Revised Common Lectionary (Semicontinuous)
ז ซายิน
49 โปรดระลึกถึงคำกล่าวของพระองค์ที่มีต่อผู้รับใช้ของพระองค์
เพราะคำกล่าวเป็นความหวังของข้าพเจ้า
50 นี่คือความอุ่นใจของข้าพเจ้าในยามทุกข์ยาก
คือคำสัญญาของพระองค์ช่วยให้ข้าพเจ้าคงชีวิตอยู่
51 พวกที่ยโสเยาะเย้ยข้าพเจ้าอยู่เสมอ
แต่ข้าพเจ้าก็ไม่หันเหไปจากกฎบัญญัติของพระองค์
52 โอ พระผู้เป็นเจ้า เมื่อข้าพเจ้านึกถึงคำสั่งของพระองค์ที่มีแต่กาลก่อน
ข้าพเจ้าก็อุ่นใจ
53 ข้าพเจ้าโกรธเหลือเกินในยามที่เห็น
คนชั่วละทิ้งกฎบัญญัติของพระองค์
54 กฎเกณฑ์ของพระองค์ได้เป็นหัวข้อบทเพลงของข้าพเจ้า
ในที่ต่างแดนอันเป็นที่อาศัยของข้าพเจ้า
55 ในยามค่ำ ข้าพเจ้านึกถึงพระนามของพระองค์ โอ พระผู้เป็นเจ้า
และข้าพเจ้าได้ปฏิบัติตามกฎบัญญัติของพระองค์
56 ข้าพเจ้าได้ปฏิบัติเรื่อยมา
ข้าพเจ้าทำตามข้อบังคับของพระองค์
เยเรมีย์อธิษฐานขอความเข้าใจ
16 หลังจากที่ข้าพเจ้าได้มอบสัญญาซื้อขายแก่บารุคบุตรของเนริยาห์แล้ว ข้าพเจ้าก็อธิษฐานต่อพระผู้เป็นเจ้าว่า
17 ‘โอ พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ พระองค์เป็นผู้สร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก ด้วยอานุภาพอันยิ่งใหญ่และด้วยพลานุภาพของพระองค์ ไม่มีสิ่งใดยากเกินไปสำหรับพระองค์ 18 พระองค์แสดงความรักอันมั่นคงแก่มนุษย์นับพันๆ คน แต่พระองค์ลงโทษบุตรเพราะความผิดของบิดา โอ พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่และมีอานุภาพผู้มีพระนามว่า พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธา 19 พระองค์มีจุดประสงค์ที่วิเศษและกระทำการด้วยอานุภาพยิ่งนัก พระองค์เห็นทุกวิถีทางที่มนุษย์ทำ และกระทำตอบกลับให้แต่ละคน ตามวิถีทางของเขาและตามแต่ผลของการกระทำของเขา 20 พระองค์ได้แสดงปรากฏการณ์และสิ่งมหัศจรรย์ต่างๆ ในแผ่นดินอียิปต์ และแสดงต่ออิสราเอลและท่ามกลางมนุษย์ทั้งปวงจนถึงวันนี้ และพระองค์ได้ทำให้พระนามของพระองค์เป็นที่เลื่องลือ อย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ 21 พระองค์นำอิสราเอลชนชาติของพระองค์ออกจากแผ่นดินอียิปต์ด้วยปรากฏการณ์และสิ่งมหัศจรรย์ต่างๆ ด้วยอานุภาพและพลานุภาพ และความหวาดหวั่น 22 พระองค์มอบแผ่นดินนี้ให้แก่พวกเขา ซึ่งพระองค์ปฏิญาณแก่บรรพบุรุษของพวกเขาว่าจะมอบให้ แผ่นดินอันอุดมด้วยน้ำนมและน้ำผึ้ง 23 แล้วพวกเขาก็เข้าไปในแผ่นดินนั้นและยึดเป็นเจ้าของ แต่พวกเขาไม่เชื่อฟังหรือดำเนินชีวิตตามกฎบัญญัติของพระองค์ พวกเขาไม่ได้ทำสิ่งใดตามที่พระองค์บัญชาให้พวกเขาทำเลย ฉะนั้นพระองค์ได้ให้พวกเขาประสบความวิบัติเหล่านี้ 24 ดูเถิด พวกเขาก่อเชิงเทินประชิดด้านนอกกำแพงเพื่อจะยึดเมือง และก็ได้ขึ้นมาถึงเมืองแล้ว และเพราะการสู้รบ ความอดอยาก และโรคระบาด เมืองนี้จึงถูกมอบไว้ในมือของชาวเคลเดียผู้ที่กำลังโจมตีเมือง สิ่งที่พระองค์กล่าวก็ได้เกิดขึ้นแล้ว ดังที่พระองค์เห็น 25 โอ พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ พระองค์กลับกล่าวกับข้าพเจ้าว่า “จงใช้เงินซื้อที่นา พร้อมทั้งหาคนเป็นพยานด้วย” แม้ว่าเมืองนี้กำลังจะถูกยึดโดยชาวบาบิโลน’”
26 พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับเยเรมีย์ว่า 27 “ดูเถิด เราคือพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของมนุษย์ทั้งปวง มีสิ่งใดยากเกินไปสำหรับเราหรือ” 28 ฉะนั้น พระผู้เป็นเจ้ากล่าวว่า “ดูเถิด เรากำลังมอบเมืองนี้ไว้ในมือของชาวเคลเดียและเนบูคัดเนสซาร์กษัตริย์แห่งบาบิโลน และเขาจะยึดเมืองนี้ไว้[a] 29 ชาวเคลเดียที่กำลังต่อสู้กับเมืองนี้จะมาและเผาเมืองนี้จนมอดไหม้ รวมทั้งบ้านที่มีหลังคาเป็นที่เผาเครื่องหอมแก่เทพเจ้าบาอัลและรินเครื่องดื่มบูชาให้แก่บรรดาเทพเจ้า ซึ่งเป็นการยั่วโทสะเรา 30 เพราะลูกหลานของอิสราเอลและของยูดาห์ไม่ได้กระทำสิ่งใดนอกจากความชั่วในสายตาของเราตั้งแต่ต้น ลูกหลานของอิสราเอลไม่ได้กระทำสิ่งใดนอกจากการยั่วโทสะเราด้วยความประพฤติของพวกเขาเอง พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น 31 เมืองนี้ได้ยั่วโทสะเราและทำให้เรากริ้วเป็นที่สุด ตั้งแต่วันที่สร้างเมืองขึ้นมาจนถึงวันนี้ เราจึงจะกำจัดให้พ้นไปจากหน้าเรา 32 เพราะความชั่วของลูกหลานของอิสราเอลและของยูดาห์ที่พวกเขากระทำจนยั่วโทสะเรา อีกทั้งบรรดากษัตริย์และผู้นำของพวกเขา บรรดาปุโรหิตและผู้เผยคำกล่าวของพวกเขา ประชาชนของยูดาห์และเยรูซาเล็ม 33 พวกเขาหันหลัง แทนที่จะหันหน้ามาหาเรา และถึงแม้ว่าเราได้สอนพวกเขาเสมอมา แต่เขาก็ยังไม่ฟังหรือเรียนรู้อะไรทั้งสิ้น 34 พวกเขาได้ตั้งสิ่งที่น่าชังของพวกเขาไว้ในตำหนักซึ่งได้รับเรียกว่าเป็นของเรา และทำให้ที่นั้นเป็นมลทิน 35 พวกเขาได้สร้างแท่นบูชาที่สถานบูชาบนภูเขาสูงของเทพเจ้าบาอัล ซึ่งอยู่ในหุบเขาแห่งบุตรของฮินโนม เพื่อถวายบุตรชายและบุตรหญิงแก่เทพเจ้าโมเลค ซึ่งเราไม่ได้บัญชาให้ทำ[b] เราไม่เคยแม้แต่จะคิดว่า พวกเขาจะกระทำสิ่งที่น่ารังเกียจ อันเป็นเหตุให้ยูดาห์ทำบาปเช่นนี้
ถึงคริสตจักรที่เมืองเลาดีเซีย
14 และจงเขียนถึงทูตสวรรค์แห่งคริสตจักรที่เมืองเลาดีเซียว่า ผู้เป็นองค์อาเมนเป็นพยานที่รักษาคำมั่นสัญญาและมีความสัตย์จริง เป็นแหล่งกำเนิดของการสร้างสรรพสิ่งของพระเจ้า กล่าวว่า
15 ‘เรารู้เรื่องการกระทำต่างๆ ของเจ้าว่า เจ้าไม่เย็นและไม่ร้อน เราปรารถนาให้เจ้าจะเย็นหรือร้อนอย่างใดอย่างหนึ่ง 16 ดังนั้น เมื่อเจ้าเป็นครึ่งๆ กลางๆ คือไม่ร้อนและไม่เย็น[a] เราจะคายเจ้าออกจากปากของเรา 17 เพราะเจ้าพูดว่า “เรามั่งมีและบริบูรณ์ด้วยทรัพย์สมบัติ และไม่ขัดสนในสิ่งใดเลย” และเจ้าไม่รู้ว่าเจ้ามีความทุกข์ทรมาน น่าสมเพช ขัดสน ตาบอด และมีร่างกายเปลือยเปล่า 18 เราขอแนะให้เจ้าซื้อทองคำที่หลอมบริสุทธิ์แล้วจากเรา เจ้าจะได้มั่งมี และซื้อเสื้อผ้าสีขาว เจ้าจะได้นุ่งห่มเพื่อปกปิดร่างกายที่เปลือยเปล่าอันน่าละอาย และซื้อยาหยอดตาของเจ้าเพื่อเจ้าจะได้มองเห็น 19 เราตักเตือนและฝึกฝนคนที่เรารักให้มีวินัย ฉะนั้นจงเอาจริงเอาจังและกลับใจเสีย 20 ดูเถิด เรายืนเคาะประตูอยู่ ถ้าผู้ใดได้ยินเสียงของเราและเปิดประตู เราก็จะเข้าไปหาเขา และจะรับประทานอาหารร่วมกับเขา และเขาจะรับประทานอาหารร่วมกับเรา 21 ผู้ที่มีชัยชนะ เราก็จะให้เขานั่งกับเราบนบัลลังก์ของเรา เช่นเดียวกับเราที่มีชัยชนะ และได้นั่งกับพระบิดาของเราบนบัลลังก์ของพระองค์ 22 ผู้ใดมีหูก็จงฟังสิ่งที่พระวิญญาณกล่าวแก่คริสตจักรทั้งหลาย’”
Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation