Revised Common Lectionary (Semicontinuous)
ไว้ใจพระเจ้า ไม่ใช่มนุษย์
1 สรรเสริญพระผู้เป็นเจ้า
โอ จิตวิญญาณของข้าพเจ้าเอ๋ย สรรเสริญพระผู้เป็นเจ้าเถิด
2 ข้าพเจ้าจะสรรเสริญพระผู้เป็นเจ้าไปชั่วชีวิต
ข้าพเจ้าจะร้องเพลงสรรเสริญถวายแด่พระเจ้าของข้าพเจ้าตราบที่มีชีวิตอยู่
3 อย่าวางใจในบรรดาเจ้าขุนมูลนาย
หรือมนุษย์อื่นซึ่งไม่สามารถช่วยให้รอดพ้นได้
4 เมื่อเขาหมดลมหายใจ เขาก็กลับคืนสู่ดิน
แผนการต่างๆ ที่วางไว้ก็เป็นอันจบสิ้นในวันนั้นเอง
5 คนที่พระเจ้าของยาโคบช่วยเหลือไว้
คนที่มีความหวังในพระผู้เป็นเจ้าซึ่งเป็นพระเจ้าของเขา ก็เป็นสุข
6 พระองค์ได้สร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก
ทะเลและทุกสิ่งที่มีอยู่ในที่เหล่านั้น[a]
พระองค์รักษาสัญญาเสมอ
7 พระองค์คุ้มครองผู้ถูกบีบบังคับ
และให้อาหารแก่ผู้หิวโหย
พระผู้เป็นเจ้าปล่อยพวกถูกคุมขังให้เป็นอิสระ
8 พระผู้เป็นเจ้าทำให้คนตาบอดมองเห็น
พระผู้เป็นเจ้าพยุงพวกเขาขึ้นมาจากความสิ้นหวัง
พระผู้เป็นเจ้ารักผู้มีความชอบธรรม
9 พระผู้เป็นเจ้าคุ้มครองคนต่างด้าว
พระองค์บรรเทาทุกข์ของหญิงม่ายและเด็กกำพร้า
แต่พระองค์ทำลายหนทางของคนชั่วร้าย
10 พระผู้เป็นเจ้าครองบัลลังก์อยู่ตลอดกาล
โอ ศิโยนเอ๋ย พระเจ้าของเจ้าครองอยู่ทุกชั่วอายุคน
จงสรรเสริญพระผู้เป็นเจ้า
การเตรียมปุโรหิตให้บริสุทธิ์
29 เจ้าควรกระทำสิ่งเหล่านี้เพื่อให้พวกเขาบริสุทธิ์ เพื่อเป็นปุโรหิตรับใช้เรา จงเอาโคหนุ่มตัวหนึ่งกับแกะตัวผู้ 2 ตัวที่ปราศจากตำหนิ 2 อีกทั้งขนมปังไร้เชื้อ ขนมไร้เชื้อมีน้ำมันผสม และขนมปังกรอบไร้เชื้อทาน้ำมัน เจ้าจงทำขนมปังพวกนี้ด้วยแป้งสาลีชั้นเยี่ยม 3 ใส่รวมกันในตะกร้านำมาพร้อมกับโคหนุ่มและแกะตัวผู้ 2 ตัวนั้น 4 จงพาอาโรนกับบุตรชายของเขามาที่ประตูทางเข้ากระโจมที่นัดหมาย แล้วจงชำระตัวพวกเขาด้วยน้ำ 5 เจ้าจงเอาเครื่องแต่งกายมาตกแต่งให้อาโรน คือมีเสื้อยาวชั้นใน เสื้อคลุมยาวสำหรับสวมใต้ชุดคลุม ชุดคลุม และทับทรวง แล้วคาดผ้าคาดเอวซึ่งทอด้วยฝีมือชั้นดีให้กระชับเข้ากับชุดคลุม 6 สวมผ้าโพกศีรษะให้เขา ติดมงกุฎบริสุทธิ์ที่ผ้าโพกศีรษะ 7 เจ้าจงเอาน้ำมันเจิมรดศีรษะอาโรนเพื่อเป็นการแต่งตั้ง 8 แล้วเจ้าจงพาบุตรของเขามา สวมเสื้อยาวชั้นในให้พวกเขา 9 คาดผ้าคาดเอว และโพกศีรษะให้พวกเขา แล้วเขาจะเป็นปุโรหิตตามข้อกำหนดตลอดไป เจ้าจงแต่งตั้งอาโรนกับบุตรของเขาตามนี้
6 ขณะที่ข้าพเจ้าเดินทางเข้าใกล้เมืองดามัสกัสราวๆ เที่ยงวัน ในทันใดนั้นก็มีแสงสว่างจากสวรรค์ส่องลงมาล้อมรอบข้าพเจ้า 7 ข้าพเจ้าทรุดตัวลงบนพื้น และได้ยินเสียงพูดกับข้าพเจ้าว่า ‘เซาโล เซาโลเอ๋ย ทำไมเจ้าจึงกดขี่ข่มเหงเรา’ 8 ข้าพเจ้าถามว่า ‘พระองค์ท่าน พระองค์เป็นผู้ใด’ พระองค์ตอบว่า ‘เราคือเยซูแห่งเมืองนาซาเร็ธซึ่งเจ้ากำลังข่มเหง’ 9 บรรดาผู้ที่ไปกับข้าพเจ้าก็เห็นแสงนั้นด้วย แต่เขาไม่ได้ยินเสียงของพระองค์ที่กำลังกล่าวกับข้าพเจ้าอยู่ 10 ข้าพเจ้าถามว่า ‘ข้าพเจ้าควรจะทำอย่างไร พระองค์ท่าน’ พระองค์ท่านตอบว่า ‘จงลุกขึ้นเถิด แล้วเข้าไปในเมืองดามัสกัส จะมีคนที่นั่นมาบอกว่าเจ้าจะต้องทำสิ่งใดบ้าง’ 11 แสงสว่างจ้านั้นทำให้ตาของข้าพเจ้าบอด คนที่ไปกับข้าพเจ้าจึงต้องจูงมือนำข้าพเจ้าเข้าไปในเมืองดามัสกัส
12 ชายคนหนึ่งชื่ออานาเนียมาหาข้าพเจ้า ท่านเป็นผู้รักษากฎบัญญัติที่เชื่อในพระเจ้ามาก และเป็นที่นับถืออย่างสูงในหมู่ชาวยิวที่อาศัยอยู่ที่นั่น 13 ท่านยืนอยู่ข้างๆ ข้าพเจ้า พูดว่า ‘พี่เซาโลเอ๋ย จงเห็นเถิด’ และขณะนั้นเอง ข้าพเจ้าก็มองเห็นท่านได้ 14 แล้วท่านพูดว่า ‘พระเจ้าของบรรพบุรุษของเราได้เลือกท่าน ให้รับรู้ความประสงค์ของพระองค์และเห็นองค์ผู้มีความชอบธรรม เพื่อฟังคำกล่าวจากพระองค์โดยตรง 15 ท่านจะเป็นพยานฝ่ายพระองค์ให้คนทั้งปวงทราบถึงเหตุการณ์ที่ท่านได้เห็นและได้ยิน 16 ทำไมท่านจะต้องรอต่อไปอีก จงลุกขึ้นรับบัพติศมา และชำระล้างบาป โดยร้องเรียกพระนามของพระองค์เถิด’
17 ข้าพเจ้ากลับไปยังเมืองเยรูซาเล็ม ขณะที่กำลังอธิษฐานอยู่ที่พระวิหาร ข้าพเจ้าก็ตกอยู่ในภวังค์ 18 และเห็นพระองค์ซึ่งได้กล่าวกับข้าพเจ้าว่า ‘จงรีบออกไปจากเมืองเยรูซาเล็มทันที เพราะว่าผู้คนทั้งหลายจะไม่ยอมรับคำยืนยันของเจ้าที่เกี่ยวกับเรา’ 19 ข้าพเจ้าตอบว่า ‘พระผู้เป็นเจ้า พวกเขาเองทราบว่า ข้าพเจ้าเที่ยวไปจับบรรดาผู้ที่เชื่อในพระองค์ตามศาลาที่ประชุมเพื่อให้พวกเขาถูกจำคุกและโบยตี 20 และเมื่อสเทเฟนผู้เป็นพยานของพระองค์ถึงกับโลหิตตก ข้าพเจ้ายืนอยู่ที่นั่นโดยเห็นชอบในการกระทำนั้น และเฝ้าเสื้อผ้าของพวกที่กำลังฆ่าสเทเฟน’ 21 แล้วพระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับข้าพเจ้าว่า ‘จงไปเถิด เราจะส่งเจ้าไปยังบรรดาคนนอกที่อยู่ห่างไกล’”
Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation