Revised Common Lectionary (Semicontinuous)
พระผู้เป็นเจ้าเป็นผู้ครองบัลลังก์สูงสุด
1 พระผู้เป็นเจ้าครองบัลลังก์ ให้แผ่นดินโลกเปรมปรีดิ์
ให้แผ่นดินชายฝั่งทะเลอันแสนไกลยินดี
2 หมู่เมฆและความมืดทึบล้อมโดยรอบพระองค์
ความชอบธรรมและความเป็นธรรมคือรากฐานแห่งบัลลังก์ของพระองค์
3 เปลวไฟไปล่วงหน้าพระองค์
เผาไหม้พวกศัตรูของพระองค์โดยรอบ
4 สายฟ้าแลบของพระองค์ทำให้โลกสุกสว่าง
แผ่นดินโลกเห็นและสั่นสะเทือน
5 เทือกเขาหลอมละลายดั่งขี้ผึ้ง ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้า
ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้าของสิ่งทั้งปวงบนแผ่นดินโลก
6 ฟ้าสวรรค์ประกาศความชอบธรรมของพระองค์
และบรรดาชนชาติทั้งปวงเห็นพระบารมีของพระองค์
7 บรรดาผู้นมัสการรูปเคารพทุกคนได้รับความอับอาย
คือพวกที่โอ้อวดในรูปเคารพอันไร้ค่า
เทพเจ้าทั้งปวงจงก้มนมัสการพระองค์
8 ชาวศิโยนได้ยินและยินดี
บรรดาธิดาของยูดาห์เปรมปรีดิ์
เพราะความเป็นธรรมของพระองค์ โอ พระผู้เป็นเจ้า
9 พระองค์เป็นพระผู้เป็นเจ้าผู้สูงสุดเหนือสิ่งทั้งปวงบนแผ่นดินโลก
พระองค์ได้รับการเชิดชูเหนือเทพเจ้าทั้งปวง
10 ผู้รักพระผู้เป็นเจ้าเกลียดชังความชั่ว
พระองค์รักษาชีวิตของผู้ภักดีต่อพระองค์
พระองค์จะช่วยพวกเขาให้พ้นจากมือของคนชั่ว
11 แสงสาดส่องให้กับผู้มีความชอบธรรม
และความยินดีให้กับผู้มีใจเที่ยงธรรม
12 ท่านผู้มีความชอบธรรมเอ๋ย จงยินดีในพระผู้เป็นเจ้าเถิด
และขอบคุณพระนามอันบริสุทธิ์ของพระองค์
33 ครั้นแล้ว พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับโมเสสว่า “ตัวเจ้ากับประชาชนที่เจ้าพาออกมาจากอียิปต์จงไปจากที่นี่ ไปยังดินแดนที่เราสัญญาไว้กับอับราฮัม อิสอัค และยาโคบว่า ‘เราจะยกให้แก่บรรดาผู้สืบเชื้อสายของเจ้า’ 2 และเราจะให้ทูตสวรรค์ผู้หนึ่งไปล่วงหน้าเจ้า เราจะขับไล่ชาวคานาอัน ชาวอาโมร์ ชาวฮิต ชาวเปริส ชาวฮีว และชาวเยบุส 3 จงขึ้นไปยังดินแดนอันอุดมด้วยน้ำนมและน้ำผึ้ง แต่เราจะไม่ขึ้นไปกับพวกเจ้า เกรงว่าเราจะกำจัดพวกเจ้าระหว่างทางเพราะว่าพวกเจ้าเป็นคนหัวรั้น”
4 เมื่อประชาชนได้ยินเช่นนั้นจึงร้องคร่ำครวญและไม่มีผู้ใดสวมเครื่องประดับเลย 5 เพราะพระผู้เป็นเจ้าได้กล่าวกับโมเสสว่า “จงบอกชาวอิสราเอลว่า ‘เจ้าเป็นคนหัวรั้น ถ้าเราขึ้นไปด้วยกันกับเจ้าแม้เพียงขณะเดียว เราก็คงจะกำจัดเจ้าเสีย ฉะนั้นจงถอดเครื่องประดับออกจากตัวเจ้า แล้วเราจะตัดสินใจว่าจะทำอะไรกับเจ้าต่อไป’” 6 ดังนั้นชาวอิสราเอลจึงถอดเครื่องประดับของตนออกจนหมดที่ภูเขาโฮเรบ
13 พี่น้องเอ๋ย ข้าพเจ้าถือว่ายังไม่ได้สิ่งนั้น แต่มีสิ่งหนึ่งที่ข้าพเจ้าทำคือ ลืมสิ่งที่อยู่เบื้องหลังเสียและก้าวเหยียดไปสู่สิ่งที่อยู่เบื้องหน้า 14 ข้าพเจ้ามุมานะสู่เป้าหมาย เพื่อรางวัลคือการที่พระเจ้าเรียกเพื่อไปสู่ชีวิตเบื้องบน โดยผ่านพระเยซูคริสต์ 15 ฉะนั้นเราทุกคนที่เติบโตฝ่ายวิญญาณแล้วควรคิดเห็นแบบนี้ แต่ถ้ามีใครที่คิดเห็นต่างออกไป พระเจ้าจะให้เป็นที่ประจักษ์แก่ท่านด้วย 16 อย่างไรก็ตาม เราได้ดำเนินการไปเท่าใดแล้ว ก็จงดำเนินต่อไป
17 พี่น้องเอ๋ย จงทำตามอย่างข้าพเจ้า และจับตาดูคนที่ปฏิบัติตนตามอย่างที่พวกเราทำเป็นตัวอย่างไว้แล้ว 18 ดังที่ข้าพเจ้าได้พร่ำบอกท่านอยู่บ่อยๆ และบัดนี้ก็บอกอีกด้วยน้ำตานองหน้าว่า มีหลายคนที่ใช้ชีวิตเยี่ยงศัตรูต่อไม้กางเขนของพระคริสต์ 19 จุดจบของเขาคือความพินาศ พระเจ้าของเขาคือปากท้องของเขา และสง่าราศีของเขาคือสิ่งที่น่าอับอาย จิตใจของเขาฝักใฝ่อยู่กับสิ่งที่เป็นฝ่ายโลก 20 ด้วยว่า เรามีสัญชาติเป็นพลเมืองของสวรรค์ และเราตั้งตาคอยองค์ผู้ช่วยให้รอดพ้นจากที่นั่น คือพระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้า 21 พระองค์เป็นผู้ที่จะเปลี่ยนร่างกายอันต่ำต้อยของเราให้เป็นเช่นร่างกายอันมีสง่าราศีของพระองค์ โดยฤทธานุภาพที่สามารถให้พระองค์นำทุกสิ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของพระองค์
4 ฉะนั้น พี่น้องที่รักและคิดถึงยิ่ง ท่านจงยืนหยัดในพระผู้เป็นเจ้า พี่น้องที่รักทั้งหลายทำให้ข้าพเจ้ายินดี ท่านเป็นเสมือนมงกุฎแห่งความมีชัยของข้าพเจ้า
Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation