Revised Common Lectionary (Semicontinuous)
ปีแห่งความโปรดปรานของพระผู้เป็นเจ้า
61 “พระวิญญาณของพระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่สถิตอยู่เหนือเรา
เพราะว่าพระผู้เป็นเจ้าเจิมเรา
เพื่อนำข่าวอันประเสริฐมายังผู้ยากไร้
พระองค์ส่งเรามาเพื่อสมานหัวใจที่แตกร้าว
เพื่อประกาศกับนักโทษเพื่อให้ได้รับการปลดปล่อย
และเปิดคุกให้แก่บรรดาผู้ที่ถูกจองจำ
2 เพื่อประกาศปีที่โปรดปรานของพระผู้เป็นเจ้า[a]
และวันแห่งการแก้แค้นของพระเจ้าของพวกเรา
เพื่อให้กำลังใจทุกคนที่เศร้าโศก
3 เพื่อจัดเตรียมให้กับบรรดาผู้ที่เศร้าโศกในศิโยน
เพื่อมอบมงกุฎที่สวยงามแทนขี้เถ้าให้แก่พวกเขา
และให้น้ำมันแห่งความยินดีแทนความเศร้าโศก
เครื่องประดับแห่งการสรรเสริญแทนจิตวิญญาณที่สิ้นหวัง
เพื่อพวกเขาจะได้รับเรียกว่า ต้นโอ๊กแห่งความชอบธรรม
ที่พระผู้เป็นเจ้าปลูก
เพื่อพระบารมีของพระองค์จะเป็นที่ประจักษ์”
4 พวกเขาจะสร้างเมืองโบราณที่พังพินาศขึ้นใหม่
พวกเขาจะบูรณะสถานที่ซึ่งพังยับเยิน
พวกเขาจะซ่อมเมืองที่ปรักหักพัง
ซึ่งรกร้างมาหลายชั่วอายุคน
8 “ด้วยว่า เราผู้เป็นพระผู้เป็นเจ้ารักความยุติธรรม
เราเกลียดชังการปล้นและการกระทำความชั่ว
เราจะตอบสนองพวกเขาด้วยความสัตย์จริง
และเราจะทำพันธสัญญาอันเป็นนิรันดร์กับพวกเขา
9 ทายาทของพวกเขาจะเป็นที่รู้จักในบรรดาประชาชาติ
และบรรดาผู้สืบเชื้อสายของพวกเขาในท่ามกลางบรรดาชนชาติ
ทุกคนที่เห็นพวกเขาจะแสดงความรู้จักว่า
พวกเขาคือทายาทที่พระผู้เป็นเจ้าได้อวยพร”
10 ข้าพเจ้าจะชื่นชมยินดีในพระผู้เป็นเจ้า
จิตวิญญาณข้าพเจ้ายินดีในพระเจ้าของข้าพเจ้า
เพราะพระองค์สวมเสื้อแห่งความรอดพ้นให้แก่ข้าพเจ้า
พระองค์ห่มข้าพเจ้าด้วยเสื้อคลุมแห่งความชอบธรรม
อย่างกับเจ้าบ่าวสวมเครื่องประดับศีรษะอย่างงดงามดั่งปุโรหิต
และอย่างกับเจ้าสาวที่ตกแต่งด้วยเพชรพลอย
11 ด้วยว่า แผ่นดินโลกทำให้พืชงอก
และสวนทำให้เมล็ดถูกหว่านและงอกขึ้นมาเช่นไร
พระผู้เป็นเจ้า องค์พระเจ้าก็จะโปรดให้ความชอบธรรม
และการสรรเสริญสะพรั่งขึ้น เพื่อประชาชาติทั้งปวงเช่นนั้น
พระเจ้าทำให้ความสมบูรณ์คืนสู่สภาพเดิมได้
บทเพลงบรรเลงในขบวนแห่ขณะเคลื่อนขึ้นสู่เนินเขา
1 เมื่อพระผู้เป็นเจ้าทำให้ความอุดมสมบูรณ์ของศิโยนคืนสู่สภาพเดิม
ดูเหมือนว่าเป็นเพียงความฝันสำหรับพวกเรา
2 แต่แล้วปากของเรากลับได้หัวเราะ
ขณะที่ลิ้นของเราตะโกนร้องด้วยความยินดี
เป็นที่พูดกันในบรรดาประชาชาติว่า
“พระผู้เป็นเจ้าได้กระทำการอันใหญ่ยิ่งให้แก่พวกเขา”
3 พระผู้เป็นเจ้าได้กระทำการอันใหญ่ยิ่งให้แก่พวกเรา
เรายินดียิ่งนัก
4 โอ พระผู้เป็นเจ้า โปรดทำให้ความอุดมสมบูรณ์กลับคืนสู่พวกเรา
ดั่งน้ำไหลลงสู่ท้องน้ำที่แห้งผากในเนเกบด้วยเถิด
5 ขอให้บรรดาผู้ที่หว่านด้วยน้ำตา
ได้เก็บเกี่ยวด้วยเสียงร้องแห่งความยินดีเถิด
6 ผู้หอบเมล็ดพืชเดินออกไปหว่าน
พร้อมการร่ำไห้
จะกลับมาบ้านด้วยเสียงโห่ร้องแห่งความยินดี
พร้อมกับนำต้นข้าวที่เก็บเกี่ยวได้มาหลายฟ่อน
มารีย์สรรเสริญพระผู้เป็นเจ้า
46 มารีย์พูดว่า
“จิตวิญญาณของฉันเชิดชูพระผู้เป็นเจ้า
47 วิญญาณของฉันชื่นชมยินดีในพระเจ้าผู้ช่วยให้รอดพ้นของฉัน
48 เพราะพระองค์สนใจผู้รับใช้ซึ่งเจียมตัว
ดูเถิด ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ทุกชั่วอายุคนจะถือว่าฉันได้รับพระพร
49 ด้วยว่าองค์ผู้มีอานุภาพกระทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่แก่ฉัน
และพระนามของพระองค์ก็บริสุทธิ์
50 ความเมตตาของพระองค์ดำรงอยู่ทุกกาล
หากว่ามีผู้ใดเกรงกลัวในพระองค์
51 พระองค์ก็แสดงอานุภาพด้วยแขนของพระองค์
สำหรับผู้ที่มีความเย่อหยิ่งในหัวใจ พระองค์ทำให้แยกกระจัดกระจายไป
52 พระองค์นำให้ผู้สูงส่งลงจากบัลลังก์
และยกผู้ถ่อมตัวขึ้นมา
53 ผู้ที่หิวกระหาย พระองค์ก็ให้จนอิ่มหนำด้วยสิ่งดี
และผู้มั่งมี พระองค์ก็จะส่งกลับไปมือเปล่า
54 พระองค์ได้ช่วยผู้รับใช้ของพระองค์คือชาวอิสราเอล
พระองค์ได้ระลึกถึงความเมตตาของพระองค์
55 ที่มีต่ออับราฮัม[a]และผู้สืบเชื้อสายตลอดไป
ดังที่พระองค์กล่าวกับบรรพบุรุษของเรา”
16 จงมีความยินดีอยู่เสมอ 17 จงอธิษฐานอย่างไม่หยุดยั้ง 18 สิ่งที่พระเจ้าประสงค์ในชีวิตของท่านในพระเยซูคริสต์คือ การกล่าวขอบคุณพระองค์ในทุกกรณี 19 อย่ารั้งพระวิญญาณบริสุทธิ์ไว้ 20 อย่าดูหมิ่นการเผยคำกล่าวของพระเจ้า 21 จงพิสูจน์ทุกสิ่ง ยึดถือสิ่งที่ดีไว้ให้ได้ 22 จงหลีกเลี่ยงจากสิ่งที่ชั่วทุกประการ
23 ขอให้พระเจ้าแห่งสันติสุขชำระท่านให้บริสุทธิ์โดยบริบูรณ์ และขอให้พระองค์รักษาทุกส่วนของชีวิตคือ วิญญาณ จิตใจ และร่างกายของท่านไว้ให้ปราศจากการติเตียนในเวลาที่พระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรามา 24 พระองค์ผู้ที่เรียกท่านเป็นผู้รักษาคำมั่นสัญญา และพระองค์จะช่วยกระทำสิ่งนั้นให้แก่ท่าน
6 มีชายคนหนึ่งชื่อยอห์นผู้ซึ่งพระเจ้าใช้มา 7 ท่านได้มาเพื่อเป็นพยาน และเป็นผู้ยืนยันถึงความสว่างนั้น เพื่อคนทั้งปวงจะได้มีความเชื่อ[a]โดยผ่านท่าน 8 ท่านเองไม่ใช่ความสว่าง แต่มาเพื่อเป็นผู้ยืนยันถึงความสว่างเท่านั้น
คำยืนยันของยอห์น
19 นี่เป็นคำยืนยันของยอห์น เมื่อชาวยิวจากเมืองเยรูซาเล็มส่งพวกปุโรหิต[a]และพวกเลวี[b]ไปถามว่า ท่านคือใคร 20 ท่านยอมรับ และตอบตามความจริงว่า “ข้าพเจ้าไม่ใช่พระคริสต์” 21 พวกเขาจึงถามต่อไปว่า “แล้วท่านคือใครเล่า เป็นเอลียาห์หรือ” ท่านตอบว่า “ไม่ใช่” “ท่านเป็นผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้าผู้นั้นหรือ” ท่านตอบว่า “ไม่ใช่” 22 ในที่สุดเขาเหล่านั้นพูดว่า “ท่านเป็นใคร โปรดให้คำตอบแก่เราเพื่อกลับไปบอกบรรดาผู้ที่ส่งเรามาเถิด ท่านอ้างว่าท่านเป็นใคร” 23 ยอห์นตอบตามคำกล่าวของอิสยาห์ผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้าว่า “ข้าพเจ้าเป็นเสียงของผู้ที่ร้องในถิ่นทุรกันดารว่า ‘จงทำทางให้ตรงเพื่อพระผู้เป็นเจ้าเถิด’”[c]
24 ส่วนคนที่พวกฟาริสี[d]ส่งมา 25 ได้ถามยอห์นว่า “ถ้าท่านไม่ใช่พระคริสต์ หรือเอลียาห์ หรือผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้าผู้นั้น แล้วทำไมท่านจึงให้บัพติศมา[e]เล่า” 26 ยอห์นตอบว่า “ข้าพเจ้าให้บัพติศมาด้วยน้ำ แต่ผู้ที่ยืนอยู่ท่ามกลางพวกท่าน ท่านกลับไม่รู้จัก 27 พระองค์เป็นผู้ที่มาภายหลังข้าพเจ้า แม้แต่เชือกผูกรองเท้าของพระองค์ ข้าพเจ้าก็มิบังควรที่จะแก้ออก” 28 เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่หมู่บ้านเบธานีทางด้านตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดน อันเป็นที่ซึ่งยอห์นกำลังให้บัพติศมาอยู่
Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation