Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

Revised Common Lectionary (Semicontinuous)

Daily Bible readings that follow the church liturgical year, with sequential stories told across multiple weeks.
Duration: 1245 days
New Thai Version (NTV-BIBLE)
Version
สดุดี 128

รางวัลแห่งการเชื่อฟังพระผู้เป็นเจ้า

บทเพลงบรรเลงในขบวนแห่ขณะเคลื่อนขึ้นสู่เนินเขา

ผู้ใดเกรงกลัวพระผู้เป็นเจ้า
    และดำเนินในวิถีทางของพระองค์
    ผู้นั้นก็เป็นสุข
ท่านจะดื่มกินผลที่ได้จากน้ำพักน้ำแรงของท่าน
    ท่านจะเป็นสุขและดำเนินไปด้วยดี
ภรรยาของท่านจะเป็นดั่งเถาองุ่น
    ผลดกภายในเรือนของท่าน
พวกลูกๆ ของท่านจะเป็นดั่งหน่อมะกอก
    อยู่รายรอบโต๊ะอาหารของท่าน
ดูเถิด คนที่เกรงกลัวพระผู้เป็นเจ้า
    จะได้รับพระพรเช่นนี้

ขอให้พระผู้เป็นเจ้าอวยพรท่านจากศิโยน
    และท่านจะได้เห็นความเจริญของเยรูซาเล็มตลอดชั่วชีวิตของท่าน
ขอให้ท่านได้เห็นลูกหลานของท่าน
    ขอให้อิสราเอลมีสันติสุขเถิด

ปัญญาจารย์ 5

เกรงกลัวพระเจ้า

จงก้าวเท้าของท่านอย่างระมัดระวังเมื่อท่านไปยังพระตำหนักของพระเจ้า และเข้าไปใกล้เพื่อเงี่ยหูฟังดีกว่าการมอบเครื่องสักการะเหมือนบรรดาคนโง่เขลา เพราะพวกเขาไม่ทราบว่าตนกระทำสิ่งชั่วร้ายอยู่ อย่าด่วนพูด และอย่าใจร้อนให้คำมั่น ณ เบื้องหน้าพระเจ้า เพราะว่าพระเจ้าอยู่บนสวรรค์ และท่านอยู่บนโลก ฉะนั้นต้องไม่พูดมากเกินไป ยามท่านมีเรื่องยุ่งเกี่ยวมาก ท่านก็จะฝัน ยามท่านพูดมาก ท่านก็แสดงความโง่เขลา

เมื่อท่านให้คำสัญญาต่อพระเจ้า ก็อย่าชักช้าที่จะทำตามนั้น เพราะว่าพระองค์ไม่พอใจคนโง่เขลา จงปฏิบัติตามที่ท่านสัญญาไว้ ท่านไม่ตั้งคำสัญญาจะดีกว่าสัญญาแล้วไม่กระทำตาม อย่าให้คำพูดของท่านเป็นเหตุให้ท่านกระทำบาป และท่านจะได้ไม่ต้องพูดกับทูตสวรรค์ทีหลังว่า ท่านพลาดพลั้งไปแล้ว ทำไมท่านจึงทำให้พระเจ้าโกรธเพราะคำพูดของท่าน และทำลายทุกสิ่งที่ท่านลงแรงทำ เพราะการที่ท่านฝันมากและพูดพร่ำหลายคำนับว่าเป็นสิ่งไร้ค่า แต่พระเจ้าเป็นผู้ที่ท่านต้องเกรงกลัว

ความไร้ค่าของความมั่งมีและเกียรติ

ถ้าท่านเห็นว่าที่ใดมีคนยากจนถูกกดขี่ข่มเหง ความยุติธรรมและสิทธิของเขาถูกยึดไป ท่านก็อย่าแปลกใจในเรื่องดังกล่าว เพราะเจ้าหน้าที่ชั้นสูงถูกเฝ้ามองโดยผู้สูงกว่า และยังมีบรรดาผู้สูงกว่าที่ดูแลอยู่เหนือพวกเขาอีกด้วย สิ่งที่ผลิตได้จากแผ่นดินเป็นของทุกคน จุดมุ่งหมายของกษัตริย์คือคุ้มครองไร่นา

10 คนที่รักเงินจะไม่มีวันพอ คนที่รักความมั่งมีจะไม่เคยพอเช่นกัน นี่ก็ไร้ค่า 11 เมื่อสมบัติทวีขึ้น คนที่จะร่วมใช้สอยด้วยก็ทวีขึ้นตามกัน เจ้าของสมบัติได้แต่มองดูความมั่งมีที่เพิ่มขึ้นเท่านั้น 12 คนลงแรงทำงานนอนหลับสนิท ไม่ว่าเขาจะมีกินมากหรือน้อยก็ตาม ส่วนคนร่ำรวยมีเหลือกินเหลือใช้กลับนอนไม่หลับเพราะความกังวลของเขา

13 ข้าพเจ้าเห็นสิ่งไม่ยุติธรรมยิ่งนักในโลกนี้ คือเจ้าของสมบัติสะสมความมั่งมีของตนไว้ใช้ในยามลำบาก 14 และความมั่งมีนั้นสูญหายไปเพราะธุรกิจล้มเหลว และเขามีบุตรชายคนหนึ่งที่จะไม่ได้รับสิ่งใดตกทอดถึงมือได้ 15 เขาออกจากครรภ์มารดาอย่างไร เขาก็จะไปอย่างนั้นคือมาแบบตัวเปล่า และจะเอาผลจากการที่เขาลงแรงตรากตรำติดมือไปด้วยก็ไม่ได้ 16 นี่เป็นสิ่งไม่ยุติธรรมยิ่งนักคือ เขามาอย่างไร เขาก็จะไปอย่างนั้น และเขาจะได้รับประโยชน์อะไรได้เล่า ที่ลงแรงตรากตรำแต่กลับคว้าได้เพียงลม 17 โดยใช้ชีวิตในความมืดและความเศร้า ความโกรธ เจ็บไข้และขมขื่น

18 ดูเถิด สิ่งที่ข้าพเจ้าเห็นว่าดีและประเสริฐก็คือ ดื่ม กิน และมีความสุขกับงานทั้งสิ้นที่ลงแรงตรากตรำในโลก เพียงชั่วไม่กี่วันในชีวิตที่พระเจ้าได้มอบให้ นี่แหละคือส่วนที่เป็นของเขา 19 ทุกคนที่พระเจ้ามอบความมั่งมีและสมบัติให้ก็เช่นกัน พระองค์ได้โปรดให้เขาใช้สิ่งเหล่านั้นอย่างมีความสุขได้ และรับสิ่งที่เป็นส่วนของเขา และมีความสุขกับงาน นั่นก็นับว่าเป็นของประทานจากพระเจ้า 20 เพราะเขาจะไม่มีเวลาคิดถึงเรื่องวันเวลาของชีวิตมากนัก เนื่องจากพระเจ้าโปรดให้เขาเพลิดเพลินอยู่ในความสุขใจ

ยอห์น 8:21-38

21 ฉะนั้น พระเยซูกล่าวกับเขาเหล่านั้นอีกว่า “เมื่อเราจากไป พวกท่านจะแสวงหาเรา ท่านจะตายด้วยบาปที่ติดตัวท่านอยู่ แล้วที่ซึ่งเราไป ท่านก็ไม่อาจไปถึงได้” 22 ชาวยิวจึงพูดว่า “เขาจะฆ่าตัวตายหรือ ในเมื่อเขาพูดว่า ‘ที่ซึ่งเราไป ท่านไม่อาจไปถึงได้’” 23 พระองค์กล่าวกับเขาเหล่านั้นว่า “พวกท่านมาจากเบื้องล่าง เรามาจากเบื้องบน ท่านเป็นคนของโลกนี้ แต่เราไม่ได้เป็นคนของโลกนี้ 24 ฉะนั้นเราจึงพูดกับท่านว่า ท่านจะตายด้วยบาปทั้งหลายที่ติดตัวท่านอยู่ ถ้าท่านไม่เชื่อว่าเราคือผู้ที่เราอ้างว่าเราเป็น[a] ท่านก็จะตายเพราะบาปทั้งหลายของท่านเอง” 25 เขาเหล่านั้นจึงพูดกับพระองค์ว่า “ท่านเป็นใคร” พระเยซูกล่าวว่า “เราเป็นตามที่เราบอกท่านไว้ตั้งแต่แรก 26 เรามีหลายสิ่งที่จะพูดและกล่าวโทษท่าน แต่ผู้ที่ส่งเรามาเป็นผู้ที่วางใจได้ สิ่งที่เราได้ยินจากพระองค์ เราก็กล่าวแก่โลก” 27 เขาทั้งปวงไม่ทราบว่าพระองค์ได้พูดกับเขาถึงเรื่องพระบิดา 28 ดังนั้นพระเยซูกล่าวว่า “เมื่อพวกท่านยกบุตรมนุษย์ขึ้น ท่านจะได้รู้ว่าเราคือผู้ที่เราอ้างว่าเราเป็น และเราไม่ทำสิ่งใดตามลำพังของเราเอง แต่เราพูดถึงสิ่งเหล่านี้ตามที่พระบิดาสอนเราไว้ 29 พระองค์ผู้ส่งเรามาดำรงอยู่กับเรา และไม่เคยทอดทิ้งเราไว้ตามลำพัง เพราะว่าเรากระทำสิ่งซึ่งเป็นที่พอใจพระองค์เสมอ” 30 ขณะที่พระองค์กล่าวถึงสิ่งเหล่านี้ ก็มีคนจำนวนมากที่เชื่อในพระองค์

บุตรของอับราฮัม

31 พระเยซูกล่าวกับชาวยิวที่ได้เชื่อในพระองค์ว่า “ถ้าท่านดำรงอยู่ในคำกล่าวของเรา ท่านก็เป็นสาวกของเราอย่างแท้จริง 32 ท่านจะรู้ความจริง และความจริงจะทำให้ท่านเป็นอิสระ” 33 เขาเหล่านั้นตอบพระองค์ว่า “พวกเราสืบตระกูลมาจากอับราฮัม[b] และยังไม่เคยเป็นทาสของใครเลย ท่านพูดได้อย่างไรว่า ‘ท่านจะเป็นอิสระ’”

34 พระเยซูตอบว่า “เราขอบอกความจริงกับท่านว่า ทุกคนที่กระทำบาปเป็นทาสของบาป 35 และทาสจะไม่ได้อยู่ในบ้านตลอดไป บุตรต่างหากที่สามารถอยู่ได้ตลอดกาล 36 ฉะนั้นถ้าพระบุตรจะทำให้ท่านเป็นอิสระ ท่านก็จะเป็นอิสระอย่างแท้จริง 37 เรารู้ว่าพวกท่านสืบตระกูลมาจากอับราฮัม แต่ท่านก็ยังพยายามจะฆ่าเรา เพราะไม่ยอมรับคำกล่าวของเรา 38 เราพูดถึงสิ่งที่เราได้เห็นจากพระบิดาของเรา ฉะนั้นท่านกระทำสิ่งที่ท่านได้ยินจากบิดาของท่านด้วย”

New Thai Version (NTV-BIBLE)

Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation