Revised Common Lectionary (Semicontinuous)
คนที่ยำเกรงพระยาห์เวห์จะได้รับพระพร
เพลงที่ร้องในระหว่างทางที่ขึ้นไปยังวิหาร
1 ถือว่ามีเกียรติจริงๆคนเหล่านั้นที่ยำเกรงพระยาห์เวห์
คือคนที่เดินในหนทางทั้งหลายของพระองค์
2 เจ้าจะได้กินจากผลงานจากมือเจ้า
เจ้าจะมีเกียรติจริงๆและจะเจริญรุ่งเรือง
3 ภรรยาของเจ้าจะเป็นเหมือนเถาองุ่นที่มีลูกดกในบ้านของเจ้า
ส่วนลูกๆที่อยู่รอบโต๊ะอาหารนั้นก็เปรียบเหมือนต้นมะกอกที่ปลูกอยู่ริมธารน้ำ
4 ดังนั้น จำไว้เถิดว่า
ผู้ที่ยำเกรงพระยาห์เวห์ จะได้รับพระพรอย่างนั้นแหละ
5 ขอให้พระยาห์เวห์อวยพรเจ้าจากวิหารบนภูเขาศิโยน
ขอให้เจ้ามีความสุขกับความเจริญรุ่งเรืองของเยรูซาเล็มตลอดวันเวลาของเจ้า
6 ขอให้เจ้ามีชีวิตอยู่ได้เห็นหน้าหลานของเจ้า
ขอให้อิสราเอลมีความสงบสุขเถิด
การยึดเมืองเยริโค
6 เป็นเพราะชาวอิสราเอล ประตูเมืองเยริโคจึงถูกปิดลงและมีการป้องกันอย่างแน่นหนา ไม่มีใครเข้าหรือออกจากเมืองเลย
2 พระยาห์เวห์พูดกับโยชูวาว่า “ดูเถิด เราได้ยกเมืองเยริโคให้กับเจ้าแล้ว ทั้งกษัตริย์และเหล่าทหารกล้าของมันด้วย 3 พวกเจ้า คือกองทหารทั้งหมดต้องเดินขบวนไปรอบๆเมืองหนึ่งรอบ เจ้าต้องทำอย่างนี้หกวัน 4 ให้นักบวชเจ็ดคนถือแตรเขาแกะคนละอัน เดินนำหน้าหีบศักดิ์สิทธิ์ ในวันที่เจ็ดให้พวกเจ้าเดินรอบเมืองเจ็ดรอบ และให้พวกนักบวชเป่าแตรเขาแกะไปด้วย 5 เมื่อเขาเป่าแตรเสียงยาว เมื่อพวกเจ้าทั้งหลายได้ยินเสียงแตรนั้น ก็ให้ประชาชนทั้งหมดโห่ร้องเสียงดัง และกำแพงก็จะพังราบลงมา แล้วทุกคนก็จะบุกเข้าไปตรงหน้า”
6 โยชูวาลูกชายของนูนจึงได้เรียกพวกนักบวชมาสั่งว่า “ให้ยกหีบที่เก็บข้อตกลงขึ้น และให้นักบวชเจ็ดคนถือแตรเขาแกะคนละอัน นำหน้าหีบของพระยาห์เวห์ไป”
7 โยชูวาได้สั่งกับประชาชนว่า “ให้เคลื่อนขบวนไปข้างหน้าและเดินแถวไปรอบๆเมือง ให้ทหารที่ติดอาวุธเดินนำหน้าหีบแห่งพระยาห์เวห์”
8 ทุกอย่างเป็นไปตามที่โยชูวาได้สั่งกับประชาชนคือ นักบวชเจ็ดคนที่ถือแตรเขาแกะคนละอัน เดินนำหน้าหีบของพระยาห์เวห์ และเป่าแตรไป และหีบที่เก็บข้อตกลงของพระยาห์เวห์ได้เคลื่อนตามพวกเขาไป 9 พวกทหารเดินนำหน้าพวกนักบวชที่กำลังเป่าแตรอยู่ และมีกองระวังหลังเดินรั้งท้ายหีบนั้น และเขาแกะก็เป่าต่อไปเรื่อยๆ 10 โยชูวาได้สั่งประชาชนว่า “อย่าได้โห่ร้อง หรือให้ใครได้ยินเสียงของท่าน และอย่าให้คำพูดหลุดออกมาจากปากท่าน จนกว่าจะถึงวันที่เราจะบอกให้พวกท่านโห่ร้อง เมื่อนั้นพวกท่านถึงค่อยโห่ร้องออกมา”
11 ดังนั้น โยชูวาให้นำหีบของพระยาห์เวห์ออกไปวนรอบเมืองหนึ่งรอบ แล้วพวกเขาก็กลับเข้ามาในค่าย และค้างคืนอยู่ในค่ายนั้น
12 โยชูวาตื่นขึ้นแต่เช้าตรู่ และพวกนักบวชก็ยกหีบของพระยาห์เวห์ขึ้นแบก 13 นักบวชเจ็ดคนที่ถือแตรเขาแกะคนละอัน เดินนำหน้าหีบของพระยาห์เวห์ไป และเป่าแตรไปเรื่อยๆมีทหารเดินอยู่ข้างหน้าพวกเขา และมีกองระวังหลังเดินรั้งท้ายอยู่หลังหีบของพระยาห์เวห์ เขาแกะก็ถูกเป่าไปเรื่อยๆ 14 ในวันที่สองนั้น พวกเขาเดินรอบเมืองหนึ่งรอบ แล้วก็กลับเข้าค่าย พวกเขาทำอย่างนี้จนครบหกวัน
15 ในวันที่เจ็ด พวกเขาลุกขึ้นเมื่อท้องฟ้าเริ่มทอแสง และได้เดินขบวนไปรอบๆเมืองอย่างเคย แต่วันนี้เดินเจ็ดรอบ เฉพาะวันนี้วันเดียวพวกเขาเดินไปรอบเมืองเจ็ดรอบ 16 เมื่อถึงรอบที่เจ็ด พวกนักบวชก็เป่าแตรเขาแกะขึ้น โยชูวาได้พูดกับประชาชนว่า “โห่ร้องเถิด เพราะพระยาห์เวห์ได้ยกเมืองนี้ให้กับพวกท่านแล้ว
20 ดังนั้นประชาชนจึงโห่ร้อง และพวกนักบวชก็ได้เป่าแตรขึ้น ทันทีที่ประชาชนได้ยินเสียงแตร พวกเขาก็โห่ร้องเสียงดัง กำแพงก็พังทลายลง ทหารก็บุกตรงเข้าไปในเมืองและยึดเมืองไว้ได้
บารนาบัสและเซาโลได้รับมอบหมายให้ทำงานพิเศษ
13 มีพวกผู้พูดแทนพระเจ้า และพวกครูในหมู่ประชุมของพระเจ้าที่เมืองอันทิโอก คือ บารนาบัส สิเมโอนหรือที่คนเรียกว่าดำ[a] ลูสิอัสชาวเมืองไซรีน มานาเอน (เพื่อนสนิทของกษัตริย์เฮโรดตั้งแต่เป็นเด็ก) และเซาโล 2 ขณะที่พวกเขานมัสการองค์เจ้าชีวิตและถือศีลอดอาหารอยู่นั้น พระวิญญาณบริสุทธิ์ก็พูดว่า “ให้แยกบารนาบัสและเซาโลออกมาสำหรับงานที่เราจะเรียกให้พวกเขาทำ” 3 หลังจากที่พวกผู้พูดแทนพระเจ้าและพวกครูถือศีลอดอาหารและอธิษฐานเสร็จแล้ว พวกเขาวางมือบนบารนาบัสและเซาโล จากนั้นก็ส่งพวกเขาไป
บารนาบัสและเซาโลไปอยู่ที่เกาะไซปรัส
4 เมื่อพระวิญญาณบริสุทธิ์ได้ส่งพวกเขาออกไปแล้ว บารนาบัสและเซาโลก็เดินทางลงไปที่เมืองเซลูเคีย และพวกเขานั่งเรือจากที่นั่นต่อไปที่เกาะไซปรัส 5 เมื่อมาถึงเมืองซาลามิส พวกเขาได้ประกาศพระคำของพระเจ้าในที่ประชุมชาวยิว ยอห์นไปกับพวกเขาด้วยในฐานะผู้ช่วย 6 พวกเขาเดินทางรอบเกาะไปจนถึงเมืองปาโฟส ที่นี่เขาได้พบคนยิวชื่อว่าบารเยซูที่ใช้เวทมนตร์คาถาและอ้างว่าตัวเองเป็นผู้พูดแทนพระเจ้า 7 เขาเป็นที่ปรึกษาของท่านผู้ว่าชื่อ เสอร์จีอัสเปาโล ซึ่งเป็นคนฉลาดหลักแหลม เสอร์จีอัสเปาโลเรียกบารนาบัสและเซาโลมา เพราะอยากฟังพระคำของพระเจ้า 8 แต่เอลีมาสนักเวทมนตร์ขัดขวางเซาโลและบารนาบัส (เอลีมาสเป็นชื่อกรีกที่แปลมาจากบารเยซู) เขาพยายามที่จะยับยั้งท่านผู้ว่าไม่ให้เชื่อในองค์เจ้าชีวิต 9 จากนั้นเซาโลที่คนเรียกว่าเปาโล ก็เต็มไปด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ เขาได้จ้องไปที่เอลีมาส 10 แล้วพูดว่า “ตัวแกเต็มไปด้วยการหลอกลวงและเล่ห์กลชั่วร้ายต่างๆนานา แกเป็นลูกของมาร เป็นศัตรูของความถูกต้องทุกอย่าง แกจะไม่เลิกบิดเบือนหนทางแห่งความถูกต้องขององค์เจ้าชีวิตใช่ไหม 11 ดูสิ มือขององค์เจ้าชีวิตอยู่บนตัวแกแล้ว แกจะตาบอดมองไม่เห็นแสงอาทิตย์ไปสักพัก” ทันใดนั้นความมืดมิดก็เกิดขึ้นกับเอลีมาสทันที เขาเดินคลำไปรอบๆพยายามหาคนมาช่วยจูงมือให้ 12 เมื่อท่านผู้ว่าเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ท่านจึงเกิดความเชื่อ เพราะรู้สึกอัศจรรย์ใจในคำสอนเกี่ยวกับองค์เจ้าชีวิต
พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International