Revised Common Lectionary (Semicontinuous)
พระยาห์เวห์จะรักษาคำมั่นสัญญาที่ให้กับดาวิดหรือเปล่า
บทเพลงมัสคิลของเอธาน จากตระกูลเอศราค
1 ข้าพเจ้าจะร้องเพลงถึงความรักมั่นคงของพระยาห์เวห์อยู่เสมอ
ข้าพเจ้าจะป่าวประกาศด้วยปากของข้าพเจ้าถึงความสัตย์ซื่อของพระองค์ให้กับคนรุ่นแล้วรุ่นเล่า
2 เพราะข้าพเจ้าว่า “ความรักมั่นคงของพระองค์คงอยู่ตลอดไป
ความสัตย์ซื่อของพระองค์จะอยู่นานตราบเท่าท้องฟ้า”
3 พระองค์พูดว่า “เราทำข้อตกลงกับผู้ที่เราเลือกไว้
เราให้คำสัตย์สาบานไว้กับดาวิดผู้รับใช้ของเราว่า
4 เราจะตั้งราชวงศ์ของเจ้าตลอดไป
เราจะสร้างบัลลังก์ของเจ้าให้คงอยู่ตลอดชั่วลูกชั่วหลาน” เซลาห์
19 ครั้งหนึ่ง พระองค์พูดในนิมิตกับพวกที่สัตย์ซื่อกับพระองค์ว่า “เราได้ให้ความช่วยเหลือกับนักรบคนหนึ่ง
เรายกย่องคนหนุ่มคนหนึ่งจากคนธรรมดาทั่วไป
20 เราพบดาวิด ผู้รับใช้ของเรา
และเราเจิมเขาด้วยน้ำมันศักดิ์สิทธิ์ของเรา
21 มือของเราจะค้ำจุนเขาไว้
แขนของเราจะทำให้เขาแข็งแรง
22 พวกศัตรูของเขาจะไม่ชนะเขาด้วยเล่ห์เพทุบาย
ไม่มีทางที่คนชั่วจะสามารถชนะเขาได้
23 เราจะบดขยี้ศัตรูของเขาต่อหน้าเขา
เราจะฟาดคนเหล่านั้นที่เกลียดชังเขาให้ล้มลง
24 ความสัตย์ซื่อและความรักมั่นคงของเราจะคงอยู่กับเขา
และเขาจะได้รับชัยชนะจากฤทธิ์อำนาจของเรา
25 เราจะแผ่ขยายอำนาจของเขาให้อยู่เหนือทะเลและแม่น้ำ[a]
26 เขาจะพูดกับเราว่า ‘พระองค์คือพ่อของข้าพเจ้า
พระเจ้าของข้าพเจ้าและหินกำบังที่ช่วยข้าพเจ้าให้รอด’
2 มีชายเผ่าดานคนหนึ่งชื่อมาโนอาห์ มาจากเมืองโศราห์ เมียของเขามีลูกไม่ได้เพราะเป็นหมัน
3 ทูตสวรรค์ของพระยาห์เวห์ได้มาปรากฏตัวต่อหน้านางและพูดว่า “ถึงเจ้าจะเป็นหมันไม่มีลูก แต่เจ้าก็จะตั้งท้องและเกิดลูกชาย 4 ต่อจากนี้ไป เจ้าต้องระวัง อย่าดื่มเหล้าองุ่น เบียร์ รวมทั้งไม่กินของที่ทำให้เป็นมลทิน
5 จริงๆแล้วเจ้าตั้งท้องอยู่และจะคลอดลูกชาย อย่าให้มีดโกนโดนหัวของเขา เพราะเด็กคนนี้จะเป็นพวกนาศีร์[a] อุทิศให้พระเจ้าตั้งแต่ยังไม่เกิด เขาจะเป็นคนหนึ่งที่ช่วยกู้ชาวอิสราเอลให้พ้นจากเงื้อมมือของชาวฟีลิสเตีย”
6 จากนั้นนางได้ไปเล่าให้สามีฟังว่า “มีคนของพระเจ้ามาหาฉัน หน้าตาท่าทางเขาเหมือนทูตสวรรค์ของพระเจ้า น่ากลัวมาก แต่ฉันไม่ได้ถามว่าเขามาจากไหน เขาเองก็ไม่ได้บอกชื่อของเขาด้วย 7 แต่เขาพูดกับฉันว่า ‘เจ้าตั้งท้องอยู่และจะคลอดลูกชาย จากนี้ไปเจ้าต้องไม่ดื่มเหล้าองุ่น เบียร์ หรือกินของที่เป็นมลทิน เพราะว่าเด็กชายคนนี้จะมาเป็นนาศีร์ อุทิศให้กับพระเจ้าตั้งแต่อยู่ในท้องแม่จนวันตาย’”
8 แล้วมาโนอาห์ได้อธิษฐานต่อพระยาห์เวห์ว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์ ขอโทษทีพระองค์ ขอรบกวนพระองค์ช่วยส่งชายคนนั้นมาหาพวกเราอีกครั้งเถิด แล้วให้เขาสอนพวกเราว่าจะต้องทำอะไรให้กับเด็กชายที่กำลังจะเกิดมา”
9 พระเจ้าก็ทำตามที่มาโนอาห์ขอ และทูตของพระเจ้าก็ได้มาหาภรรยาของเขาอีกครั้ง ตอนที่เธอกำลังนั่งอยู่ในท้องทุ่ง แต่ว่ามาโนอาห์สามีของนางไม่ได้อยู่กับนาง 10 เธอจึงรีบวิ่งไปบอกสามี นางบอกเขาว่า “ดูสิ ชายคนที่มาหาฉันวันก่อน ได้มาปรากฏตัวให้ฉันเห็น”
11 มาโนอาห์เลยลุกตามภรรยาไปพบทูตของพระเจ้าและพูดว่า “ท่านคือคนที่เคยพูดกับหญิงคนนี้ใช่ไหม”
ทูตของพระเจ้าตอบว่า “ใช่ เราเอง”
12 มาโนอาห์ถามว่า “เมื่อเรื่องที่ท่านพูดนั้นเกิดขึ้นจริง จะมีกฎเกณฑ์อะไรให้กับเด็กคนนี้บ้าง และงานของเขาคืออะไร”
13 ทูตของพระยาห์เวห์ตอบมาโนอาห์ว่า “เมียเจ้าจะต้องทำตามทุกอย่างที่เราได้บอกเธอไปแล้วอย่างเคร่งครัด 14 เธอจะต้องไม่กินอะไรก็ตามที่เกิดจากต้นองุ่น ไม่ดื่มเหล้าองุ่น เบียร์ หรืออะไรก็ตามที่เป็นมลทิน เธอต้องทำตามทุกอย่างที่เราได้สั่งเธอไว้แล้วอย่างเคร่งครัด”
15 แล้วมาโนอาห์ได้พูดกับทูตของพระยาห์เวห์ว่า “รอเดี๋ยวนะ เราจะไปเตรียมอาหารจากลูกแพะตัวหนึ่งให้ท่านกิน”
16 แต่ทูตของพระยาห์เวห์ตอบมาโนอาห์ว่า “ถึงเจ้าเรียกให้เรารอ เราก็จะไม่กินอาหารของเจ้าหรอก แต่ถ้าเจ้าจะจัดเครื่องเผาบูชา ก็ถวายมันให้กับพระยาห์เวห์เถิด” (เพราะมาโนอาห์ไม่รู้ว่าชายคนนี้เป็นทูตของพระยาห์เวห์)
17 แล้วมาโนอาห์ได้ถามทูตของพระยาห์เวห์ว่า “ท่านชื่ออะไร เพราะเมื่อเรื่องที่ท่านพูดนี้เกิดขึ้นจริง เราจะได้ให้เกียรติกับท่าน”
18 ทูตของพระยาห์เวห์ตอบเขาว่า “ท่านถามชื่อเราทำไม ชื่อของเราวิเศษเกินกว่าที่ท่านจะเข้าใจได้”
19 มาโนอาห์ก็เลยเอาแพะหนุ่มกับเครื่องบูชาจากเมล็ดพืช เผาบนหินให้กับพระยาห์เวห์ผู้ทำเรื่องวิเศษ ในขณะที่มาโนอาห์กับภรรยากำลังดูอยู่ 20 เปลวไฟได้ลุกขึ้นจากแท่นบูชา ทูตของพระยาห์เวห์ได้ลอยตามเปลวไฟที่ลุกจากแท่นบูชานั้น เมื่อมาโนอาห์และภรรยาเห็นอย่างนั้น พวกเขาจึงได้ก้มกราบลงกับพื้น 21 จากนั้นทูตของพระยาห์เวห์ก็ไม่เคยปรากฏตัวให้มาโนอาห์และภรรยาได้เห็นอีกเลย มาโนอาห์ถึงได้รู้ว่าเขาเป็นทูตของพระยาห์เวห์ 22 มาโนอาห์พูดกับภรรยาว่า “เราต้องตายแน่ เพราะเราได้เห็นพระเจ้า”
23 แต่ภรรยาของเขาตอบว่า “ถ้าพระยาห์เวห์ต้องการฆ่าเรา พระองค์คงจะไม่รับเครื่องเผาบูชาและเครื่องบูชาจากเมล็ดพืชจากเรา และจะไม่แสดงปาฏิหาริย์ รวมทั้งบอกสิ่งต่างๆกับเราเมื่อกี้นี้”
24 นางได้คลอดลูกชาย นางให้เขาชื่อว่า “แซมสัน” เด็กก็เจริญเติบโตขึ้นเรื่อยๆและพระยาห์เวห์ก็อวยพรเขา
ประชาชนเถียงกันเรื่องพระเยซู
40 เมื่อประชาชนได้ยินสิ่งที่พระเยซูพูด ก็มีบางคนพูดว่า “ชายคนนี้เป็นผู้พูดแทนพระเจ้าคนนั้นที่คนรอคอยแน่ๆ”[a]
41 คนอื่นๆพูดว่า “เขาเป็นพระคริสต์”
แต่บางคนแย้งว่า “พระคริสต์จะมาจากแคว้นกาลิลีได้ยังไง 42 พระคัมภีร์บอกว่า พระคริสต์จะมาจากครอบครัวของดาวิด และมาจากหมู่บ้านเบธเลเฮม เมืองที่ดาวิดเคยอยู่ไม่ใช่หรือ” 43 จึงเกิดการแตกแยกกันขึ้นในหมู่ประชาชนเพราะตกลงกันไม่ได้ในเรื่องของพระเยซู 44 บางคนอยากจะจับกุมพระองค์ แต่ก็ไม่มีใครกล้าทำ
ผู้นำชาวยิวไม่ไว้วางใจพระเยซู
45 ดังนั้นเจ้าหน้าที่ของวิหารกลับไปหาพวกผู้นำนักบวช และพวกฟาริสีที่ถามว่า “ทำไมพวกเจ้าไม่จับมันมาที่นี่”
46 พวกเจ้าหน้าที่ตอบไปว่า “พวกเรายังไม่เคยได้ยินใครพูดเหมือนชายคนนี้มาก่อนเลย”
47 พวกฟาริสีถามอีกว่า “พวกแกก็ถูกมันหลอกด้วยหรือ 48 ดูซิ มีใครบ้างในกลุ่มผู้นำหรือพวกฟาริสีที่ไปหลงเชื่อมัน 49 ส่วนไอ้พวกนอกคอกที่ไม่รู้กฎปฏิบัติพวกนั้น ยังไงก็ถูกพระเจ้าสาปแช่งอยู่แล้ว”
50 นิโคเดมัส คนที่ไปหาพระเยซูก่อนหน้านี้ และเป็นผู้นำชาวยิวคนหนึ่งถามพวกเขาว่า 51 “ตามกฎปฏิบัติของพวกเราจะไม่ตัดสินใครจนกว่าจะฟังเขาพูดและรู้ว่าเขาทำอะไร ไม่ใช่หรือ”
52 แต่พวกเขาบอกนิโคเดมัสว่า “คุณก็มาจากกาลิลีกับเขาด้วยหรือ ลองไปค้นพระคัมภีร์ ดูสิ แล้วคุณจะรู้ว่าไม่มีผู้พูดแทนพระเจ้าที่มาจากกาลิลีเลย”
พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International