Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

Revised Common Lectionary (Semicontinuous)

Daily Bible readings that follow the church liturgical year, with sequential stories told across multiple weeks.
Duration: 1245 days
Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
ปฐมกาล 17:1-7

การขลิบ

17 เมื่ออับรามมีอายุเก้าสิบเก้าปี พระยาห์เวห์ได้มาปรากฏต่ออับรามและพูดกับเขาว่า “เราคือพระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์[a] ให้เชื่อฟังเราและทำตัวไร้ที่ติ ถ้าเจ้าทำอย่างนี้ เราจะทำสัญญาระหว่างเรากับเจ้า และเราจะทำให้ลูกหลานของเจ้าเพิ่มทวีขึ้นอย่างมหาศาล”

อับรามก็ก้มกราบลงและพระองค์ก็พูดกับเขาว่า “นี่เป็นส่วนของเรา ที่เราได้ทำสัญญากับเจ้า คือเจ้าจะได้เป็นบรรพบุรุษของหลายชนชาติ ชื่อของเจ้าจะไม่ใช่อับราม[b] อีกต่อไป แต่เจ้าจะมีชื่อใหม่ว่า อับราฮัม[c] เพราะเราได้ทำให้เจ้าเป็นพ่อของหลายชนชาติ เราจะทำให้เจ้ามีลูกหลานมากมาย และเราจะทำให้มีหลายๆชนชาติเกิดมาจากเจ้า กษัตริย์ต่างๆจะมาจากเจ้า เราจะทำสัญญาระหว่างเรากับเจ้าและกับลูกหลานของเจ้าและลูกหลานของพวกเขาตลอดไป นี่จะเป็นสัญญาตลอดกาล เราสัญญาว่าเราจะเป็นพระเจ้าของเจ้าและลูกหลานของเจ้า

ปฐมกาล 17:15-16

อิสอัค ลูกชายที่พระเจ้าสัญญาว่าจะให้

15 พระเจ้าพูดกับอับราฮัมว่า “ซาราย[a] เมียของเจ้าจะไม่ชื่อซารายอีกต่อไป เพราะนางจะเปลี่ยนชื่อเป็นซาราห์[b] 16 เราจะอวยพรนาง และเราจะให้ลูกชายกับเจ้าผ่านทางนาง และเราจะอวยพรนางให้เป็นแม่ของหลายชนชาติ พวกกษัตริย์ของชนชาติต่างๆจะมาจากนาง”

สดุดี 22:23-31

23 พวกเจ้าที่เกรงกลัวพระยาห์เวห์ สรรเสริญพระองค์เถิด
    พวกเจ้าที่เป็นลูกหลานของยาโคบ ถวายเกียรติให้กับพระองค์เถิด
    พวกเจ้าที่เป็นลูกหลานของอิสราเอล ยำเกรงพระองค์เถิด
24 เพราะพระยาห์เวห์ไม่ได้ดูถูกหรือรังเกียจความทุกข์ของคนที่เดือดร้อนคนนี้
    พระองค์ไม่ได้ซ่อนหน้าไปจากข้าพเจ้า
    แต่เมื่อข้าพเจ้าร้องให้พระองค์ช่วย พระองค์ฟังข้าพเจ้า

25 ข้าพเจ้าจะสรรเสริญพระองค์ในที่ประชุมใหญ่สำหรับสิ่งที่พระองค์ได้ทำ
    ข้าพเจ้าจะถวายพวกเครื่องบูชาแก้บนต่อหน้าคนทั้งหลายที่ยำเกรงพระองค์
26 คนยากจนทั้งหลาย มาเถิด มากินเครื่องบูชาแก้บนเหล่านั้นให้อิ่มหนำสำราญ
    พวกเจ้าที่แสวงหาพระยาห์เวห์ สรรเสริญพระองค์เถิด
    และขอให้จิตใจของพวกเจ้ามีความสุขตลอดไป
27 ขอให้คนทั่วทุกมุมโลก ระลึกถึงพระยาห์เวห์และหันมาหาพระองค์
    ขอให้คนทุกชาติ ก้มกราบนมัสการต่อหน้าพระองค์
28 เพราะพระยาห์เวห์เป็นกษัตริย์
    และครอบครองอยู่เหนือชนชาติทั้งหลาย

29 คนเหล่านั้นที่มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง จะกินเลี้ยงกันและก้มกราบลงต่อหน้าพระองค์
    ส่วนคนที่กำลังจะตายกลับไปสู่ผงธุลีดิน และแม้แต่คนเหล่านั้นที่ตายไปแล้วก็จะก้มกราบลงต่อหน้าพระเจ้าเหมือนกัน
30 เหล่าลูกหลานของพวกเขาจะรับใช้พระองค์
    คนจะพากันพูดถึงชื่อเสียงขององค์เจ้าชีวิตให้กับคนรุ่นหลังฟัง
31 พวกเขาจะเล่าให้กับคนรุ่นหลังที่ยังไม่ได้เกิดมา
    ฟังเกี่ยวกับการช่วยกู้ที่พระองค์ได้ทำไป

โรม 4:13-25

ต้องไว้วางใจพระเจ้าจึงจะได้ตามสัญญา

13 พระเจ้าสัญญากับอับราฮัมและลูกหลานของท่านว่า พวกเขาจะได้รับโลกนี้เป็นมรดก แต่ที่พระเจ้าสัญญากับท่านอย่างนั้น ไม่ใช่เพราะท่านทำตามกฎ แต่เพราะท่านไว้วางใจพระเจ้าต่างหาก พระเจ้าถึงยอมรับท่าน 14 ถ้าคนเราได้รับโลกนี้เป็นมรดกเพราะการทำตามกฎ การไว้วางใจพระเจ้าก็ไม่มีความหมายอะไรเลย และสัญญาของพระองค์ก็ต้องถูกยกเลิกไปด้วย 15 เพราะกฎนำไปสู่การลงโทษจากพระเจ้า เพราะคนทำผิดกฎเสมอ แต่ถ้าที่ไหนไม่มีกฎ ที่นั่นก็ไม่มีการทำผิดกฎ

16 ดังนั้นคำสัญญาของพระเจ้าจึงขึ้นอยู่กับความไว้วางใจ เพื่อคำสัญญานั้นจะได้เป็นของขวัญที่ให้กับเราเปล่าๆ และลูกหลานของอับราฮัมทุกคนจะได้รับสิ่งที่พระเจ้าสัญญาไว้อย่างแน่นอน ไม่ใช่แต่เฉพาะคนที่อยู่ใต้กฎเท่านั้นที่จะได้รับ แต่รวมถึงคนที่มีส่วนร่วมในความไว้วางใจของอับราฮัมด้วย เพราะท่านเป็นบรรพบุรุษของเราทุกคน 17 เหมือนกับที่พระคัมภีร์ได้เขียนไว้ว่า “เราได้ทำให้เจ้าเป็นบรรพบุรุษของคนหลายชนชาติ”[a] อับราฮัมเป็นบรรพบุรุษของเราต่อหน้าพระเจ้าที่ท่านไว้วางใจ เป็นพระเจ้าที่ทำให้คนตายฟื้นขึ้นมาใหม่ และทำให้สิ่งที่ยังไม่เคยมีมาก่อนเกิดขึ้น

18 เมื่อพระเจ้าสัญญากับอับราฮัมว่าเขาจะได้เป็นบรรพบุรุษของคนหลายชนชาติ ท่านก็ไว้วางใจและมีความหวังอย่างเต็มที่ ทั้งๆที่คำสัญญานั้นเหลือเชื่อ แต่ในที่สุดท่านก็ได้เป็นบรรพบุรุษของคนหลายชนชาติจริงตามที่พระเจ้าบอกกับท่านว่า “ลูกหลานของเจ้าจะมีมากมายเหมือนกับดวงดาวบนท้องฟ้า”[b] 19 ความไว้วางใจของอับราฮัมก็ไม่ได้ลดน้อยลงเลย ทั้งๆที่อับราฮัมรู้ว่าร่างกายของท่านหมดสภาพเหมือนตายแล้ว (เพราะท่านมีอายุประมาณหนึ่งร้อยปี) และท่านยังรู้อีกด้วยว่าครรภ์ของนางซาราห์เมียของท่านเป็นหมันเหมือนกับตายไปแล้ว 20 แต่อับราฮัมไม่เคยสงสัยในคำสัญญาของพระเจ้าเลย กลับมีความไว้วางใจมากขึ้น ซึ่งเป็นการให้เกียรติกับพระเจ้า 21 อับราฮัมเชื่ออย่างแน่วแน่ว่า พระเจ้าสามารถทำในสิ่งที่พระองค์ได้สัญญาไว้ 22 “พระเจ้าจึงนับว่าความไว้วางใจของท่านนั้นเป็นสาเหตุเพียงพอที่จะยอมรับท่าน”[c] 23 อย่างที่พระคัมภีร์เขียนไว้นั้น คำพูดเหล่านี้ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องของอับราฮัมเท่านั้น 24 แต่เกี่ยวกับพวกเราด้วย พระเจ้าจะนับว่าความไว้วางใจของเรานั้นเป็นสาเหตุเพียงพอที่จะยอมรับเราด้วย คือพวกเราที่ไว้วางใจในพระเจ้า ผู้ทำให้พระเยซูคริสต์เจ้าของเราฟื้นขึ้นจากความตาย 25 เป็นเพราะความผิดบาปของเรา พระเจ้าถึงได้มอบพระเยซูให้คนเอาไปฆ่า และพระเจ้าทำให้พระเยซูฟื้นขึ้นจากความตาย เพื่อเราจะได้เป็นคนที่พระองค์ยอมรับ

มาระโก 8:31-38

พระเยซูทำนายถึงความตายของพระองค์

(มธ. 16:21-28; ลก. 9:22-27)

31 แล้วพระเยซูเริ่มสอนให้พวกเขารู้ว่า “บุตรมนุษย์จะต้องทนทุกข์ทรมานหลายอย่าง พวกผู้นำชาวยิว พวกหัวหน้านักบวช และพวกครูสอนกฎปฏิบัติจะไม่ยอมรับเขา และเขาจะต้องถูกฆ่า แต่เขาจะฟื้นขึ้นมาอีกในวันที่สาม” 32 พระองค์เล่าเรื่องนี้ให้พวกเขาฟังอย่างชัดเจน เปโตรจึงดึงพระองค์ไปข้างๆแล้วต่อว่าพระองค์ที่พูดอย่างนั้น 33 พระองค์ก็หันไปดูพวกศิษย์แล้วดุเปโตรว่า “ไปให้พ้น ไอ้ซาตาน เพราะแกไม่ได้คิดแบบพระเจ้า แต่คิดแบบมนุษย์”

34 พระองค์เรียกชาวบ้านกับศิษย์เข้ามาแล้วพูดว่า “ถ้าใครอยากจะติดตามเรา คนนั้นต้องเลิกตามใจตัวเอง และแบกไม้กางเขนของตัวเองตามเรามา 35 คนที่อยากจะเอาตัวรอดจะไม่รอด แต่คนที่ยอมสละตัวเองเพื่อเราและข่าวดีนั้นจะรอด 36 มันจะได้กำไรตรงไหน ถ้าได้โลกทั้งใบ แต่ตัวเองถูกทำลายไป 37 เขาจะเอาอะไรไปแลกเพื่อจะได้ตัวเองกลับคืนมาหรือ 38 ในยุคชั่วร้ายนี้ ถ้าคนไหนอับอายที่จะยอมรับเราและถ้อยคำของเรา บุตรมนุษย์ ก็จะอับอายที่จะยอมรับคนนั้นด้วยเหมือนกันในวันที่บุตรมนุษย์เสด็จกลับมาพร้อมกับสง่าราศีของพระบิดาและพร้อมกับเหล่าทูตสวรรค์ที่ศักดิ์สิทธิ์”

มาระโก 9:2-9

พระเยซูอยู่กับโมเสส และเอลียาห์

(มธ. 17:1-13; ลก. 9:28-36)

หกวันต่อมาพระเยซูได้พาเปโตร ยากอบ และยอห์น ขึ้นไปบนภูเขาสูงกัน แล้วลักษณะของพระเยซูก็เปลี่ยนไปต่อหน้าพวกเขา เสื้อผ้าของพระองค์กลายเป็นสีขาวเปล่งประกายแวววับ ขาวกว่าที่คนฟอกผ้าในโลกนี้จะฟอกให้ขาวขนาดนี้ได้ แล้วพวกเขาก็เห็นเอลียาห์กับโมเสส[a] กำลังคุยอยู่กับพระเยซู

เปโตรบอกพระเยซูว่า “อาจารย์ครับ ดีมากเลยที่พวกเราอยู่ที่นี่ พวกเราจะได้สร้างเพิง ขึ้นมาสามหลัง ให้อาจารย์หลังหนึ่ง ให้โมเสสหลังหนึ่ง และให้เอลียาห์อีกหลังหนึ่ง” (เปโตรไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี เพราะพวกเขากำลังตกใจกลัวมาก)

จากนั้นก็มีเมฆลอยมาปกคลุมพวกเขาไว้ และมีเสียงพูดก้องออกมาจากเมฆว่า “ท่านผู้นี้คือลูกรักของเรา ให้เชื่อฟังท่าน”

พวกเขาก็หันไปดูรอบๆแต่ไม่เห็นใครเลยนอกจากพระเยซู

ขณะที่เดินลงมาจากภูเขา พระเยซูสั่งห้ามพวกเขาไม่ให้เล่าเรื่องที่เห็นนี้ให้ใครฟัง จนกว่าบุตรมนุษย์จะฟื้นขึ้นจากความตาย

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International