Revised Common Lectionary (Semicontinuous)
(ถึงหัวหน้านักร้อง บรรเลงเครื่องสาย ตามทำนองเชมินิท[a] บทสดุดีของดาวิด)
6 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอทรงโปรดอย่ากำราบข้าพระองค์ขณะที่พระองค์ทรงกริ้ว
หรือลงวินัยข้าพระองค์ขณะที่ทรงพระพิโรธ
2 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอทรงกรุณาข้าพระองค์เถิด เพราะข้าพระองค์อ่อนระโหยโรยแรง
ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าขอทรงโปรดรักษาข้าพระองค์ เพราะกระดูกของข้าพระองค์ปวดร้าวแสนสาหัส
3 จิตวิญญาณของข้าพระองค์ทุกข์ระทมนัก
อีกนานสักเท่าใด ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า อีกนานสักเท่าใด?
4 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอทรงหันมาช่วยกู้ข้าพระองค์ด้วยเถิด
ขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้รอดพ้นเพราะความรักมั่นคงของพระองค์
5 ไม่มีใครที่ตายไปแล้วจะระลึกถึงพระองค์ได้
ผู้ใดเล่าจะสรรเสริญพระองค์จากหลุมฝังศพได้?
6 ข้าพระองค์คร่ำครวญจนอ่อนล้า
ข้าพระองค์ร่ำไห้ตลอดทั้งคืนจนน้ำตาท่วมที่นอน
และหมอนของข้าพระองค์ชุ่มด้วยน้ำตา
7 ดวงตาของข้าพระองค์หม่นหมองไปเพราะความทุกข์โศก
ช้ำไปเพราะบรรดาศัตรูของข้าพระองค์
8 พวกเจ้าทุกคนที่ทำชั่ว จงไปให้พ้นข้าพเจ้า
เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงได้ยินเสียงร่ำไห้ของข้าพเจ้าแล้ว
9 องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงได้ยินเสียงร้องทูลขอความเมตตาของข้าพเจ้า
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงยอมรับคำอธิษฐานของข้าพเจ้า
10 บรรดาศัตรูของข้าพเจ้าจะมีแต่ความอับอายและความหวาดกลัว
พวกเขาจะหันกลับไปและได้รับความอัปยศอดสูทันที
15 นาอามานและผู้ติดตามทั้งหมดจึงกลับมาพบคนของพระเจ้า เขายืนอยู่ต่อหน้าเอลีชาและกล่าวว่า “ข้าพเจ้าทราบแล้วว่าไม่มีพระเจ้าอื่นใดในโลกนอกจากในอิสราเอล บัดนี้โปรดรับของกำนัลจากผู้รับใช้ของท่านเถิด”
16 แต่ผู้เผยพระวจนะตอบว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าที่เรารับใช้ทรงพระชนม์อยู่แน่ฉันใด เราจะไม่รับแม้แต่สิ่งเดียวฉันนั้น” ถึงนาอามานคะยั้นคะยอ เขาก็ยืนกรานปฏิเสธ
17 นาอามานกล่าวว่า “ในเมื่อท่านไม่ยอมรับของกำนัล ก็ขอดินเท่าที่ล่อสองตัวจะบรรทุกได้ให้แก่ผู้รับใช้ของท่านเอากลับไปบ้าน เพราะต่อแต่นี้ไปผู้รับใช้ของท่านจะไม่ถวายเครื่องเผาบูชาหรือของถวายแด่เทพเจ้าอื่นใด เว้นแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า 18 แต่ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอภัยโทษผู้รับใช้ของท่านเรื่องหนึ่งคือ เมื่อกษัตริย์ผู้เป็นเจ้านายของข้าพเจ้าเข้าไปในวิหารของเทพเจ้าริมโมนเพื่อกราบไหว้ ข้าพเจ้าจะต้องคอยพยุงพระองค์และต้องค้อมตัวลงด้วย ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอภัยผู้รับใช้ของท่านที่จะต้องค้อมตัวลงคำนับในวิหารของเทพเจ้าริมโมน”
19 เอลีชากล่าวว่า “ไปโดยสวัสดิภาพเถิด”
หลังจากนาอามานออกเดินทางไปได้ระยะหนึ่ง
21 ภายหลังเหตุการณ์เหล่านี้เปาโลตกลงใจว่าจะไปกรุงเยรูซาเล็มโดยผ่านทางแคว้นมาซิโดเนียและอาคายา เขากล่าวว่า “หลังจากได้ไปที่นั่นแล้วเราต้องไปเยี่ยมกรุงโรมด้วย” 22 เปาโลส่งผู้ช่วยของเขาสองคนคือทิโมธีกับเอรัสทัสไปแคว้นมาซิโดเนียขณะที่เขาอยู่ในแคว้นเอเชียต่ออีกหน่อยหนึ่ง
การจลาจลในเมืองเอเฟซัส
23 ครั้งนั้นเกิดเหตุวุ่นวายครั้งใหญ่เกี่ยวกับ “ทางนั้น” 24 ช่างเงินคนหนึ่งชื่อเดเมตริอัสเป็นคนทำรูปจำลองสถานบูชาของเทวีอารเทมิสด้วยเงิน ซึ่งทำรายได้ให้พวกช่างฝีมือไม่น้อย 25 เขาเรียกประชุมช่างเหล่านั้นกับคนงานในธุรกิจที่เกี่ยวข้องมาและกล่าวว่า “ท่านทั้งหลาย ท่านย่อมทราบอยู่ว่าธุรกิจนี้สร้างรายได้ให้เราอย่างมาก 26 ท่านก็ได้เห็นและได้ยินที่เปาโลคนนี้ชักจูงผู้คนมากมายให้หลงทางทั้งในเอเฟซัสนี้กับทั่วแคว้นเอเชียก็ว่าได้ เขาพูดว่ารูปเคารพที่มนุษย์สร้างขึ้นไม่ได้เป็นเทพเจ้าเลย 27 สิ่งนี้เป็นอันตรายเพราะไม่เพียงแต่จะทำให้การค้าของเราเสียชื่อ ยังทำให้ผู้คนเสื่อมศรัทธาในวิหารของเทวีอารเทมิสผู้ยิ่งใหญ่ด้วย และเทวีเองที่ผู้คนกราบไหว้ทั่วแคว้นเอเชียและทั่วโลกจะถูกปล้นความยิ่งใหญ่อันศักดิ์สิทธิ์ของพระนางไป”
Thai New Contemporary Bible Copyright © 1999, 2001, 2007 by Biblica, Inc.® Used by permission. All rights reserved worldwide.