Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

Revised Common Lectionary (Semicontinuous)

Daily Bible readings that follow the church liturgical year, with sequential stories told across multiple weeks.
Duration: 1245 days
New Thai Version (NTV-BIBLE)
Version
เพลงซาโลมอน 2:8-13

เจ้าสาวชื่นชมคนรัก

เสียงของคนรักของฉัน
    ดูเถิด เขากำลังมา
กำลังกระโจนบนภูเขาลูกใหญ่
    เขากระโดดบนเนินเขา
คนรักของฉันเป็นดั่งละองละมั่งหรือกวางหนุ่ม
    ดูเถิด เขายืนอยู่ที่นอกกำแพงบ้าน
มองผ่านหน้าต่าง
    และจ้องดูผ่านบานเกล็ด
10 คนรักของฉันพูดกับฉันว่า
    “ที่รักของฉัน สาวงามของฉันลุกขึ้นเถิด
    มากับฉันเถอะ
11 ดูสิ ฤดูหนาวผ่านพ้นไปแล้ว
    ฝนก็ไม่ตกอีกแล้ว
12 ดอกไม้ก็ผุดขึ้นจากพื้นดิน
    ถึงเวลาได้ยินเสียงเพลงแล้ว
และเสียงของนกพิราบหางขาว
    กู่ร้องไปไกลทั่วแผ่นดินของเรา
13 ต้นมะเดื่อเริ่มผลิดอกออกผล
    และเถาองุ่นออกดอก ส่งกลิ่นหอม
ลุกขึ้นเถิด ที่รักของฉัน
    สาวงามของฉัน และมากับฉัน

ปฐมกาล 29:1-14

ยาโคบแต่งงานกับเลอาห์และราเชล

29 ครั้นแล้ว ยาโคบก็เดินทางต่อไป และมาถึงดินแดนของชาวตะวันออก ขณะที่เขาทอดสายตา ก็เห็นบ่อน้ำในทุ่ง ดูเถิด มีแพะแกะ 3 ฝูงหมอบพักอยู่ข้างบ่อ เพราะฝูงแพะแกะอาศัยน้ำจากบ่อนั้น หินที่ปิดปากบ่อก็ใหญ่ เวลาพวกฝูงแพะแกะถูกต้อนรวมกันอยู่ที่นั่น คนเลี้ยงแกะก็จะกลิ้งหินออกจากปากบ่อ แล้วตักน้ำให้แพะแกะกิน เสร็จแล้วก็กลิ้งหินกลับปิดปากบ่อ

ยาโคบพูดกับพวกเขาว่า “พี่น้องเอ๋ย พวกท่านมาจากไหน” เขาตอบว่า “พวกเรามาจากฮาราน” ยาโคบจึงถามเขาว่า “ท่านรู้จักลาบันลูกชายของนาโฮร์หรือไม่” พวกเขาตอบว่า “เรารู้จักเขา” ยาโคบถามพวกเขาว่า “เขาสบายดีหรือ” เขาตอบว่า “เขาสบายดี ดูโน่น ราเชลลูกสาวของเขากำลังพาแพะแกะมา” ยาโคบพูดว่า “ดูสิ นี่ก็ยังวันอยู่ ยังไม่ถึงเวลาต้อนสัตว์เข้าคอก ให้น้ำแพะแกะกินเถิด แล้วปล่อยมันออกไปกินหญ้าอีก” แต่พวกเขาตอบว่า “เราทำไม่ได้จนกว่าทุกฝูงถูกต้อนมารวมกันก่อน และต้องกลิ้งหินออกไปจากปากบ่อ แล้วเราจึงให้น้ำแพะแกะกินได้”

ขณะที่เขากำลังพูดกับคนพวกนั้นอยู่ ราเชลก็พาแพะแกะของบิดาเธอมา เพราะเธอเป็นผู้เลี้ยงดูฝูงแกะ 10 เมื่อยาโคบเห็นราเชลบุตรหญิงของลาบันพี่ชายมารดาของตน และแพะแกะของลาบันพี่ชายมารดาของเขา ยาโคบจึงขึ้นไปกลิ้งหินออกจากปากบ่อ และให้น้ำแก่ฝูงแพะแกะของลาบันพี่ชายมารดาของตน 11 ยาโคบก็จูบแก้มราเชลแล้วร้องไห้เสียงดัง 12 และยาโคบบอกราเชลว่าเขาเป็นญาติของบิดาของเธอ คือเป็นบุตรของนางเรเบคาห์ เธอจึงวิ่งไปบอกบิดาของเธอ

13 เมื่อลาบันได้ยินเรื่องราวของยาโคบลูกน้องสาวของตน ก็วิ่งไปพบกับเขา กอดและจูบแก้มเขา แล้วพาเขาไปที่บ้าน ยาโคบเล่าเรื่องราวต่างๆ ให้ลาบันฟัง 14 ลาบันจึงพูดกับเขาว่า “เจ้าเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเราโดยแท้” และยาโคบอยู่กับลาบัน 1 เดือน

โรม 3:1-8

ถ้าเช่นนั้นชาวยิวได้เปรียบอะไรเล่า หรือการเข้าสุหนัตมีประโยชน์อะไร มีประโยชน์มากทุกด้าน ประการแรกชาวยิวเป็นผู้ได้รับมอบให้อารักขาคำกล่าวของพระเจ้า ถ้าบางคนในพวกเขาไม่มีความภักดี แล้วความไม่ภักดีของเขาจะทำให้พระเจ้าถอนคำมั่นสัญญาหรือ ไม่มีทางจะเป็นเช่นนั้น แม้ว่าทุกคนพูดเท็จ พระเจ้าก็เป็นผู้รักษาคำพูด ตามที่มีบันทึกไว้ว่า

“เพื่อพระองค์เป็นที่เห็นว่าถูกต้องเวลาพระองค์กล่าว
    และมีชัยชนะเมื่อพระองค์ตัดสินโทษ”[a]

แต่ถ้าความไม่ชอบธรรมของเราแสดงให้เห็นความชอบธรรมของพระเจ้าชัดเจนยิ่งขึ้น แล้วเราจะว่าอย่างไร เมื่อพระเจ้าลงโทษเรา พระองค์ไม่มีความยุติธรรมอย่างนั้นหรือ (ข้าพเจ้าพูดอย่างมนุษย์) ไม่มีทางจะเป็นเช่นนั้น เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นแล้วพระเจ้าจะกล่าวโทษโลกได้อย่างไร แต่ถ้าการมดเท็จของข้าพเจ้าทำให้ความสัตย์จริงของพระเจ้าปรากฏชัดยิ่งขึ้น และเพิ่มพูนพระบารมีของพระองค์แล้ว ทำไมข้าพเจ้าจึงยังถูกกล่าวโทษเช่นคนบาปเล่า ทำไมไม่พูดว่า “ให้เรากระทำความชั่วเถิด เพื่อความดีจะได้เกิดขึ้นกับเรา” ดังที่พวกเขาใส่ร้ายเรา และตามที่บางคนอ้างว่าเราพูดอย่างนั้น เป็นการยุติธรรมแล้วที่คนแบบนั้นจะถูกกล่าวโทษ

New Thai Version (NTV-BIBLE)

Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation