Revised Common Lectionary (Semicontinuous)
17 ถึงกระนั้นพวกเขายังกระทำบาปต่อพระองค์ไว้มาก
เขาลองดีกับองค์ผู้สูงสุดในถิ่นทุรกันดาร
18 พวกเขาตั้งใจลองดีกับพระเจ้า
โดยเรียกร้องอาหารที่เขานึกอยาก
19 พวกเขาพูดเหยียดหยามพระเจ้าว่า
“พระเจ้าจะหาสำรับในถิ่นทุรกันดารมาให้ได้ไหม
20 พระองค์กระทบหินเพื่อให้น้ำพวยพุ่งขึ้น
และลำธารไหลล้น
พระองค์ให้ขนมปัง
หรือจัดหาเนื้อสัตว์เพื่อชนชาติของพระองค์ได้ด้วยหรือ”
52 แล้วพระองค์นำหน้าชนชาติของพระองค์เหมือนนำแกะ
และนำพวกเขาในถิ่นทุรกันดารเหมือนนำฝูงแกะ
53 พระองค์นำหน้าพวกเขาไปอย่างปลอดภัย พวกเขาจึงไม่หวาดกลัว
แต่ทะเลกลับท่วมมิดศัตรู
54 ครั้นแล้วพระองค์ก็นำพวกเขาไปยังดินแดนอันบริสุทธิ์ของพระองค์
ไปยังภูเขาซึ่งมือขวาของพระองค์ได้มาด้วยชัยชนะ
55 พระองค์ขับไล่บรรดาประชาชาติให้ออกไปต่อหน้าพวกเขา
พระองค์แบ่งเขตที่ดินให้พวกเขามีกรรมสิทธิ์เป็นเจ้าของ
และให้บรรดาเผ่าของอิสราเอลตั้งรกรากในกระโจมที่พักของพวกเขา
พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับเอลียาห์
9 เอลียาห์มาถึงถ้ำและค้างแรมในนั้น และดูเถิด พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับท่านว่า “เอลียาห์ เจ้ามาทำอะไรที่นี่” 10 ท่านตอบว่า “ข้าพเจ้ารับใช้พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าจอมโยธาอย่างเอาจริงเอาจัง แต่ชาวอิสราเอลได้ทอดทิ้งพันธสัญญาของพระองค์ ทำลายแท่นบูชาของพระองค์ และฆ่าฟันบรรดาผู้เผยคำกล่าวของพระองค์ เหลือแต่ข้าพเจ้าเพียงคนเดียว และพวกเขาก็ได้ตามหาข้าพเจ้า เพื่อจะเอาชีวิตของข้าพเจ้าไปเสีย” 11 พระองค์กล่าวว่า “จงออกไป ไปยืนบนภูเขา เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้า” และดูเถิด พระผู้เป็นเจ้าผ่านไป ลมอันแรงกล้าได้แยกภูเขาให้แตกออกเป็นเสี่ยงๆ ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้า แต่พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้สถิตในลม และภายหลังลม ก็เกิดแผ่นดินไหว แต่พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้สถิตในแผ่นดินไหว 12 ภายหลังแผ่นดินไหว ก็เกิดไฟ แต่พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้สถิตในไฟ และภายหลังไฟ ก็เกิดเสียงแผ่วเบา 13 เมื่อเอลียาห์ได้ยินเสียง ท่านก็ใช้เสื้อคลุมของท่านปิดหน้า และออกไปยืนที่ปากถ้ำ และดูเถิด มีเสียงกล่าวกับท่านว่า “เอลียาห์ เจ้ามาทำอะไรที่นี่” 14 ท่านตอบว่า “ข้าพเจ้ารับใช้พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าจอมโยธาอย่างเอาจริงเอาจัง แต่ชาวอิสราเอลได้ทอดทิ้งพันธสัญญาของพระองค์ ทำลายแท่นบูชาของพระองค์ และฆ่าฟันบรรดาผู้เผยคำกล่าวของพระองค์ เหลือแต่ข้าพเจ้าเพียงคนเดียว และพวกเขาก็ได้ตามหาข้าพเจ้า เพื่อจะเอาชีวิตของข้าพเจ้าไปเสีย” 15 พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับท่านว่า “ไปเถิด จงกลับไปยังถิ่นทุรกันดารดามัสกัส และเมื่อเจ้าไปถึงแล้ว เจ้าจงเจิมฮาซาเอลให้เป็นกษัตริย์ปกครองอารัม 16 และจงเจิมเยฮูบุตรของนิมชีให้เป็นกษัตริย์ปกครองอิสราเอล จงเจิมเอลีชาบุตรของชาฟัทแห่งเมืองอาเบลเมโฮลาห์ ให้เป็นผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้าแทนเจ้า 17 และผู้ที่หนีรอดจากดาบของฮาซาเอล ก็จงให้เยฮูฆ่าเสีย และผู้ที่หนีรอดจากดาบของเยฮูก็จงให้เอลีชาฆ่าเสีย 18 แต่เราจะยังไว้ชีวิต 7,000 คนในอิสราเอลที่ไม่ได้ก้มกราบเทพเจ้าบาอัล และทุกปากที่ไม่ได้จูบเทวรูปบาอัล”
พระคุณที่มีต่ออิสราเอล
11 ข้าพเจ้าจึงถามว่า พระเจ้าทอดทิ้งชนชาติของพระองค์หรือ ไม่มีทางจะเป็นเช่นนั้น ข้าพเจ้าเองก็เป็นชาวอิสราเอล เป็นผู้สืบเชื้อสายคนหนึ่งของอับราฮัม มาจากเผ่าเบนยามิน 2 พระองค์ทราบชนชาติของพระองค์ดีมาแต่แรกแล้วว่า พระองค์ไม่ทอดทิ้งพวกเขา ท่านไม่ทราบหรือว่า พระคัมภีร์ระบุถึงอะไรในข้อความที่เกี่ยวกับเอลียาห์ว่า ท่านติเตียนอิสราเอลเมื่ออ้อนวอนกับพระเจ้าว่า 3 “พระผู้เป็นเจ้า พวกเขาได้ฆ่าบรรดาผู้เผยคำกล่าวของพระองค์ แท่นบูชาของพระองค์เขาก็ได้ทำลายเสีย เหลือแต่ข้าพเจ้าเพียงคนเดียว และพวกเขาก็หาทางกำจัดชีวิตของข้าพเจ้า”[a] 4 และพระเจ้าตอบเอลียาห์ว่าอย่างไร “เราได้ไว้ชีวิต 7,000 คนที่ไม่ได้ก้มกราบเทพเจ้าบาอัล”[b] 5 เช่นเดียวกันคือ ในเวลานี้มีผู้ที่มีชีวิตเหลืออยู่จำนวนหนึ่งที่ได้รับเลือกไว้โดยพระคุณ 6 แต่ถ้าเป็นไปโดยพระคุณ ก็ไม่ขึ้นอยู่กับการปฏิบัติ มิฉะนั้นพระคุณก็ไม่ใช่พระคุณ
Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation