Revised Common Lectionary (Semicontinuous)
ความสุขที่คนดีพึงได้รับ
1 สรรเสริญพระผู้เป็นเจ้า
คนที่เกรงกลัวพระผู้เป็นเจ้าจะเป็นสุข
เขายินดีในพระบัญญัติของพระองค์เป็นอย่างยิ่ง
2 บรรดาผู้สืบเชื้อสายของเขาจะมีอานุภาพบนแผ่นดิน
ผู้สืบวงศ์ตระกูลของผู้มีความชอบธรรมจะได้รับพระพร
3 ความมั่งมีและความเป็นปึกแผ่นอยู่ในเรือนของเขา
และความชอบธรรมของเขาคงอยู่เป็นนิตย์
4 ย่อมมีแสงสว่างสาดส่องผ่านไปในที่มืดสำหรับผู้มีความเที่ยงธรรม
พระองค์กอปรด้วยพระคุณ ความสงสาร และความชอบธรรม
5 พระพรจะเป็นของคนใจกว้าง และคนที่รู้จักให้คนอื่นหยิบยืม
เขาดำเนินกิจการของเขาด้วยความเป็นธรรม
6 เขาจะไม่มีวันสะทกสะท้านหวั่นไหว
ผู้มีความชอบธรรมจะเป็นที่ระลึกถึงตลอดกาล
7 เขาไม่ตื่นตระหนกต่อข่าวร้าย
ด้วยมีใจหนักแน่น วางใจในพระผู้เป็นเจ้า
8 ใจของเขามั่นคง เขาจึงไม่หวาดกลัว
เขาแน่ใจว่าจะได้เห็นศัตรูของเขาพ่ายแพ้
9 เขาเอื้อเฟื้อแก่ผู้ยากไร้
ความชอบธรรมของเขาคงอยู่เป็นนิตย์[a]
พละกำลังของเขาย่อมได้รับเกียรติยกย่องเชิดชู
10 คนชั่วจะโกรธเมื่อได้เห็น
เขาขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน แล้วก็ต้องแพ้พ่ายถอยกลับไป
ความหวังของคนชั่วจะสูญเปล่า
เยรูซาเล็มถูกยึด
29 “วิบัติจงเกิดแก่อารีเอล[a] แก่อารีเอล
คือเมืองที่ดาวิดตั้งค่ายอยู่
จงให้มีงานเทศกาลของพวกเจ้า
ปีแล้วปีเล่า
2 เราจะทำให้อารีเอลเป็นทุกข์
จะมีการเศร้าโศกและคร่ำครวญ
และเมืองนี้จะเป็นเหมือนอารีเอลสำหรับเรา
3 เราจะตั้งค่ายต่อสู้กับเจ้าโดยรอบข้าง
และเราจะล้อมเจ้าด้วยหอคอย
และเราจะตั้งเชิงเทินล้อมเจ้า
4 และเจ้าจะถูกทำให้ทรุดต่ำลง เจ้าจะพูดจากพื้นดิน
คำพูดของเจ้าจะแผ่วเบาจากฝุ่น
เสียงของเจ้าจะมาจากพื้นดินเหมือนเสียงวิญญาณจากแดนคนตาย
และคำพูดของเจ้าจะกระซิบจากฝุ่น”
5 แต่ศัตรูต่างชาติของท่านจำนวนมากจะเป็นเหมือนผงคลี
และคนโหดร้ายจำนวนมากจะเป็นเหมือนแกลบที่ถูกลมพัด
และในทันทีทันใดนั้น
6 พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธาจะมาเยือน
ด้วยเสียงฟ้าร้อง แผ่นดินไหว และเสียงดังสนั่น
พายุหมุน และพายุอันแรงกล้า และเพลิงไฟที่เผาผลาญ
7 และบรรดาประชาชาติทั้งปวงที่ต่อสู้กับอารีเอล
ที่โจมตีอารีเอลและหลักยึดอันมั่นคง และทำให้เมืองนี้เป็นทุกข์
ก็จะเป็นเหมือนความฝัน
เป็นภาพนิมิตในเวลากลางคืน
8 เมื่อคนหิวฝันว่าเขากำลังรับประทานอยู่
แต่เมื่อตื่นขึ้น เขาก็ไม่หายหิว
เมื่อคนกระหายน้ำฝันว่า เขากำลังดื่มน้ำ
แต่เมื่อตื่นขึ้น เขาก็อ่อนกำลัง และยังกระหายน้ำอยู่
และจะเป็นเช่นนั้นกับประชาชาติทั้งปวง
ที่ต่อสู้กับภูเขาศิโยน
9 จงประหลาดใจและอัศจรรย์ใจ
ทำตัวเองให้มืดบอด และมองไม่เห็น
ท่านจะเมา แต่ไม่ใช่ด้วยเหล้าองุ่น
ท่านจะเดินโซซัดโซเซ แต่ไม่ใช่ด้วยฤทธิ์สุรา
10 เพราะพระผู้เป็นเจ้าได้หลั่งวิญญาณ
ที่นอนหลับสนิทให้แก่ท่าน
และทำให้พวกท่านตามืดบอด
(ผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้าเป็นเสมือนตา)
และปกคลุมศีรษะของพวกท่าน
(ผู้รู้เป็นเสมือนศีรษะ)
11 และภาพนิมิตดังกล่าวนี้เป็นเสมือนคำพูดในหนังสือม้วนที่ถูกผนึก เมื่อมีคนมอบหนังสือนี้ให้แก่คนที่อ่านออก และบอกว่า “อ่านสิ” เขาจะตอบว่า “ข้าพเจ้าอ่านไม่ได้ เพราะมันถูกผนึกไว้” 12 เมื่อมีคนมอบหนังสือม้วนนี้ให้แก่คนที่อ่านไม่ออก และบอกว่า “อ่านสิ” เขาจะตอบว่า “ข้าพเจ้าอ่านไม่ออก”
สติปัญญาจากเบื้องบน
13 ใครในพวกท่านบ้างที่มีสติปัญญาและเฉลียวฉลาด จงให้ผู้นั้นแสดงความประพฤติที่ดีงาม คือการกระทำซึ่งแสดงออกถึงการถ่อมตัวอันเนื่องมาจากสติปัญญา 14 แต่หากใจของท่านเต็มด้วยความอิจฉาและความทะเยอทะยานที่เห็นแก่ตัว ก็อย่าโอ้อวดตัว และคิดผิดจากความเป็นจริงเลย 15 สติปัญญาเช่นนี้ไม่ได้ลงมาจากเบื้องบน แต่เป็นปัญญาอย่างโลกซึ่งไม่ใช่ฝ่ายวิญญาณ คือเป็นอย่างมาร 16 ที่ใดมีความอิจฉาและความทะเยอทะยานที่เห็นแก่ตัว ที่นั่นมีความไม่เป็นระเบียบและมีความชั่วทุกชนิด 17 แต่สติปัญญาที่มาจากเบื้องบนบริสุทธิ์เป็นประการแรก แล้วจึงเป็นความสงบสุข อ่อนโยน ยอมเชื่อฟัง เปี่ยมด้วยความเมตตาและการกระทำที่ดี ไม่อ่อนไหวง่าย ไม่หน้าไหว้หลังหลอก 18 ผู้ที่สร้างสันติก็หว่านเมล็ดที่มีสันติ และจะเก็บเกี่ยวผลคือความชอบธรรม
Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation