Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

Revised Common Lectionary (Semicontinuous)

Daily Bible readings that follow the church liturgical year, with sequential stories told across multiple weeks.
Duration: 1245 days
New Thai Version (NTV-BIBLE)
Version
สดุดี 119:1-8

กฎบัญญัติของพระผู้เป็นเจ้า

א อาเลฟ[a]

บรรดาผู้อยู่ในวิถีทางอันปราศจากข้อตำหนิใดๆ ก็เป็นสุข
    คือผู้ดำเนินตามกฎบัญญัติของพระผู้เป็นเจ้า
บรรดาผู้ปฏิบัติตามคำสั่งของพระองค์ก็เป็นสุข
    คือผู้แสวงหาพระองค์อย่างสุดจิตสุดใจ
คือผู้ไม่กระทำผิดใดๆ
    แต่ดำเนินตามวิถีทางของพระองค์
พระองค์ออกคำสั่งให้ถือเป็นข้อบังคับ
    เพื่อให้เชื่อฟังอย่างเคร่งครัด
ข้าพเจ้าหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะภักดี
    โดยเชื่อฟังกฎเกณฑ์ของพระองค์
แล้วข้าพเจ้าจะไม่ได้รับความอับอาย
    เมื่อใจจดจ่ออยู่กับพระบัญญัติของพระองค์ทุกข้อ
ข้าพเจ้าขอบคุณพระองค์ด้วยใจจริง
    ขณะที่ข้าพเจ้าเรียนรู้คำบัญชาอันชอบธรรมของพระองค์
ข้าพเจ้าจะรักษากฎเกณฑ์ของพระองค์
    กรุณาอย่าทอดทิ้งข้าพเจ้าโดยสิ้นเชิง

เลวีนิติ 26:34-46

34 จากนั้นแผ่นดินจะยินดีกับปีสะบาโตนานตราบที่ยังเป็นที่ร้าง ขณะที่พวกเจ้าอาศัยอยู่ในแผ่นดินของศัตรู เมื่อนั้นแหละแผ่นดินจะได้หยุดพักและยินดีกับปีสะบาโต 35 ตราบที่แผ่นดินเป็นที่ร้าง มันจะได้หยุดพัก ซึ่งเป็นการหยุดพักที่มันไม่ได้รับจากพวกเจ้าในระยะปีสะบาโตเมื่อเจ้าอาศัยอยู่ในแผ่นดินนั้น 36 สำหรับพวกเจ้าที่ยังมีชีวิตอยู่ เราจะทำให้ใจพวกเขาหวาดผวาในแผ่นดินของพวกศัตรู แม้ใบไม้ปลิวไปกับสายลมก็ยังทำให้พวกเขาเผ่นหนีได้ และจะหนีไปอย่างกับหนีจากคมดาบ จนถึงกับจะล้มลงแม้ในขณะที่ไม่มีผู้ใดไล่ล่า 37 พวกเขาจะสะดุดชนกันราวกับว่ากำลังหนีจากคมดาบแม้ไม่มีผู้ใดไล่ล่า ฉะนั้นพวกเจ้าจะไม่มีพลังยืนต่อสู้กับศัตรู 38 พวกเจ้าจะตายในท่ามกลางบรรดาประชาชาติ และจะถูกกลืนกินในแผ่นดินของศัตรู 39 ส่วนบรรดาพวกที่ยังมีชีวิตอยู่จะเปื่อยเน่าในแผ่นดินของศัตรูเพราะบาปของพวกเขา และเป็นเพราะบาปของบรรพบุรุษด้วย พวกเขาจะเปื่อยเน่าไปเหมือนกัน

40 แต่ถ้าพวกเขาสารภาพบาปของตนและบาปของบรรพบุรุษที่ไม่ภักดี ด้วยการฝ่าฝืนเราและดำเนินชีวิตในทางตรงกันข้ามกับเรา 41 ถึงกับทำให้เราเดินในทางตรงกันข้ามกับพวกเขา และนำพวกเขาเข้าสู่แผ่นดินของศัตรู แต่ถ้าใจของพวกเขาที่แข็งต่อพระเจ้าถูกทำให้ถ่อมลงและยอมรับโทษบาปของตน 42 เราก็จะระลึกถึงพันธสัญญาของเราที่ทำไว้กับยาโคบ และเราจะระลึกถึงพันธสัญญาของเราที่ทำไว้กับอิสอัค และพันธสัญญาของเราที่ทำไว้กับอับราฮัม และเราจะระลึกถึงแผ่นดินนั้น 43 แต่แผ่นดินจะถูกทิ้งไว้และจะยินดีกับปีสะบาโตขณะเป็นที่ร้างเพราะไม่มีพวกเขาอยู่ และพวกเขาจะยอมรับโทษบาปของตน เพราะปฏิเสธคำบัญชาของเรา และจิตวิญญาณก็ละเลยต่อกฎเกณฑ์ของเรา 44 ถึงกระนั้นก็ตาม เมื่อพวกเขาอยู่ในแผ่นดินของศัตรู เราก็จะไม่ปฏิเสธและทอดทิ้งพวกเขาจนถึงกับต้องกำจัดจนราบคาบ และยกเลิกพันธสัญญาของเรากับพวกเขา เพราะเราคือพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของพวกเขา 45 แต่เป็นเพราะพวกเขา เราจะระลึกถึงพันธสัญญาที่เราทำไว้กับบรรพบุรุษ ซึ่งเราได้นำออกไปจากแผ่นดินอียิปต์ต่อหน้าบรรดาประชาชาติเพื่อเราจะเป็นพระเจ้าของพวกเขา เราคือพระผู้เป็นเจ้า’”

46 สิ่งเหล่านี้เป็นกฎเกณฑ์ คำบัญชาและกฎบัญญัติซึ่งพระผู้เป็นเจ้าได้ทำไว้ระหว่างพระองค์กับชาวอิสราเอลโดยผ่านโมเสสที่ภูเขาซีนาย

1 ยอห์น 2:7-17

ข้าพเจ้าไม่ได้เขียนถึงท่านที่รักทั้งหลายเกี่ยวกับข้อบัญญัติใหม่ แต่เป็นข้อบัญญัติเก่าซึ่งท่านมีมาแต่แรกเริ่ม คือข้อบัญญัติเก่าอันเป็นคำกล่าวที่ท่านได้ยินได้ฟังมาแล้ว อีกนัยหนึ่ง ก็นับได้ว่าข้าพเจ้าเขียนถึงท่าน เกี่ยวกับข้อบัญญัติใหม่ถึงความจริงที่ปรากฏในพระองค์และในท่านทั้งหลาย เพราะว่าความมืดกำลังผ่านไป และความสว่างที่แท้จริงก็ทอแสงแล้ว ผู้ที่กล่าวว่าตนอยู่ในความสว่าง แต่ใจเกลียดชังพี่น้องของตนก็นับว่ายังอยู่ในความมืด 10 ผู้ที่รักพี่น้องของตนก็นับว่าดำรงอยู่ในความสว่าง และไม่มีสิ่งใดในตัวเขาที่เป็นเหตุให้เขาพลาดได้ 11 แต่ผู้ที่เกลียดชังพี่น้องของตนก็นับว่าอยู่ในความมืด เดินอยู่ในความมืด และไม่ทราบหนทางที่จะไป เพราะว่าความมืดได้ทำให้ตาเขาบอดเสียแล้ว

12 บรรดาลูกที่รักเอ๋ย ข้าพเจ้าเขียนถึงท่าน
    ก็เพราะพระองค์ยกโทษบาปให้แก่ท่านโดยพระนามของพระองค์
13 พวกท่านที่เป็นบิดา ข้าพเจ้าเขียนถึงท่าน
    ก็เพราะท่านรู้จักพระองค์ผู้เป็นมาตั้งแต่ปฐมกาลแล้ว
พวกหนุ่มๆ ข้าพเจ้าเขียนถึงท่าน
    ก็เพราะท่านได้มีชัยชนะต่อมารร้ายนั้นแล้ว
ลูกๆ เอ๋ย ข้าพเจ้าเขียนถึงท่าน
    ก็เพราะพวกท่านรู้จักพระบิดา
14 ท่านทั้งหลายที่เป็นบิดา ข้าพเจ้าเขียนถึงท่าน
    ก็เพราะท่านได้รู้จักพระองค์ผู้เป็นมาตั้งแต่ปฐมกาลแล้ว
พวกหนุ่มๆ ข้าพเจ้าเขียนถึงท่าน
    ก็เพราะท่านเข้มแข็ง
และคำกล่าวของพระเจ้าดำรงอยู่ในตัวท่าน
    และท่านได้มีชัยชนะต่อมารร้ายนั้นแล้ว

อย่ารักโลก

15 อย่ารักโลกหรือสิ่งใดในโลก ถ้าผู้ใดรักโลก ความรักของพระบิดาก็ไม่อยู่ในตัวคนนั้น 16 เพราะว่าทุกสิ่งที่อยู่ในโลกเช่น ความอยากฝ่ายเนื้อหนัง[a] ความอยากอันเกิดจากตามองเห็น และการโอ้อวดในสิ่งที่ตนมี หาใช่มาจากพระบิดาไม่ แต่มาจากโลก 17 โลกและกิเลสของโลกก็กำลังล่วงลับไป แต่ผู้ที่กระทำตามความประสงค์ของพระเจ้าจะดำรงอยู่ตลอดไป

New Thai Version (NTV-BIBLE)

Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation