มีคนอธิบายให้ข้าพเจ้าฟัง” และขันทีได้เชิญฟีลิปขึ้นมานั่งด้วยกัน 32 พระคัมภีร์ตอนที่ขันทีกำลังอ่านอยู่ก็คือ

“พระองค์ถูกนำไปดั่งแกะที่รอการประหาร
    ลูกแกะนิ่งอยู่ที่ตรงหน้าคนตัดขนของมันฉันใด
    พระองค์ก็ไม่ปริปากของพระองค์ฉันนั้น
33 เมื่อพระองค์ถูกเหยียดหยาม พระองค์ไม่ได้รับความยุติธรรม
    ใครเล่าจะพูดถึงเชื้อสายของพระองค์
    เพราะชีวิตของพระองค์ถูกชิงไปเสียจากโลกแล้ว”[a]

34 ขันทีถามฟีลิปว่า “โปรดบอกข้าพเจ้าเถิดว่า ผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้าพูดถึงผู้ใด พูดถึงตนเองหรือคนอื่น” 35 ฟีลิปจึงบอกข่าวประเสริฐเรื่องพระเยซูเริ่มจากพระคัมภีร์ตอนนั้น 36 ขณะที่ทั้งสองเดินทางไปตามถนน จนมาถึงที่ซึ่งมีน้ำแห่งหนึ่ง ขันทีจึงพูดขึ้นว่า “ดูน้ำนั่นสิ มีอะไรขัดข้องไม่ให้ข้าพเจ้ารับบัพติศมาไหม” [37 ฟีลิปตอบว่า “ถ้าท่านเชื่ออย่างสุดใจ ก็เชิญท่าน” ขันทีตอบว่า “ข้าพเจ้าเชื่อว่าพระเยซูคริสต์เป็นพระบุตรของพระเจ้า”][b] 38 แล้วเขาก็ได้สั่งให้รถม้าหยุด ฟีลิปและขันทีจึงลงไปในน้ำ ฟีลิปก็ให้บัพติศมาแก่เขา 39 หลังจากขึ้นจากน้ำแล้วพระวิญญาณของพระผู้เป็นเจ้าก็รับฟีลิปไป ขันทีก็ไม่อาจเห็นฟีลิปได้อีก จึงออกเดินทางต่อไปด้วยความชื่นชมยินดี 40 ฟีลิปไปปรากฏตัวที่เมืองอาโซทัส แล้วเดินทางเรื่อยไปเพื่อประกาศข่าวประเสริฐทั่วทุกเมืองจนถึงเมืองซีซารียา

สดุดี 22:25-31

25 คำสรรเสริญของข้าพเจ้าในที่ประชุมใหญ่มาจากพระองค์
    ข้าพเจ้าจะทำตามคำสัญญาต่อหน้าบรรดาผู้เกรงกลัวพระองค์
26 คนยากไร้จะมีกินและอิ่มหนำ
    บรรดาผู้แสวงหาพระผู้เป็นเจ้าจะสรรเสริญพระองค์
    ขอให้พวกท่านมีชีวิตที่สุขสบายอยู่เป็นนิจ

27 ทั่วแหล่งหล้าจะรำลึกได้
    และหันเข้าหาพระผู้เป็นเจ้า
แล้วทุกครอบครัวของบรรดาประชาชาติ
    จะก้มลงกราบพระองค์
28 ด้วยว่าการปกครองเป็นของพระผู้เป็นเจ้า
    และพระองค์ปกครองบรรดาประชาชาติ

29 คนหยิ่งยโสในโลกจะรับประทานและก้มกราบ ณ เบื้องหน้าพระองค์
    ทุกคนที่ต้องจบชีวิตกลายเป็นผงธุลีจะคุกเข่าลงต่อหน้าพระองค์
    รวมถึงคนที่ไม่อาจรักษาชีวิตของตนไว้ได้
30 ผู้สืบตระกูลจะรับใช้พระองค์
    ผู้คนจะพูดถึงพระผู้เป็นเจ้าในยุคต่อๆ ไป
31 พวกเขาจะมาและประกาศถึงความชอบธรรมของพระองค์
    แก่ผู้คนที่จะเกิดมาภายหลังว่า
    พระองค์ได้กระทำสิ่งเหล่านี้

1 ยอห์น 4:7-21

พระเจ้าคือความรัก

ท่านที่รักทั้งหลาย จงรักซึ่งกันและกันเถิด เพราะความรักมาจากพระเจ้า ทุกคนที่มีความรักก็เกิดจากพระเจ้า และรู้จักพระองค์ ใครก็ตามที่ไม่มีความรักก็ไม่รู้จักพระเจ้า เพราะว่าพระเจ้าคือความรัก ความรักของพระเจ้าได้ปรากฏแก่เรา ก็คือพระองค์ได้ส่งพระบุตรองค์เดียวของพระองค์มาในโลก เพื่อให้เราได้มีชีวิตโดยผ่านพระองค์ 10 ความรักเป็นเช่นนี้คือ มิใช่ว่าเรารักพระเจ้า แต่พระองค์ได้รักเรา และส่งพระบุตรของพระองค์ให้เป็นเครื่องสักการะเพื่อชดใช้บาปของเรา 11 ท่านที่รักทั้งหลาย ถ้าพระเจ้ารักเราเช่นนั้น เราก็ควรรักซึ่งกันและกันด้วย 12 ยังไม่มีผู้ใดเคยเห็นพระเจ้า ถ้าเรารักซึ่งกันและกัน พระเจ้าก็ดำรงอยู่ในตัวเรา และความรักของพระองค์ก็บริบูรณ์อยู่ในเราด้วย

13 เราทราบว่าเราดำรงอยู่ในพระองค์ และพระองค์ดำรงอยู่ในเรา เพราะว่าพระองค์ได้มอบพระวิญญาณของพระองค์ให้แก่เราแล้ว 14 เราได้เห็นและยืนยันว่าพระบิดาได้ส่งพระบุตรให้เป็นผู้ช่วยโลกให้รอดพ้น 15 ผู้ใดที่ยอมรับว่าพระเยซูเป็นพระบุตรของพระเจ้า พระเจ้าก็ดำรงอยู่ในผู้นั้น และผู้นั้นก็ดำรงอยู่ในพระเจ้า 16 เราทราบและเชื่อในความรักที่พระเจ้ามีต่อเรา พระเจ้าคือความรัก ผู้ใดที่ดำรงอยู่ในความรักก็ดำรงอยู่ในพระเจ้า และพระเจ้าดำรงอยู่ในผู้นั้น 17 ทั้งนี้ความรักจึงบริบูรณ์ในตัวเรา เพื่อว่าเราจะมีความมั่นใจในวันพิพากษา เพราะตามที่พระองค์เป็นอยู่ เราก็เป็นอยู่ด้วยในโลกนี้ 18 ไม่มีความกลัวอยู่ในความรัก เพราะความรักที่บริบูรณ์ขจัดความกลัวเสีย ความกลัวเกี่ยวโยงกับการลงโทษ ผู้มีความกลัวจึงไม่มีความรักที่บริบูรณ์ 19 เรารักก็เพราะพระองค์ได้รักเราก่อน 20 ถ้าผู้ใดกล่าวว่า “ข้าพเจ้ารักพระเจ้า” แต่ก็ยังเกลียดชังพี่น้องของตน ผู้นั้นเป็นคนโกหก ด้วยว่าผู้ไม่รักพี่น้องที่ตนมองเห็น ผู้นั้นก็ไม่สามารถรักพระเจ้าที่ตนไม่เคยเห็นได้ 21 และเราได้ข้อบัญญัติที่มาจากพระองค์ คือผู้ใดที่รักพระเจ้าก็ต้องรักพี่น้องของตนด้วย

ยอห์น 15:1-8

เถาองุ่นแท้

15 เราคือเถาองุ่นแท้ และพระบิดาของเราคือผู้ดูแลรักษาสวน พระองค์ตัดทุกกิ่งก้านที่เป็นส่วนหนึ่งของเราซึ่งไม่ออกผลทิ้งเสีย กิ่งก้านใดที่ผลิดอกออกผล พระองค์จะตัดแต่งให้ออกผลมากขึ้น บัดนี้พวกเจ้าสะอาดแล้วเพราะคำกล่าวที่เราได้ให้แก่เจ้า จงดำรงอยู่ในเราและเราจะดำรงอยู่ในพวกเจ้า กิ่งก้านจะให้ผลตามลำพังไม่ได้ นอกจากว่าจะติดอยู่กับเถาองุ่น พวกเจ้าจะเกิดผลเองไม่ได้ นอกจากเจ้าจะดำรงอยู่ในเรา เราคือเถาองุ่น ส่วนพวกเจ้าคือกิ่งก้าน ผู้ที่ดำรงอยู่ในเราและเราดำรงอยู่ในเขา ผู้นั้นก็จะให้ผลมาก หากแยกห่างจากเราไปแล้ว พวกเจ้าก็ทำอะไรไม่ได้ ถ้าผู้ใดไม่ดำรงอยู่ในเรา เขาก็เหมือนกิ่งก้านที่จะถูกโยนทิ้งให้แห้งตาย รังแต่จะมีคนเก็บไปเผาไฟทิ้ง ถ้าเจ้าดำรงอยู่ในเรา และคำกล่าวของเราดำรงอยู่ในเจ้าแล้ว จงขอสิ่งที่เจ้าปรารถนา แล้วเจ้าก็จะได้รับสิ่งนั้น เมื่อเจ้าให้ผลมาก พระบิดาของเราก็ได้รับพระบารมี และพวกเจ้าก็จะเป็นบรรดาสาวกของเรา

New Thai Version (NTV-BIBLE)

Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation