Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

Revised Common Lectionary (Semicontinuous)

Daily Bible readings that follow the church liturgical year, with sequential stories told across multiple weeks.
Duration: 1245 days
Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
สดุดี 105:1-6

บุญคุณของพระยาห์เวห์ต่อชาวอิสราเอล

ให้ขอบคุณพระยาห์เวห์ ให้กระจายชื่อเสียงของพระองค์ออกไป
    ให้บอกกับชนชาติทั้งหลายถึงสิ่งที่พระองค์ทำ
ร้องเพลงให้กับพระองค์ ร้องเพลงสรรเสริญให้กับพระองค์เถิด
    ใคร่ครวญถึงสิ่งน่าทึ่งทั้งหมดที่พระองค์ได้ทำ
โอ้อวดถึงชื่ออันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์เถิด
    ขอให้คนเหล่านั้นที่แสวงหาพระยาห์เวห์มีความสุขเถิด
แสวงหาพระยาห์เวห์ และพละกำลังที่มาจากพระองค์เถิด
    แสวงหาหน้าของพระองค์อยู่เสมอ
5-6 ลูกหลานของอับราฮัมผู้รับใช้ของพระเจ้าเอ๋ย
    ลูกหลานของยาโคบพวกที่พระเจ้าเลือกเอ๋ย
ขอให้ท่านระลึกถึงเรื่องน่าทึ่งทั้งหลายที่พระเจ้าทำ
    ระลึกถึงการอัศจรรย์ต่างๆและคำตัดสินทั้งหลายที่ออกมาจากปากของพระองค์

สดุดี 105:37-45

37 พระองค์นำพวกอิสราเอลออกไปพร้อมกับเงินและทองไปด้วย
    พระองค์ไม่ปล่อยให้มีใครสักคนในพวกเผ่าของพระองค์สะดุดล้ม
38 ชาวอียิปต์ต่างดีใจที่ชาวอิสราเอลออกไปได้
    เพราะพวกเขารู้สึกกลัวพวกอิสราเอล
39 พระองค์กางก้อนเมฆของพระองค์ออกปกคลุมอยู่เหนือคนอิสราเอล
    และยังให้เพลิงไฟไว้ส่องสว่างในตอนกลางคืน
40 เมื่ออิสราเอลร้องขออาหาร พระองค์ก็นำนกกระทามาให้
    นอกจากนั้นพระองค์ก็ยังให้อาหารจากสวรรค์กับพวกเขากินจนอิ่มหนำ
41 พระองค์ตีก้อนหินแตกเป็นช่อง
    น้ำก็ไหลพุ่งออกมาสู่แผ่นดินที่แห้งแล้งเหมือนกับแม่น้ำ
42 เพราะพระองค์ระลึกถึงคำสัญญาอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์
    ที่ให้ไว้กับอับราฮัมผู้รับใช้ของพระองค์

43 พระองค์นำชนชาติของพระองค์ออกจากอียิปต์อย่างมีความสุข
    คนเหล่านี้ที่พระองค์เลือกมาโห่ร้องด้วยความยินดี
44 แล้วพระองค์ก็มอบแผ่นดินต่างๆของชนชาติอื่นๆให้กับพวกเขา
    พวกเขาได้กรรมสิทธิ์ในไร่นาที่คนต่างชาติลงมือลงแรงทำไว้
45 ที่พระองค์ทำอย่างนี้ก็เพื่อพวกเขาจะได้เชื่อฟังกฎทั้งหลายของพระองค์
    และรักษาคำสั่งสอนของพระองค์อย่างระมัดระวัง
สรรเสริญพระยาห์เวห์เถิด

อพยพ 16:1-21

อาหารจากสวรรค์

16 พวกเขาเดินทางจากเอลิม และที่ชุมนุมทั้งหมดของอิสราเอลได้เดินทางมาถึงที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้งสีน ซึ่งอยู่ระหว่างตำบลเอลิมและภูเขาซีนาย ในวันที่สิบห้าของเดือนที่สอง[a] หลังจากที่พวกเขาออกจากประเทศอียิปต์มา ที่ชุมนุมทั้งหมดของอิสราเอล บ่นต่อว่าโมเสสกับอาโรนในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้ง พวกเขาบอกกับทั้งสองคนว่า “ให้มือของพระยาห์เวห์ฆ่าพวกเราตอนที่นั่งอยู่ข้างหม้อเนื้อ และกินจนอิ่มหนำในแผ่นดินอียิปต์ ยังจะดีกว่าที่พวกท่านนำชุมชนทั้งหมดนี้ออกมาอดตายในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้งนี้”

พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า “เรากำลังจะทำให้อาหารตกลงมาจากท้องฟ้า ในแต่ละวันให้ประชาชนออกไปเก็บอาหารนี้ได้ เก็บให้พอกินสำหรับวันหนึ่งๆเท่านั้น เพราะเราจะทดสอบดูว่า พวกเขาจะเชื่อฟังกฏของเราหรือไม่ ในวันที่หกเมื่อพวกเขาเตรียมอาหารที่พวกเขาเก็บมา อาหารนั้นจะมีมากขึ้นเป็นสองเท่าของอาหารที่พวกเขาเก็บมาในแต่ละวัน”[b]

โมเสสและอาโรนจึงพูดกับประชาชนชาวอิสราเอลทั้งหมดว่า “เย็นนี้พวกท่านจะได้รู้ว่า พระยาห์เวห์ได้นำพวกท่านออกจากแผ่นดินอียิปต์ และในตอนเช้าพวกท่านจะเห็นรัศมีของพระยาห์เวห์[c] เพราะพระองค์ได้ยินเสียงบ่นของพวกท่าน ที่บ่นต่อว่าพระองค์แล้ว ส่วนเราสองคนเป็นใครกัน พวกท่านถึงได้มาบ่นต่อว่าเรา”

โมเสสพูดว่า “เพราะพระยาห์เวห์ได้ยินเสียงบ่นของพวกท่าน ที่ท่านบ่นต่อว่าพระองค์ ดังนั้นเย็นนี้ พระองค์จะส่งเนื้อมาให้กิน ส่วนพรุ่งนี้ พระองค์จะส่งขนมปังมาให้จนท่านอิ่ม ส่วนเราสองคนเป็นใครกัน พวกท่านถึงได้มาบ่นต่อว่าเรา พวกท่านไม่ได้บ่นต่อว่าเราหรอกนะ แต่บ่นต่อว่าพระยาห์เวห์ต่างหาก”

โมเสสพูดกับอาโรนว่า “ให้บอกกับที่ชุมนุมของชาวอิสราเอลทั้งหมดว่า ให้เข้ามาใกล้พระยาห์เวห์ เพราะพระองค์ได้ยินเสียงบ่นของพวกเจ้าแล้ว”

10 เมื่ออาโรนพูดกับที่ชุมนุมของชาวอิสราเอลทั้งหมด พวกเขาก็หันหลังไปทางที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้ง และเห็นรัศมีของพระยาห์เวห์ปรากฏอยู่ในเมฆ

11 พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า 12 “เราได้ยินเสียงบ่นของประชาชนชาวอิสราเอลแล้ว ให้บอกกับพวกเขาว่า ‘ในตอนเย็น พวกเจ้าจะได้กินเนื้อและในตอนเช้าพวกเจ้าจะได้กินอาหารจนอิ่ม เพื่อเจ้าจะได้รู้ว่า เราคือยาห์เวห์ พระเจ้าของพวกเจ้า’”

13 ในตอนเย็นฝูงนกคุ่มบินมาปกคลุมค่าย ในตอนเช้ามีน้ำค้างเกาะอยู่รอบๆค่าย 14 เมื่อน้ำค้างหายไปก็มีเกล็ดบางๆอยู่บนพื้นผิวที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้ง มันละเอียดเหมือนเกล็ดน้ำแข็งอยู่บนพื้น 15 เมื่อประชาชนชาวอิสราเอลเห็น พวกเขาก็ถามกันว่า “นี่อะไร”[d] เพราะพวกเขาไม่รู้ว่ามันคืออะไร โมเสสจึงพูดกับพวกเขาว่า “มันคืออาหารที่พระยาห์เวห์ให้กับพวกท่านกิน” 16 พระยาห์เวห์สั่งไว้อย่างนี้ว่า “ให้แต่ละคนเก็บเท่าที่ตัวเองจะกินได้ และให้เก็บเผื่อคนที่อยู่ในเต็นท์ของเขาด้วย โดยเก็บให้คนละหนึ่งโอเมอร์”[e]

17 ลูกหลานชาวอิสราเอลก็ทำตามนั้น บางคนก็เก็บมาก บางคนก็เก็บน้อย 18 แต่เมื่อพวกเขาใช้โอเมอร์ตวง คนที่เก็บมามาก ก็ไม่ได้เกิน คนที่เก็บมาน้อย ก็ไม่ขาด แต่ละคนก็เก็บเท่าที่ตัวเองจะกินได้หมด

19 โมเสสบอกกับพวกเขาว่า “ห้ามไม่ให้ใครเหลืออาหารไว้จนถึงวันรุ่งขึ้น” 20 แต่พวกเขาไม่ฟังโมเสส บางคนเหลืออาหารไว้จนถึงวันรุ่งขึ้น มันก็เกิดเป็นหนอนเน่าเหม็น โมเสสจึงโกรธพวกเขา

21 ทุกๆเช้าแต่ละคนจะเก็บอาหารตามที่เขาจะกินได้หมด แต่เมื่อแดดจ้าแผดเผา มันก็ละลายไป

2 โครินธ์ 13:5-10

สำรวจตัวเองดูสิว่า คุณใช้ชีวิตอย่างคนที่ไว้วางใจในพระเจ้าหรือเปล่า ทดสอบตัวเองดู คุณไม่รู้หรือว่าพระเยซูคริสต์อยู่ในตัวคุณ นอกเสียจากว่าคุณจะสอบตก แต่เราหวังว่า คุณจะรู้ว่าเราไม่ได้สอบตก เราอธิษฐานต่อพระเจ้า ว่าคุณจะไม่ทำอะไรผิดเลย ที่อธิษฐานอย่างนี้ ไม่ใช่เพื่อให้คนมองว่าเราเป็นคนวิเศษอะไร แต่เพื่อคุณจะได้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง ถึงแม้คนอื่นจะมองว่าเราล้มเหลวก็ไม่เป็นไร มันเป็นไปไม่ได้ที่เราจะทำในสิ่งที่ขัดกับความจริง แต่เราจะทำเพื่อความจริงเท่านั้น เมื่อไรก็ตามที่เราอ่อนแอและพวกคุณเข้มแข็ง เราก็ยินดี และเราอธิษฐานขอให้พระเจ้าทำให้พวกคุณกลับไปอยู่ในสภาพสมบูรณ์แบบอย่างที่คุณควรจะเป็น 10 ผมเขียนเรื่องนี้มาให้คุณตอนนี้ที่ผมไม่อยู่ ก็เพื่อว่าตอนที่ผมมา ผมจะได้ไม่ต้องใช้อำนาจเข้มงวดกวดขันกับพวกคุณ เพราะอำนาจที่องค์เจ้าชีวิตให้กับผมมานี้ เอาไว้สำหรับเสริมสร้างคุณ ไม่ใช่เอาไว้ทำลายคุณ

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International