Revised Common Lectionary (Semicontinuous)
ไว้วางใจและมั่นใจในพระผู้เป็นเจ้า
ของดาวิด
1 พระผู้เป็นเจ้าเป็นแสงสว่างและความรอดพ้นของข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าจะกลัวใครเล่า
พระผู้เป็นเจ้าเป็นที่หลบภัยของชีวิตข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าจะหวั่นกลัวผู้ใด
2 เวลาคนชั่วต่อต้านเพื่อทำร้าย
ดั่งจะกลืนกินข้าพเจ้า
เวลาฝ่ายตรงข้ามและศัตรูโจมตีข้าพเจ้า
พวกเขาจะพลาดและล้มลง
3 แม้จะมีกองทัพตีวงล้อมข้าพเจ้า
ใจข้าพเจ้าก็ไม่หวาดหวั่น
แม้จะมีใครก่อศึกรุกรานข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าก็ยังจะมีความมั่นใจ
4 มีสิ่งเดียวที่ข้าพเจ้าวอนขอจาก
พระผู้เป็นเจ้าผู้ซึ่งข้าพเจ้าแสวงหา
คือขอให้ได้อยู่ในพระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้า
ชั่วชีวิตของข้าพเจ้า
เพื่อทอดสายตาดูความงามสง่าของพระผู้เป็นเจ้า
และใคร่ครวญอยู่ในพระวิหารของพระองค์
5 เพราะพระองค์จะซ่อนข้าพเจ้าไว้
ในที่กำบังของพระองค์ในยามคับขัน
พระองค์จะช่วยข้าพเจ้าให้ปลอดภัยอยู่ในกระโจมของพระองค์[a]
และยกข้าพเจ้าไว้บนศิลาสูง
6 มาบัดนี้ศีรษะข้าพเจ้าจะถูกยก
ให้สูงเหนือศัตรูรอบข้าง
และข้าพเจ้าจะมอบเครื่องสักการะโดยส่งเสียงร้องแสดงความยินดีในกระโจมของพระองค์
ข้าพเจ้าจะร้องเพลงและบรรเลงเพลงแด่พระผู้เป็นเจ้า
34 จากนั้นซามูเอลก็ไปยังรามาห์ แต่ซาอูลขึ้นไปยังวังของท่านที่กิเบอาห์แห่งซาอูล 35 ซามูเอลไม่ได้ไปพบซาอูลอีกจนวันสิ้นชีวิต กระนั้นก็ตามซามูเอลยังร้องคร่ำครวญถึงซาอูล และพระผู้เป็นเจ้าเสียใจที่พระองค์แต่งตั้งซาอูลให้เป็นกษัตริย์ปกครองอิสราเอล
ดาวิดกษัตริย์ที่ได้รับการเจิม
16 พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับซามูเอลว่า “เจ้าจะเศร้าใจเพราะซาอูลไปนานแค่ไหน เราไม่รับเขาเป็นกษัตริย์ปกครองอิสราเอลแล้ว จงเติมน้ำมันให้เต็มเขาสัตว์ แล้วไปเถิด เราจะให้เจ้าไปหาเจสซีชาวเบธเลเฮม เพราะเราได้เตรียมกษัตริย์ผู้หนึ่งจากบรรดาบุตรของเขาไว้แล้วสำหรับเรา” 2 ซามูเอลพูดว่า “ข้าพเจ้าจะไปได้อย่างไร ถ้าซาอูลทราบเรื่อง ท่านก็จะฆ่าข้าพเจ้าตาย” และพระผู้เป็นเจ้ากล่าวว่า “จงเอาลูกโคตัวเมียตัวหนึ่งไปกับเจ้า และบอกว่า ‘เรามาเพื่อถวายเครื่องสักการะแด่พระผู้เป็นเจ้า’ 3 และจงเชิญเจสซีมาที่ถวายเครื่องสักการะ และเราจะบอกเจ้าว่าควรจะทำอะไร และเจ้าจะเจิมคนที่เราบอกให้เจ้ารู้” 4 ซามูเอลกระทำตามที่พระผู้เป็นเจ้าสั่ง ท่านจึงไปยังเบธเลเฮม บรรดาหัวหน้าชั้นผู้ใหญ่ของเมืองก็ออกมาพบกับท่าน ตัวสั่นเทาและพูดกับท่านว่า “ท่านมาอย่างสันติหรือ” 5 ท่านตอบว่า “มาอย่างสันติสิ เรามาเพื่อถวายเครื่องสักการะแด่พระผู้เป็นเจ้า พวกท่านจงชำระตัวให้บริสุทธิ์ และไปยังที่ถวายเครื่องสักการะกับเรา” ท่านก็ชำระตัวเจสซีและบรรดาบุตรให้บริสุทธิ์ และเชิญพวกเขาไปยังที่ถวายเครื่องสักการะ
6 เมื่อเขาเหล่านั้นมาถึง ซามูเอลก็มองเอลีอับพร้อมกับคิดว่า “คนที่พระผู้เป็นเจ้าจะเจิมอยู่เบื้องหน้าพระองค์แล้วอย่างแน่นอน” 7 แต่พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับซามูเอลว่า “อย่ามองแต่เพียงร่างที่ปรากฏให้เห็น หรือดูความสูงของเขา เพราะเราไม่รับเขา พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้เห็นเหมือนกับมนุษย์เห็น มนุษย์มองสิ่งที่ปรากฏให้เห็นแต่ภายนอก แต่พระผู้เป็นเจ้ามองที่จิตใจ” 8 และเจสซีเรียกอาบีนาดับมา และให้เขาเดินผ่านหน้าซามูเอล และซามูเอลพูดว่า “พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้เลือกคนนี้เช่นกัน” 9 เจสซีจึงเรียกชัมมาห์ให้มาเดินผ่านหน้า และซามูเอลพูดว่า “พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้เลือกคนนี้เช่นกัน” 10 เจสซีให้บุตรทั้งเจ็ดของเขามาเดินผ่านหน้าซามูเอล ซามูเอลพูดกับเจสซีว่า “พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้เลือกบุตรทั้งหมดนี้” 11 ครั้นแล้วซามูเอลพูดกับเจสซีว่า “บุตรของท่านทุกคนอยู่ที่นี่หรือ” เขาตอบว่า “ยังเหลือคนที่เล็กสุด แต่เขากำลังเฝ้าฝูงแกะอยู่” ซามูเอลพูดกับเจสซีว่า “ให้คนไปพาตัวเขามาที่นี่ เพราะพวกเราจะไม่นั่งลงจนกว่าเขาจะมาที่นี่” 12 เขาจึงให้คนไปตามตัวเข้ามา เขาเป็นคนผิวออกแดงๆ ดวงตาเป็นประกายและรูปงาม และพระผู้เป็นเจ้ากล่าวว่า “ลุกขึ้น และเจิมเขาเถิด คนนี้แหละ” 13 ครั้นแล้วซามูเอลจึงเจิมเขาด้วยน้ำมันจากเขาสัตว์ในท่ามกลางบรรดาพี่ๆ และดาวิดก็เปี่ยมด้วยอานุภาพแห่งพระวิญญาณพระผู้เป็นเจ้าตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นไป แล้วซามูเอลลุกขึ้นและกลับไปยังรามาห์
เลวีติดตามพระเยซูไป
27 หลังจากนั้นพระองค์ออกไปเห็นคนเก็บภาษีคนหนึ่งชื่อเลวีกำลังนั่งอยู่ที่ด่านเก็บภาษี จึงกล่าวกับเขาว่า “จงตามเรามาเถิด” 28 เลวีก็ลุกขึ้น สละทิ้งทุกสิ่งและติดตามพระองค์ไป
29 เลวีได้จัดงานใหญ่เลี้ยงฉลองพระเยซูที่บ้านของเขา แขกรับเชิญจำนวนมากซึ่งมีทั้งคนเก็บภาษีและคนอื่นๆ ที่ได้มารับประทานด้วย 30 แต่พวกฟาริสีและอาจารย์ฝ่ายกฎบัญญัติ ซึ่งอยู่ในพรรคฟาริสีบ่นพึมพำกับสาวกของพระองค์ว่า “ทำไมท่านจึงรับประทานและดื่มกับพวกคนเก็บภาษีและคนบาป” 31 พระเยซูตอบว่า “คนที่มีสุขภาพดีไม่จำเป็นต้องหาแพทย์ ยกเว้นแต่ผู้ป่วย 32 เราไม่ได้มาเพื่อเรียกคนที่คิดว่าตนมีความชอบธรรม แต่มาเพื่อเรียกคนบาปให้กลับใจ”
Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation