Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

Revised Common Lectionary (Complementary)

Daily Bible readings that follow the church liturgical year, with thematically matched Old and New Testament readings.
Duration: 1245 days
Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
สดุดี 31:1-5

พระยาห์เวห์เป็นที่ลี้ภัย

ถึงหัวหน้านักร้อง เพลงสดุดีของดาวิด

31 ข้าแต่พระยาห์เวห์ ข้าพเจ้าลี้ภัยในพระองค์
    โปรดอย่าทำให้ข้าพเจ้าต้องอับอายเลย
    โปรดช่วยข้าพเจ้าให้รอดด้วยเพราะพระองค์ทำในสิ่งที่ถูกต้องเสมอ
โปรดเงี่ยหูของพระองค์ฟังข้าพเจ้า
    รีบมาช่วยกู้ข้าพเจ้าด้วย
ขอเป็นป้อมปราการบนภูผาแก่ข้าพเจ้า
    เป็นวังที่เป็นป้อมปราการ ขอปกป้องข้าพเจ้า

เพราะพระองค์ คือหินกำบังและป้อมปราการของข้าพเจ้า
    โปรดนำทาง พาข้าพเจ้าไปด้วยเถิด เพื่อเห็นแก่ชื่อเสียงอันดีของพระองค์
โปรดดึงข้าพเจ้าออกจากตาข่ายที่พวกเขาซ่อนไว้ดักข้าพเจ้า
    เพราะพระองค์เป็นป้อมปราการของข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าขอมอบจิตวิญญาณนี้ไว้ในมือของพระองค์
    ข้าแต่พระยาห์เวห์ โปรดไถ่ข้าพเจ้าด้วยเถิด เพราะพระองค์เป็นพระเจ้าที่สัตย์ซื่อ

สดุดี 31:19-24

19 แต่พระองค์ได้ตุนสิ่งดีๆไว้มากมายสำหรับคนที่ยำเกรงพระองค์
    พระองค์ทำหลายสิ่งหลายอย่างต่อหน้าต่อตามนุษย์ทั้งหลาย
    เพื่อช่วยคนเหล่านั้นที่มาลี้ภัยในพระองค์
20 พระองค์ซ่อนคนดีๆพวกนี้ไว้กับพระองค์
    เพื่อให้พ้นจากคนเหล่านั้นที่ปองร้ายพวกเขา
พระองค์ซ่อนพวกเขาไว้ในที่กำบังของพระองค์
    เพื่อให้รอดพ้นจากลิ้นที่ใส่ร้ายพวกเขา

21 สรรเสริญพระยาห์เวห์
    เพราะพระองค์แสดงความรักมั่นคงที่แสนอัศจรรย์
    ที่ปกป้องข้าพเจ้าเมื่อข้าพเจ้าถูกโจมตี[a]
22 ข้าพเจ้ากลัว ข้าพเจ้าเลยพูดว่า
    “ข้าพเจ้าถูกตัดออกไปจากสายตาของพระองค์”[b]
    แต่พระองค์ได้ยินคำร้องขอให้ช่วยของข้าพเจ้า เมื่อข้าพเจ้าร้องเรียกพระองค์

23 ท่านทั้งหลายที่จงรักภักดีต่อพระองค์ ให้รักพระยาห์เวห์เถิด
    พระยาห์เวห์คุ้มครองคนทั้งหลายที่ซื่อสัตย์ต่อพระองค์
    พระองค์จะตอบแทนคนที่เย่อหยิ่งจองหองอย่างทบดอกทบต้น
24 ดังนั้น ท่านทั้งหลายที่ฝากความหวังไว้กับพระยาห์เวห์
    ให้เข้มแข็งและกล้าหาญไว้เถิด

เฉลยธรรมบัญญัติ 30:1-5

ผลของการเชื่อฟัง

30 เมื่อสิ่งต่างๆทั้งหมดที่เราพูดมานี้ เกิดขึ้นกับท่าน ทั้งคำอวยพรและคำสาปแช่ง และถ้าท่านหวนคิดถึงสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นนี้ ตอนที่ท่านอยู่ท่ามกลางชนชาติต่างๆที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านบังคับให้ท่านไปอยู่นั้น ถ้าท่านหันกลับมาหาพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน และถ้าตัวท่านและลูกๆของท่านเชื่อฟังพระองค์อย่างสุดจิตสุดใจ ตามที่เรากำลังสั่งท่านอยู่ในวันนี้ พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านก็จะทำให้ท่านกลับมาเหมือนเดิม พระองค์จะสงสารท่าน และจะรวบรวมท่านอีกครั้งจากชนชาติต่างๆที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทำให้ท่านกระจัดกระจายไปอยู่นั้น ถึงแม้ท่านจะถูกบังคับให้ไปอยู่ไกลสุดขอบฟ้า พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านก็จะรวบรวมท่านกลับมา พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะนำท่านกลับมาสู่แผ่นดินที่บรรพบุรุษของท่านเคยเป็นเจ้าของ และท่านจะได้เป็นเจ้าของมัน และพระองค์จะทำให้ท่านเจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้น และมีจำนวนมากกว่าบรรพบุรุษของท่าน

โรม 9:6-13

คนเราจะพูดว่าพระเจ้าผิดสัญญาไม่ได้หรอก เพราะไม่ใช่ทุกคนที่สืบเชื้อสายมาจากอิสราเอล จะเป็นชาวอิสราเอลที่แท้จริง และไม่ใช่ลูกของอับราฮัมทุกคนจะถูกนับว่าเป็นผู้สืบเชื้อสายมาจากเขา เพราะพระเจ้าบอกกับอับราฮัมว่า “คนที่จะนับว่าสืบเชื้อสายมาจากเจ้าจะต้องสืบเชื้อสายมาจากอิสอัคเท่านั้น”(A) แสดงว่าไม่ใช่ลูกทุกคนของอับราฮัมที่เกิดตามธรรมชาติจะนับว่าเป็นลูกของพระเจ้า แต่ต้องเป็นลูกที่เกิดจากคำสัญญาของพระเจ้าเท่านั้นถึงจะนับว่าเป็นผู้สืบเชื้อสายจริง คำสัญญานั้นว่าไว้อย่างนี้คือ “ปีหน้าเวลานี้ เราจะกลับมา และซาราห์จะคลอดลูกชาย”(B)

10 หรืออีกตัวอย่างหนึ่งที่เกี่ยวกับเรื่องนี้คือตอนที่เรเบคาห์ตั้งท้องลูกชายฝาแฝดกับอิสอัคบรรพบุรุษของเรา 11-12 ก่อนที่เด็กจะคลอดออกมาทำดีหรือชั่ว พระเจ้าบอกเรเบคาห์ว่า “คนพี่จะรับใช้คนน้อง”(C) เพื่อให้เป็นไปตามแผนที่พระองค์เลือก ทำให้เราเห็นว่าการเลือกของพระเจ้านั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับการกระทำของคน แต่ขึ้นอยู่กับพระเจ้าผู้เรียกเอง 13 ซึ่งเหมือนกับที่ได้เขียนไว้แล้วว่า “เรารักยาโคบ แต่เราเกลียดเอซาว”(D)[a]

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International