Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

Revised Common Lectionary (Semicontinuous)

Daily Bible readings that follow the church liturgical year, with sequential stories told across multiple weeks.
Duration: 1245 days
Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
มีคาห์ 6:1-8

พระยาห์เวห์ฟ้องร้องคนของพระองค์

ตอนนี้ ฟังให้ดีว่าพระยาห์เวห์พูดอะไร
“ลุกขึ้น ว่าความของเจ้ามา ต่อหน้าภูเขาทั้งหลาย
    ให้หุบเขาทั้งหลาย ได้ยินเสียงของเจ้า
ภูเขาทั้งหลาย ให้ฟังคำฟ้องร้องของพระยาห์เวห์
    รากฐานอันมั่นคงถาวรทั้งหลายของแผ่นดินโลกให้ฟังพระองค์เถิด
เพราะพระยาห์เวห์กำลังฟ้องร้องคนของพระองค์
    พระองค์ต้องการสู้ความกับอิสราเอล”

พระยาห์เวห์พูดว่า “ประชาชนของเรา
    เราทำผิดต่อพวกเจ้าตรงไหน
    เราทำให้เจ้าเหน็ดเหนื่อยตรงไหน
    แสดงหลักฐานให้เราดูหน่อย
เราพาเจ้าออกมาจากแผ่นดินอียิปต์
    เราไถ่เจ้าให้เป็นอิสระจากเรือนทาส
และเราส่งโมเสส อาโรนกับมิเรียมให้มานำหน้าเจ้า
ประชาชนของเราเอ๋ย ให้จดจำแผนการชั่วร้ายของบาลาคกษัตริย์โมอับ
    ให้จดจำว่าบาลาอัมลูกชายของเบโอร์ตอบบาลาค[a] ไปว่าอย่างไร
ให้นึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นตอนที่พวกเจ้าเดินผ่านชิทธิมไปกิลกาล[b]
    เพื่อเจ้าจะได้สำนึกถึงการกระทำอันสัตย์ซื่อของพระยาห์เวห์ที่ได้ช่วยกู้เจ้าให้รอด”

แต่เจ้าพูดว่า
“เมื่อข้าพเจ้ามาเข้าเฝ้าพระยาห์เวห์
    และก้มกราบลงอยู่ต่อหน้าพระเจ้าผู้ใหญ่ยิ่งสูงสุด
จะให้ข้าพเจ้าเอาอะไรมาหรือ
    จะให้เอาลูกวัวอายุหนึ่งขวบมาเป็นเครื่องเผาบูชาหรือยังไง
หรือพระยาห์เวห์จะชอบแกะตัวผู้หลายพันตัว
    หรือน้ำมันมะกอกมากมายราวกับแม่น้ำหลายหมื่นสาย
หรือจะให้สังเวยลูกชายหัวปีของข้าพเจ้า สำหรับการละเมิดของข้าพเจ้า
    หรือจะให้สังเวยเลือดเนื้อเชื้อไขของข้าพเจ้า เพื่อเป็นเครื่องบูชาลบล้างบาปของข้าพเจ้าอย่างนั้นหรือ”

เจ้ามนุษย์ พระยาห์เวห์ บอกเจ้าแล้วถึงสิ่งที่ดี
    และสิ่งที่พระองค์ต้องการจากเจ้า คือ
ให้ทำสิ่งที่ยุติธรรม รักความเมตตา
    และเดินกับพระเจ้าของเจ้าด้วยความถ่อมใจ

สดุดี 15

คนที่พระยาห์เวห์ต้อนรับ

เพลงสดุดีของดาวิด

ข้าแต่พระยาห์เวห์ ใครจะได้มาเป็นแขกในเต็นท์[a] ของพระองค์
    ใครจะได้มาอาศัยบนภูเขาอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์

คือคนเหล่านั้นที่ใช้ชีวิตอย่างไม่มีที่ติ
    ทำแต่สิ่งที่ถูกต้อง พูดความจริงจากใจ
ไม่ใช้ลิ้นใส่ร้ายป้ายสี ไม่ทำผิดต่อเพื่อน
    ไม่ด่าเพื่อนบ้าน
รังเกียจคนชั่วที่พระเจ้าไม่ยอมรับ
    ยกย่องคนที่ยำเกรงพระเจ้า
ทำตามสิ่งที่เขาได้สัญญาไว้แม้จะทำให้เขาเดือดร้อนก็ตาม
ไม่คิดดอกเบี้ยเมื่อให้ยืมเงิน
    ไม่ยอมรับสินบนเพื่อปรักปรำคนบริสุทธิ์

คนที่ทำอย่างนี้จะยืนหยัดมั่นคงเสมอ

1 โครินธ์ 1:18-31

พระคริสต์คืออำนาจและสติปัญญาของพระเจ้า

18 คนที่กำลังจะพินาศนั้น ก็ถือว่าเรื่องของไม้กางเขนเป็นเรื่องโง่ แต่คนที่กำลังได้รับความรอดก็ถือว่าเป็นฤทธิ์เดชของพระเจ้า 19 เหมือนกับที่มีพระคัมภีร์เขียนไว้ว่า

“เราจะทำลายสติปัญญาของคนฉลาด
    และเราจะทำให้ความเข้าใจของผู้รอบรู้ ไม่มีความหมายอะไรเลย”[a]

20 ไหนล่ะคนฉลาด ไหนล่ะคนสอนกฎบัญญัติ ไหนล่ะนักปราชญ์สมัยนี้ ไม่ใช่พระเจ้าหรอกหรือ ที่ทำให้เรารู้ว่าสติปัญญาของโลกนี้มันโง่เขลาขนาดไหน 21 มันเป็นแผนการอันเฉลียวฉลาดของพระเจ้า ที่จะไม่ให้โลกมารู้จักกับพระเจ้าด้วยการพึ่งความเฉลียวฉลาดของตัวมันเอง พระเจ้าจึงตัดสินใจที่จะใช้เรื่องราวที่ดูเหมือนโง่ๆที่เราได้ประกาศอยู่นี้ เพื่อช่วยคนที่ไว้วางใจให้รอด 22 คนยิวอยากเห็นปาฏิหาริย์[b] ส่วนคนกรีกก็มองหาสติปัญญา 23 แต่เราประกาศเรื่องพระคริสต์ที่ถูกตรึงตายบนไม้กางเขน คนยิวเลยสะดุดยอมรับไม่ได้ และคนที่ไมใช่ยิวก็ถือว่าเป็นเรื่องโง่ๆ 24 แต่สำหรับคนที่พระเจ้าเรียกมา ไม่ว่าจะเป็นยิวหรือกรีกต่างก็ถือว่าพระคริสต์คือฤทธิ์อำนาจและสติปัญญาของพระเจ้า 25 เพราะความโง่ของพระเจ้าก็ยังเหนือกว่าความฉลาดของมนุษย์ และความอ่อนแอของพระเจ้าก็ยังเหนือกว่าความเข้มแข็งของมนุษย์

26 พี่น้องครับ คิดดูสิว่า ตอนที่พระเจ้าเรียกคุณมานั้น คุณเป็นคนแบบไหนกัน มีไม่กี่คนหรอกที่เป็นคนฉลาดตามความคิดของมนุษย์ มีไม่กี่คนหรอกที่เป็นผู้มีอิทธิพล และมีไม่กี่คนหรอกที่มาจากตระกูลสูง 27 แต่พระเจ้าเลือกสิ่งที่โลกนี้ถือว่าโง่มาทำให้คนที่ฉลาดอับอาย และพระเจ้าเลือกสิ่งที่โลกนี้ถือว่าอ่อนแอ มาทำให้ผู้ที่เข้มแข็งต้องอับอาย 28 พระเจ้าเลือกสิ่งที่โลกนี้ถือว่าต่ำต้อย น่ารังเกียจและไร้สาระ มาทำลายสิ่งที่โลกนี้ถือว่าสำคัญ 29 จะได้ไม่มีใครมาโอ้อวดเรื่องพวกนี้ต่อหน้าพระเจ้า 30 พระเจ้าเท่านั้นที่ทำให้เรามีส่วนในพระเยซูคริสต์ได้ พระเจ้าทำให้พระคริสต์เป็นความเฉลียวฉลาดนั้นเพื่อประโยชน์ของเรา พระคริสต์ทำให้เราเป็นที่ยอมรับของพระเจ้า และทำให้เราเป็นคนของพระเจ้า พระองค์เสียสละตัวเองเพื่อปลดปล่อยเราให้เป็นอิสระจากบาป 31 เหมือนที่พระคัมภีร์พูดว่า “คนที่อยากจะโอ้อวดก็ให้โอ้อวดแต่องค์เจ้าชีวิตเท่านั้น”[c]

มัทธิว 5:1-12

เกียรติที่มาจากพระเจ้า

(ลก. 6:20-23)

เมื่อพระเยซูเห็นผู้คนตามมาเป็นจำนวนมาก พระองค์ได้ขึ้นไปบนภูเขาและนั่งอยู่ที่นั่น พวกศิษย์เข้ามาหาพระองค์ พระองค์จึงเริ่มสอนพวกเขาว่า

“คนที่รู้ตัวว่าต้องการพระเจ้า มีเกียรติจริงๆ
    เพราะเขาได้เป็นส่วนหนึ่งในอาณาจักรแห่งสวรรค์
คนที่โศกเศร้า มีเกียรติจริงๆ
    เพราะพระเจ้าจะปลอบโยนเขา
คนที่มีจิตใจอ่อนโยน มีเกียรติจริงๆ
    เพราะพระเจ้าจะให้โลกนี้กับเขา
คนที่หิวกระหายที่จะทำตามใจพระเจ้า
    มีเกียรติจริงๆเพราะพระเจ้าจะทำให้เขาอิ่มใจ
คนที่มีจิตใจเมตตา มีเกียรติจริงๆ
    เพราะพระเจ้าจะเมตตาเขา
คนที่มีจิตใจบริสุทธิ์ มีเกียรติจริงๆ
    เพราะเขาจะได้เห็นพระเจ้า
คนที่สร้างสันติ มีเกียรติจริงๆ
    เพราะพระเจ้าจะเรียกเขาว่าเป็นลูก
10 คนที่โดนข่มเหงรังแกเพราะทำตามความต้องการของพระเจ้า
    มีเกียรติจริงๆเพราะเขาได้เป็นส่วนหนึ่งในอาณาจักรแห่งสวรรค์
11 คนที่โดนดูถูก โดนข่มเหงรังแก และโดนใส่ร้ายป้ายสี
    เพราะติดตามเรา มีเกียรติจริงๆ

12 ให้ดีใจและมีความสุขเถอะ เพราะพระเจ้าได้เก็บรางวัลอันยิ่งใหญ่ไว้ให้กับคุณแล้วที่บนสวรรค์ เพราะพวกผู้พูดแทนพระเจ้าในสมัยก่อนก็โดนข่มเหงอย่างเดียวกับคุณนี่แหละ

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International