Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

Revised Common Lectionary (Semicontinuous)

Daily Bible readings that follow the church liturgical year, with sequential stories told across multiple weeks.
Duration: 1245 days
New Thai Version (NTV-BIBLE)
Version
สดุดี 128

รางวัลแห่งการเชื่อฟังพระผู้เป็นเจ้า

บทเพลงบรรเลงในขบวนแห่ขณะเคลื่อนขึ้นสู่เนินเขา

ผู้ใดเกรงกลัวพระผู้เป็นเจ้า
    และดำเนินในวิถีทางของพระองค์
    ผู้นั้นก็เป็นสุข
ท่านจะดื่มกินผลที่ได้จากน้ำพักน้ำแรงของท่าน
    ท่านจะเป็นสุขและดำเนินไปด้วยดี
ภรรยาของท่านจะเป็นดั่งเถาองุ่น
    ผลดกภายในเรือนของท่าน
พวกลูกๆ ของท่านจะเป็นดั่งหน่อมะกอก
    อยู่รายรอบโต๊ะอาหารของท่าน
ดูเถิด คนที่เกรงกลัวพระผู้เป็นเจ้า
    จะได้รับพระพรเช่นนี้

ขอให้พระผู้เป็นเจ้าอวยพรท่านจากศิโยน
    และท่านจะได้เห็นความเจริญของเยรูซาเล็มตลอดชั่วชีวิตของท่าน
ขอให้ท่านได้เห็นลูกหลานของท่าน
    ขอให้อิสราเอลมีสันติสุขเถิด

โยชูวา 6:1-16

เมืองเยรีโคพังพินาศ

ในเวลานั้น เป็นเพราะชาวอิสราเอล เยรีโคจึงถูกปิดอย่างแน่นหนา ไม่มีใครเข้านอกออกในได้เลย พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับโยชูวาว่า “เห็นไหมว่าเราให้เมืองเยรีโคอยู่ในมือของเจ้าแล้ว รวมถึงกษัตริย์และนักรบผู้เก่งกล้า เจ้าจงเดินทัพรอบเมือง ให้บรรดาทหารศึกเดินรอบเมืองหนึ่งครั้ง ทำอย่างนี้อยู่ 6 วัน ให้ปุโรหิต 7 คนถือแตรงอน[a] 7 คันอยู่ที่หน้าหีบ ในวันที่เจ็ด พวกเจ้าจงเดินทัพรอบเมือง 7 ครั้ง และปุโรหิตจะเป่าแตรงอน เมื่อพวกเขาเป่าแตรงอนยาวๆ และเมื่อเจ้าได้ยินเสียงแตร ทุกคนจงตะโกนร้องเสียงดังพร้อมๆ กัน แล้วกำแพงเมืองก็จะพังราบลง ประชาชนจะขึ้นไป ทุกคนจะเดินตรงเข้าไปได้” ดังนั้นโยชูวาบุตรของนูนเรียกบรรดาปุโรหิต และพูดกับพวกเขาว่า “จงหามหีบพันธสัญญาขึ้น และให้ปุโรหิต 7 คนถือแตรงอน 7 คันอยู่ที่หน้าหีบของพระผู้เป็นเจ้า และท่านพูดกับประชาชนว่า “จงมุ่งหน้าเดินทัพรอบเมืองต่อไป และให้ชายที่ถืออาวุธเดินไปข้างหน้าหีบของพระผู้เป็นเจ้า

ทันทีที่โยชูวาบัญชาประชาชนแล้ว ปุโรหิต 7 คนถือแตรงอน ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้าก็เดินหน้าเป่าแตรงอน มีหีบพันธสัญญาของพระผู้เป็นเจ้าตามหลังไป ชายที่ถืออาวุธเดินนำหน้าปุโรหิตที่กำลังเป่าแตรงอน ทหารเดินตามหลังหีบ ขณะที่แตรก็เป่าต่อไปเรื่อยๆ 10 แต่โยชูวาบัญชาประชาชนว่า “ท่านอย่าตะโกนหรือให้ใครได้ยินเสียงของท่าน หรือหลุดปากพูดอะไรออกไปเลย จนกว่าจะถึงวันที่เราบอกให้ท่านตะโกน แล้วท่านจึงจะตะโกน” 11 ดังนั้นโยชูวาให้หีบของพระผู้เป็นเจ้าวนไปรอบเมืองนั้น 1 ครั้ง แล้วกลับเข้าค่าย พักแรมอยู่ที่นั่น

12 โยชูวาตื่นขึ้นแต่เช้าตรู่ และบรรดาปุโรหิตหามหีบของพระผู้เป็นเจ้าขึ้น 13 ปุโรหิต 7 คนเดินถือแตรงอน 7 คันที่หน้าหีบของพระผู้เป็นเจ้าไป และเป่าแตรงอนต่อไปเรื่อยๆ และบรรดาชายที่ถืออาวุธก็เดินนำหน้าปุโรหิตทั้งเจ็ด ทหารเดินตามหลังหีบของพระผู้เป็นเจ้า ขณะที่แตรก็เป่าต่อไปเรื่อยๆ 14 ในวันที่สองพวกเขาเดินทัพรอบเมือง 1 ครั้ง แล้วกลับเข้าค่าย ทำอยู่อย่างนั้นเป็นเวลา 6 วัน

15 ในวันที่เจ็ดเขาทั้งหลายตื่นขึ้นแต่เช้าตรู่ จวนใกล้รุ่ง และเดินทัพรอบเมืองแบบเดิม 7 ครั้ง เป็นวันนั้นวันเดียวที่เดินรอบเมือง 7 ครั้ง 16 และครั้งที่เจ็ดนั้นเองเมื่อปุโรหิตเป่าแตรงอน โยชูวาก็บอกประชาชนว่า “จงตะโกนร้องเถิด เพราะพระผู้เป็นเจ้าได้มอบเมืองนี้ให้แก่พวกท่านแล้ว

โยชูวา 6:20

20 ดังนั้น ประชาชนจึงตะโกนร้อง และแตรงอนก็ดังลั่นขึ้น ทันทีที่ประชาชนได้ยินเสียงแตรงอน พวกเขาตะโกนร้องเสียงดังพร้อมกัน กำแพงจึงพังราบลง ทุกคนต่างพากันเดินหน้าออกไปยึดเมืองไว้ได้

กิจการของอัครทูต 13:1-12

พระวิญญาณบริสุทธิ์ให้แต่งตั้งบาร์นาบัสและเซาโลเพื่อปฏิบัติงาน

13 ในคริสตจักรเมืองอันทิโอก มีกลุ่มผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้าและพวกอาจารย์ คือบาร์นาบัส สิเมโอนที่มีอีกชื่อหนึ่งว่านิเกอร์ ลูสิอัสชาวเมืองไซรีน มานาเอน (ซึ่งเติบโตคู่มากับเฮโรดผู้ปกครองแคว้น) และเซาโล ขณะที่คนเหล่านี้กำลังนมัสการพระผู้เป็นเจ้าและอดอาหารอยู่ พระวิญญาณบริสุทธิ์กล่าวว่า “จงแต่งตั้งบาร์นาบัสและเซาโลเพื่อปฏิบัติงานที่เราได้เรียกตัวไว้ใช้” หลังจากที่ทั้งกลุ่มอดอาหารและอธิษฐานเสร็จสิ้นแล้ว ก็วางมือบนตัวบาร์นาบัสและเซาโล แล้วจึงให้ทั้งสองออกเดินทางไป

ที่เกาะไซปรัส

พระวิญญาณบริสุทธิ์ได้ดลใจให้ท่านทั้งสองลงไปยังเมืองเซลูเคีย และแล่นเรือจากที่นั่นไปยังเกาะไซปรัส เมื่อมาถึงเมืองซาลามิส ก็ได้ประกาศคำกล่าวของพระเจ้าตามศาลาที่ประชุมของชาวยิว โดยมียอห์นเป็นผู้ช่วย ทั้ง 3 คนเดินทางไปทั่วเกาะจนถึงเมืองปาโฟส และได้พบกับบาร์เยซูชาวยิวผู้ใช้เวทมนตร์คาถา และยังเป็นผู้เผยคำกล่าวเท็จด้วย เขาอยู่กับเสอร์จีอัสเปาโลซึ่งเป็นผู้ว่าราชการแคว้นที่ฉลาดรอบรู้ ผู้ว่าราชการจึงให้คนไปตามบาร์นาบัสและเซาโลมาพบ เพราะต้องการจะฟังคำกล่าวของพระเจ้า แต่เอลีมาส (ชื่อของบาร์เยซูในภาษากรีก) ผู้ใช้เวทมนตร์คาถาได้คัดค้านบาร์นาบัสและเซาโล โดยพยายามจะหันเหความเชื่อของผู้ว่าราชการแคว้น แล้วเซาโลหรือที่มีอีกชื่อหนึ่งว่า เปาโล ซึ่งเปี่ยมล้นด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ จ้องมาที่เอลีมาสและพูดว่า 10 “เจ้าเต็มด้วยความหลอกลวงจอมปลอม บุตรของพญามาร เจ้าเป็นศัตรูของความดี เจ้ายังจะไม่หยุดบิดเบือนหนทางของพระผู้เป็นเจ้าอีกหรือ 11 บัดนี้พระผู้เป็นเจ้ากำลังจะลงโทษเจ้า เจ้าจะตาบอดและมองไม่เห็นดวงอาทิตย์ไปชั่วระยะหนึ่ง” ในทันใดนั้นดวงตาของเอลีมาสก็มืดมัวไป จนต้องคลำหาให้คนจูงมือไป 12 เมื่อผู้ว่าราชการแคว้นผู้นั้นเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นก็เชื่อ เพราะอัศจรรย์ใจกับการสอนเรื่องของพระผู้เป็นเจ้า

New Thai Version (NTV-BIBLE)

Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation