Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

Revised Common Lectionary (Semicontinuous)

Daily Bible readings that follow the church liturgical year, with sequential stories told across multiple weeks.
Duration: 1245 days
Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
อพยพ 20:1-4

บัญญัติสิบประการ

(ฉธบ. 5:1-21)

20 พระเจ้าพูดว่า

“เราคือยาห์เวห์ พระเจ้าของเจ้า เราได้นำเจ้าออกมาจากแผ่นดินอียิปต์ ออกมาจากการเป็นทาสนั้น

เจ้าต้องไม่มีพระอื่นๆนอกจากเรา

เจ้าต้องไม่สร้างรูปเคารพหรือรูปเหมือนอะไรที่มีอยู่ในท้องฟ้าเบื้องบนหรือในโลกเบื้องล่าง หรือในน้ำใต้พื้นดิน

อพยพ 20:7-9

เจ้าต้องไม่อ้างชื่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้าเล่นๆ เพราะพระยาห์เวห์จะไม่ถือว่าคนนั้นไร้ความผิด ที่อ้างชื่อของพระองค์มาสาบานกันเล่นๆ

อย่าลืมที่จะถือวันหยุดทางศาสนาเป็นวันศักดิ์สิทธิ์ ในช่วงหกวันแรกของแต่ละอาทิตย์ เจ้าก็ทำงานได้ตามปกติ

อพยพ 20:12-20

12 ให้เคารพพ่อแม่ของเจ้า เพื่อพวกเจ้าจะได้มีชีวิตยืนยาวบนแผ่นดินที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้ากำลังให้กับเจ้า

13 ห้ามฆ่าคน

14 ห้ามมีชู้กับผัวเมียคนอื่น

15 ห้ามขโมย

16 ห้ามเป็นพยานเท็จปรักปรำเพื่อนบ้านของเจ้า

17 ห้ามโลภอยากได้บ้านของคนอื่น ห้ามโลภอยากได้ของของเพื่อนบ้าน ไม่ว่าจะเป็นเมียของเขา ทาสชายหญิง วัว ลา หรืออะไรก็แล้วแต่ที่เป็นของเพื่อนบ้าน”

ประชาชนเกรงกลัวพระเจ้า

(ฉธบ. 5:22-33)

18 ประชาชนทั้งหมดต่างเห็นฟ้าร้อง ฟ้าผ่า และได้ยินเสียงแตรเขาสัตว์ รวมทั้งเห็นควันบนภูเขา พวกเขาจึงกลัวจนตัวสั่น และยืนอยู่ห่างๆ 19 พวกเขาพูดกับโมเสสว่า “ท่านพูดกับพวกเราเถอะ เพื่อพวกเราจะได้ฟัง อย่าให้พระเจ้าพูดกับพวกเราเลย เพราะพวกเรากลัวว่าเราอาจจะต้องตาย”

20 โมเสสบอกคนเหล่านั้นว่า “อย่ากลัวไปเลย พระเจ้าลงมาเพื่อทดสอบพวกท่าน เพื่อพวกท่านจะได้ยำเกรงพระองค์และไม่ทำบาป”

สดุดี 19

เพลงสรรเสริญสิ่งที่พระองค์สร้างและกฎของพระองค์

ถึงหัวหน้านักร้อง เพลงสดุดีของดาวิด

สวรรค์ประกาศถึงสง่าราศีของพระเจ้า
    ท้องฟ้าบ่งบอกถึงงานฝีมือของพระองค์
มันพูดถึงพระเจ้าวันแล้ววันเล่า
    มันให้ความรู้เกี่ยวกับพระองค์คืนแล้วคืนเล่า
ถึงมันจะไม่มีคำพูดเล็ดลอดออกมา
    ถึงไม่มีเสียงใดๆให้ได้ยิน
แต่แท้จริงแล้ว เสียงของมันก็แพร่ออกไปทั่วโลกแล้ว
    และคำพูดของมันก็ได้ยินไปถึงสุดโลกแล้ว

พระเจ้าตั้งเต็นท์ให้กับดวงอาทิตย์ในท้องฟ้า
ดวงอาทิตย์ออกมาอย่างมีความสุขเหมือนเจ้าบ่าวที่ออกมาจากห้องหอ
    ดวงอาทิตย์เป็นเหมือนนักวิ่ง มันมีความสุขที่จะวิ่งตามทางของมันข้ามท้องฟ้า
ดวงอาทิตย์เริ่มจากปลายฟ้าฟากหนึ่ง
    วิ่งไปตลอดจนสุดปลายฟ้าอีกฟากหนึ่ง
    และไม่มีอะไรหลบพ้นจากความร้อนของมันได้

คำสอนของพระยาห์เวห์นั้น ช่างดีพร้อม ให้ความสดชื่นกับชีวิต
    กฎเกณฑ์ของพระยาห์เวห์นั้น เชื่อถือได้ ทำให้คนอ่อนต่อโลกฉลาดได้
พวกกฎระเบียบของพระยาห์เวห์นั้นถูกต้อง
    ทำให้หัวใจมนุษย์มีความสุข
พวกคำสั่งของพระยาห์เวห์นั้นบริสุทธิ์
    ฟื้นพลังให้กับชีวิต[a]
ความยำเกรงพระเจ้านั้นศักดิ์สิทธิ์ และยั่งยืนอยู่ตลอดไป
    กฎพระยาห์เวห์นั้นถูกต้องและยุติธรรมครบถ้วน
10 สิ่งเหล่านี้มีค่ามากกว่าทองคำ มากยิ่งกว่าทองคำบริสุทธิ์หลายเท่านัก
    หวานกว่าน้ำผึ้ง หวานยิ่งกว่าน้ำผึ้งจากรัง

11 ใช่แล้ว สิ่งเหล่านี้ตักเตือนผู้รับใช้ของพระองค์
    และผู้ที่รักษาสิ่งเหล่านี้จะได้รับรางวัลอันยิ่งใหญ่
12 ใครจะเห็นความผิดพลาดทั้งหมดของตัวเองได้
    ดังนั้นโปรดอภัยให้กับความผิดบาปที่ข้าพเจ้าทำไปโดยไม่รู้ตัว
13 ช่วยยับยั้งข้าพเจ้าจากบาปที่ทำทั้งๆที่รู้ว่าบาป
    อย่าให้ความบาปอย่างนั้นมาครอบงำข้าพเจ้า
แล้ว ข้าพเจ้าจะได้ไม่มีที่ติ จะบริสุทธิ์ และจะไม่ทำการทรยศอันยิ่งใหญ่

14 พระยาห์เวห์ ผู้เป็นหินกำบัง และผู้ปกป้องข้าพเจ้า
    ขอให้คำพูดจากปาก และความคิดในใจของข้าพเจ้าเป็นสิ่งที่พระองค์ชอบใจ

ฟีลิปปี 3:4-14

ทั้งๆที่ผมมีเหตุผลมากมายที่จะพึ่งสิ่งต่างๆพวกนี้ แต่ถ้าใครคิดว่าเขามีเหตุผลที่จะไว้วางใจในสิ่งที่อยู่ภายนอกแล้วละก็ ผมเปาโล มีมากยิ่งกว่าเขาเสียอีก คือผมได้เข้าพิธีขลิบตอนอายุได้แปดวัน ผมเป็นคนเชื้อชาติอิสราเอล มาจากเผ่าเบนยามิน เป็นชาวฮีบรูแท้ๆ เกิดจากพ่อแม่ชาวฮีบรู ในเรื่องศาสนา ผมอยู่ในกลุ่มที่เคร่งครัดที่สุด คือกลุ่มฟาริสี ผมร้อนรนมากถึงขนาดไปข่มเหงหมู่ประชุมของพระเจ้า ส่วนเรื่องการทำตามกฎของโมเสสนั้น ผมไม่เคยทำผิดเลย แต่เพราะเห็นแก่พระคริสต์ สิ่งต่างๆเหล่านั้นที่ครั้งหนึ่งผมถือว่ามีค่ามาก ตอนนี้ผมถือว่าไร้ค่าแล้ว ความจริงแล้ว ผมถือว่าทุกอย่างนั้นไร้ค่า เพราะเห็นแก่สิ่งที่มีค่ายิ่งกว่านั้นมากนัก คือการที่ได้รู้จักพระเยซูคริสต์องค์เจ้าชีวิตของผม ผมยอมสูญสิ้นทุกอย่างเพื่อพระคริสต์ และถือว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นเหมือนขยะ เพื่อจะได้พระคริสต์ ผมอยากจะมีสายสัมพันธ์ที่ถูกต้องกับพระเจ้าที่เกิดจากความซื่อสัตย์สุจริตของพระคริสต์[a] มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับกฎของโมเสส สายสัมพันธ์ที่ถูกต้องนี้มาจากพระเจ้า และขึ้นอยู่กับความเชื่อ 10 ผมอยากจะรู้จักกับพระคริสต์ และฤทธิ์อำนาจอันเดียวกันที่ทำให้พระองค์ฟื้นขึ้นจากความตาย ผมอยากร่วมทุกข์กับพระองค์ และตายไปเหมือนพระองค์ 11 เพื่อผมเองจะได้ฟื้นขึ้นจากความตายด้วย แต่จะฟื้นอย่างไรผมเองก็ยังไม่เข้าใจเหมือนกัน

พยายามให้ถึงเป้าหมาย

12 ไม่ใช่ว่าผมได้สิ่งเหล่านั้นแล้ว หรือถึงเป้าหมายแล้ว แต่ผมมุ่งหน้าไปอย่างแน่วแน่เพื่อให้ถึงเป้าหมายนั้น เพื่อจะได้คว้ารางวัลนั้นมาให้ได้ เพราะนั่นเป็นสาเหตุที่พระเยซูคริสต์ได้คว้าผมมาไว้เป็นของพระองค์ 13-14 พี่น้องครับ ผมถือว่าผมยังคว้ารางวัลนั้นมาไม่ได้ แต่สิ่งเดียวที่ผมทำอยู่ คือลืมเรื่องในอดีตเสียและโน้มตัวไปข้างหน้า วิ่งตรงดิ่งเข้าสู่เส้นชัย เพื่อจะได้รับรางวัลที่พระเจ้าได้เรียกพวกเราที่อยู่ในพระเยซูคริสต์ให้ขึ้นไปรับบนสวรรค์

มัทธิว 21:33-46

เรื่องเปรียบเทียบเกี่ยวกับชาวสวนชั่ว

(มก. 12:1-12; ลก. 20:9-19)

33 ฟังเรื่องเปรียบเทียบนี้ให้ดี เจ้าของที่แปลงหนึ่งได้ทำสวนองุ่นไว้ ล้อมรั้วไว้รอบ ขุดบ่อย่ำองุ่น[a] และสร้างหอคอย แล้วให้ชาวสวนมาเช่าสวนองุ่นนั้น ส่วนตัวเขาเดินทางไปต่างประเทศ 34 เมื่อถึงฤดูเก็บองุ่น เจ้าของสวนส่งพวกทาสของเขามารับส่วนแบ่งองุ่นจากพวกคนเช่า

35 แต่พวกคนเช่าจับทาสของเขาไว้ ทุบตีคนหนึ่ง ฆ่าอีกคนหนึ่ง แล้วเอาหินขว้างอีกคนหนึ่ง 36 เจ้าของสวนจึงส่งพวกทาสมามากกว่าครั้งแรก แต่ก็ถูกพวกคนเช่าสวน ทำเหมือนเดิม 37 สุดท้าย เจ้าของสวนจึงส่งลูกชายของเขามาเอง เขาว่า ‘พวกนั้นจะต้องเคารพยำเกรงลูกชายของเราแน่ๆ’

38 แต่เมื่อพวกคนเช่าเห็นลูกชายของเขามา ก็พูดกันว่า ‘นี่ไง ผู้รับมรดก เร็วเข้าพวกเรา ฆ่ามันซะ สวนนี้จะได้ตกเป็นของพวกเรา’ 39 พวกคนเช่าสวนจึงจับตัวลูกชายเจ้าของสวนโยนออกไปนอกสวนแล้วฆ่าเขา 40 เมื่อเจ้าของสวนมา เขาจะทำอย่างไรกับคนเช่าพวกนี้”

41 พวกหัวหน้านักบวชและพวกผู้นำอาวุโสตอบว่า “เขาจะต้องฆ่าคนชั่วพวกนั้นอย่างโหดเหี้ยม และให้ชาวสวนคนอื่นที่ยอมแบ่งองุ่นให้กับเขาเมื่อถึงฤดูเก็บเกี่ยวมาเช่าต่อ”

42 พระเยซูบอกพวกเขาว่า “พวกคุณไม่เคยอ่านพระคัมภีร์ข้อนี้หรือที่ว่า

‘หินก้อนนี้ที่ช่างก่อสร้างทิ้งแล้ว กลับกลายมาเป็นหินก้อนที่สำคัญที่สุด
    องค์เจ้าชีวิตทำให้เป็นอย่างนั้น สำหรับเราแล้วนี่เป็นเรื่องที่เหลือเชื่อจริงๆ’[b]

43 เราจะบอกให้รู้ว่า อาณาจักรของพระเจ้าจะถูกริบเอาไปจากคุณ และยกไปให้กับคนที่ทำตามความต้องการของพระเจ้า 44 คนที่ล้มทับหินนี้ ร่างกายก็จะหักเป็นชิ้นๆ แต่ถ้าถูกหินนี้ล้มทับ คนนั้นก็จะแหลกละเอียด”[c]

45 เมื่อพวกหัวหน้านักบวชและพวกฟาริสีได้ยินเรื่องเปรียบเทียบนี้ ก็รู้ทันทีว่าพระองค์กำลังว่าพวกเขาเป็นคนเช่าชั่วร้ายพวกนั้น 46 พวกเขาจึงหาทางที่จะจับพระเยซู แต่ก็กลัวฝูงชน เพราะพวกนี้เชื่อว่าพระองค์เป็นผู้พูดแทนพระเจ้า

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International