Revised Common Lectionary (Semicontinuous)
พระเจ้าช่วยคนให้รอดพ้นจากความตาย
1 ข้าพเจ้ารักพระผู้เป็นเจ้า เพราะพระองค์ได้ยินเสียง
และคำอ้อนวอนของข้าพเจ้า
2 เพราะพระองค์เงี่ยหูฟังข้าพเจ้า
และข้าพเจ้าจะร้องเรียกถึงพระองค์ไปตลอดชีวิต
12 พระผู้เป็นเจ้าให้ข้าพเจ้ามีอย่างเหลือล้น
แล้วข้าพเจ้าจะเอาอะไรมาตอบแทนพระองค์เล่า
13 ข้าพเจ้าจะยกถ้วยแห่งความรอดพ้น
และร้องเรียกพระนามของพระผู้เป็นเจ้า
14 ข้าพเจ้าจะทำตามสัญญาที่ได้ให้ไว้กับพระผู้เป็นเจ้า
ต่อหน้าชนชาติทั้งปวงของพระองค์
15 ความตายของบรรดาผู้บริสุทธิ์ของพระเจ้า
มีค่าอนันต์ในสายตาของพระผู้เป็นเจ้า
16 โอ พระผู้เป็นเจ้า ข้าพเจ้าเป็นผู้รับใช้ของพระองค์
ข้าพเจ้าเป็นผู้รับใช้ของพระองค์ บุตรของหญิงผู้รับใช้ของพระองค์
พระองค์ได้แก้โซ่แห่งความเจ็บปวดให้ข้าพเจ้า
17 ข้าพเจ้าจะมอบของถวายแห่งการขอบคุณ
และร้องเรียกพระนามของพระผู้เป็นเจ้า
18 ข้าพเจ้าจะทำตามสัญญาที่ได้ให้ไว้กับพระผู้เป็นเจ้า
ต่อหน้าชนชาติทั้งปวงของพระองค์
19 ในลานพระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้า
ท่ามกลางเยรูซาเล็ม
จงสรรเสริญพระผู้เป็นเจ้า
อิสอัคกับเรเบคาห์
24 บัดนี้อับราฮัมชราลง ท่านมีอายุมากแล้ว และพระผู้เป็นเจ้าได้ให้พรอับราฮัมในทุกด้าน 2 อับราฮัมพูดกับผู้รับใช้ที่มีอายุมากที่สุดในบ้าน และเป็นผู้ดูแลทรัพย์สินทั้งหมดของท่านว่า “จงวางมือของเจ้าไว้ที่ใต้ขาอ่อนของเรา 3 และเราจะให้เจ้าสาบานในพระนามของพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลกว่า เจ้าจะไม่หาลูกสาวจากชาวคานาอันมาเป็นภรรยาลูกชายของเรา เราเองก็อาศัยอยู่ท่ามกลางพวกเขา 4 แต่เจ้าจะกลับไปที่ประเทศและหมู่ญาติพี่น้องของเรา และหาภรรยาให้อิสอัคลูกชายของเรา” 5 ผู้รับใช้ตอบท่านว่า “ถ้าทางฝ่ายหญิงไม่ยอมติดตามข้าพเจ้ามายังดินแดนนี้ ข้าพเจ้าจะพาลูกชายของท่านกลับไปยังดินแดนที่ท่านจากมาหรือไม่” 6 อับราฮัมพูดกับเขาว่า “ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม เจ้าอย่าพาลูกชายของเรากลับไปที่นั่น 7 พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์ผู้นำเรามาจากบ้านของบิดาของเรา และจากดินแดนที่เรากำเนิด และเป็นองค์ผู้กล่าวกับเราและปฏิญาณดังนี้ว่า ‘เราจะให้ดินแดนนี้แก่ผู้สืบเชื้อสายของเจ้า’[a] พระองค์จะให้ทูตสวรรค์ของพระองค์ล่วงหน้าไปก่อนเจ้า และเจ้าจะหาภรรยาจากที่นั่นให้ลูกชายของเราได้ 8 แต่ถ้าผู้หญิงไม่ยอมติดตามเจ้า เจ้าก็จะพ้นจากคำสาบานของเรา ขอเพียงแต่เจ้าอย่าพาลูกชายของเรากลับไปที่นั่น” 9 ดังนั้นผู้รับใช้จึงวางมือของเขาไว้ที่ใต้ขาอ่อนของอับราฮัมนายของเขา และสาบานต่อท่านในเรื่องนี้
35 นี่คือโมเสสคนเดิมที่คนเหล่านั้นได้ปฏิเสธท่านว่า ‘ใครแต่งตั้งให้ท่านเป็นผู้ปกครองและผู้ตัดสินความ’ พระเจ้าได้แต่งตั้งโมเสสให้เป็นผู้ปกครองและผู้ช่วยปลดปล่อย ด้วยความช่วยเหลือของทูตสวรรค์ที่ปรากฏแก่ท่านในพุ่มไม้ 36 โมเสสได้นำผู้คนออกไปจากประเทศอียิปต์ และกระทำสิ่งมหัศจรรย์ รวมทั้งปรากฏการณ์อัศจรรย์ในประเทศอียิปต์ ที่ทะเลแดงและในถิ่นทุรกันดารเป็นเวลา 40 ปี 37 นี่คือโมเสสผู้ที่บอกชาวอิสราเอลว่า ‘พระเจ้าจะกำหนดผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้าผู้หนึ่งดังเช่นเราจากหมู่พี่น้องของท่านเอง’[a] 38 ท่านเป็นผู้ที่อยู่ในหมู่ชนในถิ่นทุรกันดารพร้อมด้วยทูตสวรรค์ผู้ได้กล่าวกับท่านบนภูเขาซีนายและบรรพบุรุษของเราด้วย ท่านได้รับคำกล่าวแห่งชีวิตมาเพื่อถ่ายทอดให้แก่พวกเรา 39 บรรพบุรุษของเราไม่ยอมเชื่อฟังท่าน นอกจากจะไม่ยอมรับท่านแล้ว ใจของเขาเหล่านั้นก็หวนระลึกถึงประเทศอียิปต์อีกด้วย 40 พวกเขาบอกอาโรนว่า ‘ช่วยสร้างบรรดาเทพเจ้าให้เป็นผู้นำหน้าพวกเราไปเถิด ไม่รู้ว่าโมเสสคนที่ได้นำเราออกมาจากประเทศอียิปต์เป็นอะไรไปแล้ว’[b] 41 ขณะนั้นพวกเขาได้ปั้นรูปลูกโคขึ้น และนำเครื่องสักการะมาถวาย ทั้งจัดงานฉลองเพื่อแสดงความเคารพต่อสิ่งที่ทำขึ้นด้วยมือของพวกเขาเอง 42 พระเจ้าจึงหันจากไปโดยปล่อยให้เขาไปนมัสการหมู่ดาวในท้องฟ้า ดังที่ปรากฏเป็นบันทึกในหมวดผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้าว่า
‘โอ พงศ์พันธุ์อิสราเอลเอ๋ย เจ้านำเครื่องสักการะและของถวาย
มาเซ่นสรวงเรา 40 ปีในถิ่นทุรกันดารหรือ
43 พวกเจ้าได้ยกกระโจมของเทพเจ้าโมเลค
และดาวของเทพเจ้าเรฟานของเจ้า
รูปเคารพต่างๆ ที่เจ้าสร้างขึ้นเพื่อนมัสการ
ฉะนั้นเราจะให้เจ้าถูกเนรเทศออกไปจนเลยเขตบาบิโลน’[c]
Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation