Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

Revised Common Lectionary (Semicontinuous)

Daily Bible readings that follow the church liturgical year, with sequential stories told across multiple weeks.
Duration: 1245 days
New Thai Version (NTV-BIBLE)
Version
อพยพ 17:1-7

น้ำจากก้อนหิน

17 ชาวอิสราเอลทั้งมวลโยกย้ายไปจากถิ่นทุรกันดารสีน และเคลื่อนย้ายไปเรื่อยๆ ตามคำบัญชาของพระผู้เป็นเจ้า และมาตั้งค่ายที่เรฟีดิม แต่เนื่องจากที่นั่นไม่มีน้ำให้ดื่ม ผู้คนจึงโต้แย้งโมเสสว่า “หาน้ำให้พวกเราดื่มสิ” โมเสสพูดว่า “ทำไมพวกท่านจึงก้าวร้าวต่อว่าเรา ทำไมท่านจึงลองดีกับพระผู้เป็นเจ้า แต่ผู้คนที่กำลังกระหายน้ำในที่นั้นพากันร้องบ่นไม่พอใจต่อว่าโมเสสว่า “ทำไมท่านจึงพาพวกเราขึ้นมาจากอียิปต์ หวังจะฆ่าเราพร้อมกับลูกหลานและฝูงปศุสัตว์ด้วยการให้อดน้ำหรือ” โมเสสจึงร้องเรียกถึงพระผู้เป็นเจ้าว่า “ข้าพเจ้าควรจะทำอย่างไรกับคนพวกนี้ดี พวกเขาแทบจะเอาก้อนหินขว้างใส่ข้าพเจ้าอยู่แล้ว” พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับโมเสสว่า “จงถือไม้เท้าที่เจ้าใช้ฟาดผิวน้ำที่แม่น้ำไนล์ แล้วเดินนำหน้าผู้คนไป พาบรรดาหัวหน้าชั้นผู้ใหญ่ของอิสราเอลไปด้วย จงไปเถิด ดูเถิด เราจะยืนอยู่ตรงหน้าเจ้าที่ก้อนหินที่โฮเรบ จงฟาดไม้เท้าใส่ก้อนหินนั้น แล้วน้ำก็จะไหลออกมาจากหิน ผู้คนจะได้ดื่มน้ำได้” โมเสสทำตามนั้นต่อหน้าบรรดาหัวหน้าชั้นผู้ใหญ่ของอิสราเอล ท่านเรียกชื่อสถานที่นั้นว่า มัสสาห์ และเมรีบาห์ เนื่องจากการทุ่มเถียงของบรรดาชาวอิสราเอล และเป็นเพราะพวกเขาลองดีกับพระผู้เป็นเจ้าด้วยการพูดว่า “พระผู้เป็นเจ้าสถิตกับพวกเราหรือเปล่า”

สดุดี 78:1-4

พระเจ้าเบื้องหลังชนชาติอิสราเอลที่กระทำบาปซ้ำแล้วซ้ำเล่า

เพลงสดุดีแห่งความฉลาดรอบรู้ของอาสาฟ

ชนชาติของเราเอ๋ย จงฟังคำสอนของเราเถิด
    เงี่ยหูฟังคำพูดจากปากของเรา
เราจะเปิดปากของเรากล่าวคำอุปมา[a]
    เราจะเล่าเรื่องที่ปิดบังไว้แต่ครั้งโบราณกาล
เรื่องที่พวกเราได้ยินและรู้มา
    เป็นสิ่งที่บรรพบุรุษของเราเล่าขานให้พวกเราฟัง
เราจะไม่ปิดบังพวกลูกหลานของท่านในเรื่องเหล่านี้
    แต่จะบอกคนยุคต่อไปให้ทราบถึง
การกระทำและอานุภาพของพระผู้เป็นเจ้า ซึ่งควรแก่การสรรเสริญ
    และสิ่งมหัศจรรย์ที่พระองค์ได้กระทำ

สดุดี 78:12-16

12 ขณะที่บรรพบุรุษของพวกเขาเฝ้าดู
    พระเจ้าก็ได้แสดงสิ่งอัศจรรย์ต่างๆ ในดินแดนอียิปต์ ที่ไร่นาของโศอัน
13 พระองค์แหวกน้ำทะเลออกจากกันเพื่อให้พวกเขาเดินผ่านไป
    และทำให้น้ำแหวกเป็นสองฟากฝั่งสูงทะมึน[a]
14 กลางวันพระองค์นำพวกเขาไปใต้เงาเมฆ
    และอาศัยแสงจากเพลิงไฟตลอดทั้งคืน[b]
15 พระองค์ทำให้หินในถิ่นทุรกันดารแตกออก
    เพื่อให้พวกเขามีน้ำดื่มได้มากมายราวกับน้ำจากห้วงน้ำลึก
16 พระองค์ทำให้ธารน้ำไหลออกจากหิน
    และทำให้น่านน้ำไหลลงดั่งแม่น้ำ[c]

ฟีลิปปี 2:1-13

ถ่อมตัวตามอย่างพระคริสต์

ฉะนั้น ถ้าท่านมีพลังใจในพระคริสต์ ถ้ามีการปลอบโยนจากความรักของพระองค์ ถ้ามีสามัคคีธรรมของพระวิญญาณ ถ้ามีความอ่อนหวานและความสงสาร ขอให้ท่านทำให้ความยินดีของข้าพเจ้าเต็มเปี่ยม ด้วยการมีความคิดอย่างเดียวกัน มีความรักอย่างเดียวกัน มีจิตวิญญาณและความรู้สึกนึกคิดที่เป็นหนึ่งเดียวกัน อย่ากระทำสิ่งใดอันเกิดจากความเห็นแก่ตัวหรือคิดยโส แต่จงถ่อมตัว และถือว่าผู้อื่นสำคัญกว่าตนเอง อย่าเพียงแต่คิดถึงผลประโยชน์ของตนเอง แต่จงคิดถึงผลประโยชน์ของผู้อื่นด้วย จงให้ความรู้สึกนึกคิดเป็นเช่นนี้ในหมู่ท่าน อย่างที่เป็นในพระเยซูคริสต์ แม้ว่าพระองค์มีสถานภาพเป็นพระเจ้า แต่ไม่ได้ยึดสถานภาพที่เสมอกับพระเจ้าไว้ พระองค์กลับสละทุกสิ่ง โดยรับสภาพเป็นผู้รับใช้ และมาเกิดในลักษณะของมนุษย์ และเมื่อปรากฏให้เห็นเป็นร่างกายอย่างมนุษย์แล้ว พระองค์ก็ถ่อมพระองค์เอง และยอมเชื่อฟังจนถึงขั้นที่ต้องเสียชีวิต แม้กระทั่งเป็นความตายบนไม้กางเขน ฉะนั้นพระเจ้าจึงได้ยกพระองค์ขึ้นสู่ที่สูงสุด และมอบพระนามที่เหนือนามอื่นใดแก่พระองค์ 10 เพื่อว่าทุกคนจะได้คุกเข่าลงให้กับพระนามของพระเยซูทั้งในสวรรค์ บนโลก และใต้บาดาล 11 และลิ้นทุกลิ้นยอมสารภาพว่า พระเยซูคริสต์เป็นพระผู้เป็นเจ้า เพื่อถวายพระบารมีแด่พระเจ้าผู้เป็นพระบิดา

ส่องสกาวดุจดวงดารา

12 ฉะนั้น เพื่อนที่รักทั้งหลาย ตามที่ท่านได้เชื่อฟังมาเสมอแล้วเมื่อข้าพเจ้าอยู่กับท่าน และบัดนี้แม้ข้าพเจ้าไม่ได้อยู่ด้วย ท่านก็ควรเชื่อฟังมากยิ่งขึ้น ท่านจงประพฤติตนให้ถึงที่สุด เพื่อให้ความรอดพ้นของท่านบริบูรณ์ด้วยความเกรงกลัวและหวาดหวั่น 13 ด้วยว่าพระเจ้าเป็นผู้สำแดงการกระทำในหมู่ท่าน เพื่อให้ท่านยินยอมและดำเนินงานตามจุดประสงค์ของพระองค์

มัทธิว 21:23-32

คำถามระหว่างพวกผู้นำกับพระเยซู

23 เมื่อพระองค์เข้าไปในบริเวณพระวิหาร พวกมหาปุโรหิตและพวกผู้ใหญ่ของประชาชนก็มาหาพระองค์ ขณะที่พระองค์กำลังสั่งสอนอยู่ พวกเขาพูดว่า “ท่านกระทำสิ่งเหล่านี้ด้วยสิทธิอำนาจอันใด และใครให้สิทธิอำนาจนี้แก่ท่าน” 24 พระเยซูกล่าวตอบพวกเขาว่า “เราจะถามท่านอย่างหนึ่งด้วย ถ้าท่านบอกเรา เราก็จะบอกท่านเช่นกันว่าเรากระทำสิ่งเหล่านี้ด้วยสิทธิอำนาจอันใด 25 บัพติศมาของยอห์นมาจากไหน จากสวรรค์หรือจากมนุษย์” เขาเหล่านั้นจึงเริ่มถามหาเหตุผลกันเองว่า “ถ้าพวกเราพูดว่า ‘มาจากสวรรค์’ เขาก็จะพูดว่า ‘แล้วทำไมท่านจึงไม่เชื่อเขา’ 26 แต่ถ้าพวกเราพูดว่า ‘มาจากมนุษย์’ เราก็กลัวฝูงชน เพราะทุกคนถือว่ายอห์นเป็นผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้า” 27 พวกเขาจึงตอบพระเยซูว่า “พวกเราไม่ทราบ” พระองค์กล่าวกับเขาว่า “เราก็จะไม่บอกท่านเช่นกันว่า เรากระทำสิ่งเหล่านี้ด้วยสิทธิอำนาจอันใด

อุปมาเรื่องบุตรชาย 2 คน

28 แต่ท่านคิดเห็นอย่างไรเล่า ชายคนหนึ่งมีบุตรชาย 2 คน เขามาพูดกับคนแรกว่า ‘ลูกเอ๋ย วันนี้เจ้าจงไปทำงานในสวนองุ่นเถิด’ 29 เขาตอบว่า ‘ข้าพเจ้าจะไม่ไป’ แต่ต่อมาเปลี่ยนใจ แล้วก็ไป 30 เขามาพูดกับคนที่สองเช่นเดียวกัน แต่เขาตอบว่า ‘ข้าพเจ้าจะไป’ และเขาก็ไม่ได้ไป 31 สองคนนี้คนไหนกระทำตามความประสงค์ของบิดาของเขา” พวกเขาตอบว่า “คนแรก” พระเยซูกล่าวว่า “เราขอบอกความจริงกับท่านว่า บรรดาคนเก็บภาษีและหญิงแพศยาจะเข้าสู่อาณาจักรของพระเจ้าก่อนพวกท่านเสียอีก 32 เพราะยอห์นมาชี้ให้พวกท่านเห็นทางแห่งความชอบธรรม และท่านก็ไม่เชื่อเขา แต่บรรดาคนเก็บภาษีและหญิงแพศยาได้เชื่อเขา แม้ต่อมา ทั้งๆ ที่ท่านได้เห็นแล้ว แต่ก็ไม่ได้กลับใจและเชื่อเขา

New Thai Version (NTV-BIBLE)

Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation