Revised Common Lectionary (Semicontinuous)
พระยาห์เวห์ปกป้องคนของพระองค์
เพลงที่ร้องในระหว่างทางที่ขึ้นไปยังวิหาร
1 คนเหล่านั้นที่ไว้วางใจในพระยาห์เวห์จะเป็นเหมือนภูเขาศิโยน
ที่ไม่สั่นคลอนและคงอยู่ตลอดไป
2 พระยาห์เวห์ล้อมรอบและปกป้องคนของพระองค์ทั้งเดี๋ยวนี้และตลอดไป
เหมือนที่ภูเขาล้อมรอบเยรูซาเล็ม
3 พวกคนชั่วช้าจะไม่ได้ครอบครองแผ่นดินของคนดีเสมอไป
เพราะไม่อย่างนั้นคนดีจะเริ่มทำชั่ว
4 ข้าแต่พระยาห์เวห์
ขอช่วยทำดีกับคนดีด้วยเถิด คือคนที่มีจิตใจซื่อตรง
5 ข้าแต่พระยาห์เวห์
ช่วยกำจัดคนคดโกง พร้อมกับคนอื่นๆที่ทำชั่วด้วยเถิด
ขอให้อิสราเอลมีความสงบสุขเถิด
เอลียาห์กับพวกผู้พูดแทนพระบาอัล
18 หลังจากนั้น ในช่วงปีที่สามที่ฝนไม่ตก พระยาห์เวห์บอกเอลียาห์ว่า “ไปปรากฏตัวให้กษัตริย์อาหับเห็นสิ แล้วเราจะส่งฝนให้ตกลงมาบนแผ่นดินนี้” 2 เอลียาห์จึงไปเข้าเฝ้ากษัตริย์อาหับ ตอนนั้นในเมืองสะมาเรีย ภาวะความอดอยากแห้งแล้งอยู่ในขั้นรุนแรงแล้ว 3 กษัตริย์อาหับได้เรียกตัวโอบาดียาห์หัวหน้าผู้ดูแลวังมาพบ (โอบาดียาห์เป็นคนที่เคารพยำเกรงพระยาห์เวห์อย่างสูง 4 ตอนที่เยเซเบลฆ่าพวกผู้พูดแทนพระเจ้า โอบาดียาห์ได้ช่วยผู้พูดแทนพระเจ้าไว้ถึงหนึ่งร้อยคน และซ่อนตัวพวกเขาไว้ในถ้ำสองแห่ง แห่งละห้าสิบคน และได้จัดหาอาหารและน้ำให้กับพวกเขาด้วย) 5 กษัตริย์อาหับได้พูดกับโอบาดียาห์ว่า “เดินทางไปตามแหล่งตาน้ำและหุบเขาทั้งหมดที่อยู่บนแผ่นดินนี้ บางทีพวกเราอาจจะพบต้นหญ้ามาใช้เลี้ยงม้าและล่อเหล่านี้ให้มีชีวิตอยู่ต่อไป พวกเราจะได้ไม่ต้องฆ่าสัตว์ตัวใดตัวหนึ่งของพวกเรา” 6 พวกเขาจึงได้แบ่งพื้นที่กันเพื่อจะได้ค้นหาได้ทั่วถึง อาหับไปทางหนึ่งและโอบาดียาห์ไปอีกทางหนึ่ง 7 ในขณะที่โอบาดียาห์กำลังเดินทางอยู่ เอลียาห์ได้มาพบเขา โอบาดียาห์จำเขาได้ เขาก้มกราบลงกับพื้นและพูดว่า “นี่ท่านจริงๆหรือ เอลียาห์เจ้านายของข้าพเจ้า”
8 เอลียาห์ตอบว่า “ใช่แล้ว ไปบอกกับเจ้านายของเจ้าว่า ‘เอลียาห์อยู่ที่นี่แล้ว’”
9 โอบาดียาห์ถามกลับว่า “นี่ข้าพเจ้าได้ทำอะไรผิดหรือ ท่านถึงจะส่งข้าพเจ้าผู้รับใช้ท่าน ไปให้กับกษัตริย์อาหับฆ่า 10 พระยาห์เวห์มีชีวิตอยู่แน่ขนาดไหน ก็ให้แน่ใจขนาดนั้นเลยว่ากษัตริย์เจ้านายของข้าพเจ้าได้ส่งคนไปค้นหาท่านจนทั่วทุกหนแห่ง ไม่มีชนชาติใดหรืออาณาจักรใดเลยที่กษัตริย์ข้าพเจ้าไม่ได้ส่งคนไปค้นหาท่าน และถ้าชนชาติใดหรืออาณาจักรใดบอกว่า ‘คนนั้นไม่ได้อยู่ที่นี่’ กษัตริย์อาหับก็จะให้คนเหล่านั้นสาบานว่าพวกเขาหาท่านไม่พบจริงๆ 11 แต่ตอนนี้ท่านกลับให้ข้าพเจ้าไปบอกกับกษัตริย์เจ้านายของข้าพเจ้าว่า ‘เอลียาห์อยู่ที่นี่แล้ว’ 12 พอข้าพเจ้าไปจากท่านแล้ว ข้าพเจ้าไม่รู้ว่าพระวิญญาณของพระยาห์เวห์จะพาท่านไปที่ใด ถ้าข้าพเจ้าไปบอกกับกษัตริย์อาหับและเขาเกิดหาท่านไม่พบ เขาก็จะฆ่าข้าพเจ้าเสีย ข้าพเจ้าผู้รับใช้ท่านได้เคารพยำเกรงพระยาห์เวห์มาตั้งแต่หนุ่มจนถึงเดี๋ยวนี้ 13 เจ้านายของข้าพเจ้า ท่านไม่เคยได้ยินสิ่งที่ข้าพเจ้าได้ทำลงไปหรือ ตอนที่เยเซเบลกำลังฆ่าพวกผู้พูดแทนพระเจ้า ข้าพเจ้าได้ซ่อนตัวพวกผู้พูดแทนพระเจ้าถึงหนึ่งร้อยคนไว้ในถ้ำสองแห่ง แห่งละห้าสิบคน และจัดหาอาหารและน้ำให้กับพวกเขาด้วย 14 ตอนนี้ท่านมาบอกข้าพเจ้าให้ไปหากษัตริย์เจ้านายของข้าพเจ้าและพูดว่า ‘เอลียาห์อยู่ที่นี่แล้ว’ เขาต้องฆ่าข้าพเจ้าแน่”
15 เอลียาห์พูดว่า “พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น ผู้ที่เรารับใช้อยู่ มีชีวิตอยู่แน่นอนขนาดไหน ก็ให้แน่ใจขนาดนั้นเลยว่า ในวันนี้แหละเราจะไปปรากฏตัวให้อาหับเห็น”
16 โอบาดียาห์จึงไปหากษัตริย์อาหับและบอกเรื่องนี้กับเขา และกษัตริย์อาหับก็ไปพบเอลียาห์ 17 เมื่อกษัตริย์เห็นเอลียาห์ เขาพูดกับเอลียาห์ว่า “นั่นเป็นเจ้าจริงๆหรือ ไอ้ตัวสร้างปัญหาของอิสราเอล”
18 เอลียาห์ตอบว่า “ข้าพเจ้าไม่เคยสร้างปัญหาให้อิสราเอล แต่ท่านและครอบครัวของบรรพบุรุษท่านต่างหากที่เป็นคนทำ ท่านได้ละทิ้งคำสั่งต่างๆของพระยาห์เวห์และไปติดตามพระบาอัล
จงสวมชุดเกราะของพระเจ้า
10 สุดท้ายนี้ ขอให้เข้มแข็งในองค์เจ้าชีวิต และในฤทธิ์อำนาจอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ 11 สวมชุดเกราะที่พระเจ้ามอบให้อย่างเต็มยศ แล้วพวกคุณจะสามารถยืนขึ้นต่อสู้แผนการของมารร้าย 12 เพราะพวกเราไม่ได้ต่อสู้กับมนุษย์ แต่ต่อสู้กับพวกผู้ครอบครอง พวกผู้มีอำนาจ ต่อสู้กับพวกเทพเจ้าที่ครองโลกมืดนี้ และต่อสู้กับพวกวิญญาณชั่วร้ายในโลกฝ่ายวิญญาณ 13 เพราะอย่างนี้ ให้สวมชุดเกราะที่พระเจ้ามอบให้อย่างเต็มยศ เพื่อคุณจะสามารถยืนหยัดได้เมื่อวันอันชั่วร้ายมาถึง และเมื่อทุกอย่างจบสิ้นแล้ว พวกคุณก็ยังคงยืนหยัดต่อไปได้ 14 ดังนั้นให้ยืนหยัดไว้ เอาความจริงรัดเอวไว้เหมือนเข็มขัด เอาชีวิตที่พระเจ้าชอบใจมาสวมเป็นเกราะป้องกันอก 15 เอาใจที่พร้อมจะประกาศข่าวดีเรื่องสันติสุขมาสวมเป็นรองเท้า 16 นอกจากนี้แล้ว ให้เอาความเชื่อเป็นโล่ ที่พวกคุณจะใช้กันลูกธนูไฟทั้งหมดที่มารร้ายยิงเข้าใส่ 17 ให้เอาความรอดเป็นหมวกเหล็ก และให้ถือดาบของพระวิญญาณ ซึ่งก็คือถ้อยคำของพระเจ้า
พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International