Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

Revised Common Lectionary (Complementary)

Daily Bible readings that follow the church liturgical year, with thematically matched Old and New Testament readings.
Duration: 1245 days
New Thai Version (NTV-BIBLE)
Version
อาโมส 6:1

วิบัติแก่บรรดาผู้ที่นิ่งนอนใจในศิโยน

วิบัติแก่บรรดาผู้ที่นิ่งนอนใจในศิโยน
    และแก่บรรดาผู้ที่รู้สึกปลอดภัยบนภูเขาในสะมาเรีย
แก่บรรดาผู้มีชื่อเสียง และเป็นที่หนึ่งของบรรดาประชาชาติ
    ซึ่งพงศ์พันธุ์อิสราเอลมาขอความช่วยเหลือ

อาโมส 6:4-7

วิบัติเกิดแก่พวกท่านที่นอนบนเตียงงาช้าง
    และยืดกายบนเตียง
ท่านรับประทานเนื้อแกะจากฝูง
    และเนื้อลูกโคตัวผู้จากคอก
พวกท่านดีดพิณเล็กอย่างดาวิด
    และแต่งเพลงร้องขึ้นเอง
พวกท่านดื่มเหล้าองุ่นเป็นไห
    และเจิมตัวเองด้วยน้ำมันชนิดดีที่สุด
    แต่ไม่เศร้าใจกับความหายนะของพงศ์พันธุ์โยเซฟ
ฉะนั้น บัดนี้พวกท่านจะเป็นพวกแรกที่จะถูกเนรเทศ
    การเลี้ยงฉลองและความสุขสบายจะจบสิ้นลง

สดุดี 146

ไว้ใจพระเจ้า ไม่ใช่มนุษย์

สรรเสริญพระผู้เป็นเจ้า

โอ จิตวิญญาณของข้าพเจ้าเอ๋ย สรรเสริญพระผู้เป็นเจ้าเถิด
ข้าพเจ้าจะสรรเสริญพระผู้เป็นเจ้าไปชั่วชีวิต
    ข้าพเจ้าจะร้องเพลงสรรเสริญถวายแด่พระเจ้าของข้าพเจ้าตราบที่มีชีวิตอยู่
อย่าวางใจในบรรดาเจ้าขุนมูลนาย
    หรือมนุษย์อื่นซึ่งไม่สามารถช่วยให้รอดพ้นได้
เมื่อเขาหมดลมหายใจ เขาก็กลับคืนสู่ดิน
    แผนการต่างๆ ที่วางไว้ก็เป็นอันจบสิ้นในวันนั้นเอง
คนที่พระเจ้าของยาโคบช่วยเหลือไว้
    คนที่มีความหวังในพระผู้เป็นเจ้าซึ่งเป็นพระเจ้าของเขา ก็เป็นสุข

พระองค์ได้สร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก
    ทะเลและทุกสิ่งที่มีอยู่ในที่เหล่านั้น[a]
    พระองค์รักษาสัญญาเสมอ
พระองค์คุ้มครองผู้ถูกบีบบังคับ
    และให้อาหารแก่ผู้หิวโหย
พระผู้เป็นเจ้าปล่อยพวกถูกคุมขังให้เป็นอิสระ
    พระผู้เป็นเจ้าทำให้คนตาบอดมองเห็น
พระผู้เป็นเจ้าพยุงพวกเขาขึ้นมาจากความสิ้นหวัง
    พระผู้เป็นเจ้ารักผู้มีความชอบธรรม
พระผู้เป็นเจ้าคุ้มครองคนต่างด้าว
    พระองค์บรรเทาทุกข์ของหญิงม่ายและเด็กกำพร้า
    แต่พระองค์ทำลายหนทางของคนชั่วร้าย

10 พระผู้เป็นเจ้าครองบัลลังก์อยู่ตลอดกาล
    โอ ศิโยนเอ๋ย พระเจ้าของเจ้าครองอยู่ทุกชั่วอายุคน

จงสรรเสริญพระผู้เป็นเจ้า

1 ทิโมธี 6:6-19

แต่ความจริงแล้วการใช้ชีวิตในทางของพระเจ้า มีประโยชน์ยิ่งหากว่ามีความพึงพอใจ เพราะเราไม่ได้นำสิ่งใดเข้ามาในโลก ดังนั้นเราไม่สามารถนำอะไรออกไปจากโลกเช่นกัน ถ้าเรามีอาหารและเสื้อผ้า ก็ให้เราพอใจกับสิ่งเหล่านั้น บรรดาคนที่อยากร่ำรวยก็ตกอยู่ในสิ่งยั่วยุ ติดบ่วงแร้ว และตกอยู่ในความต้องการอันโง่เขลาและเป็นภัย ซึ่งทำให้คนถลำลงสู่ความหายนะและความพินาศ 10 เพราะการรักเงินก็เป็นต้นตอแห่งความชั่วทุกอย่าง บางคนที่เห็นแก่เงินก็ได้หลงออกไปจากความเชื่อแล้ว และระทมใจด้วยความทุกข์เป็นที่สุด

ต่อสู้อย่างดีที่สุดในด้านความเชื่อ

11 แต่ท่านเองเป็นคนของพระเจ้า จงหลีกเลี่ยงจากสิ่งเหล่านี้ และมุ่งมั่นในความชอบธรรม ในทางของพระเจ้า ความเชื่อ ความรัก ความมานะและความอ่อนโยน 12 จงต่อสู้ให้ดีที่สุดในด้านความเชื่อ จงยึดชีวิตอันเป็นนิรันดร์ที่พระเจ้าเรียกให้ท่านรับไว้ ซึ่งท่านก็ได้ให้คำยอมรับอย่างหนักแน่นว่าท่านเชื่อ ต่อหน้าพยานหลายคน 13 ข้าพเจ้ากำชับต่อหน้าพระเจ้าผู้ให้ชีวิตแก่ทุกสิ่ง และต่อหน้าพระเยซูคริสต์ผู้ให้คำยอมรับอย่างหนักแน่นต่อหน้าปอนทิอัสปีลาตในคำพยานของพระองค์ 14 ว่าให้ท่านรักษาคำสั่งไว้ อย่าให้ด่างพร้อย หรือเป็นที่ติเตียนได้จนกว่าพระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้าของเราจะปรากฏ 15 ซึ่งพระเจ้าจะแสดงให้ปรากฏตามเวลาอันเหมาะสม พระองค์ผู้ได้รับการสรรเสริญและสูงสุดแต่พระองค์เดียว กษัตริย์เหนือกษัตริย์ทั้งปวง และพระผู้เป็นเจ้าเหนือเจ้าทั้งปวง 16 พระองค์เพียงพระองค์เดียวที่เป็นอมตะ และดำรงชีวิตในความสว่างซึ่งไม่มีใครเข้าใกล้ได้ ผู้ซึ่งไม่มีใครเคยเห็นหรือจะเห็นได้ พระเกียรติและฤทธานุภาพจงมีแด่พระองค์นิรันดร์กาล อาเมน

17 จงกำชับพวกที่ร่ำรวยในยุคปัจจุบันไม่ให้หยิ่งผยอง หรือหวังในความมั่งมี อันเป็นสิ่งที่เอาแน่ไม่ได้ แต่ให้เขาตั้งความหวังในพระเจ้าผู้จัดหาทุกสิ่งให้เราเพื่อความสุขใจ 18 จงกำชับให้พวกเขาทำดี ให้พรั่งพร้อมด้วยการกระทำความดี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ และพร้อมเสมอที่จะแบ่งปัน 19 การกระทำเช่นนี้พวกเขาจะสะสมทรัพย์สมบัติให้ตนเองดั่งรากฐานอันมั่นคงสำหรับยุคที่จะมาถึง เพื่อว่าพวกเขาจะได้ยึดไว้ซึ่งชีวิตอันแท้จริง

ลูกา 16:19-31

อุปมาเรื่องชายผู้มั่งมีกับลาซารัส

19 ครั้งหนึ่งมีคนมั่งมีผู้หนึ่งนุ่งห่มด้วยผ้าสีม่วงและผ้าป่านเนื้อดีและใช้ชีวิตอย่างหรูหราทุกวัน 20 ส่วนลาซารัสเป็นชายขอทานที่มีแผลเต็มตัว ได้มานอนอยู่ที่หน้าประตูบ้านของคนมั่งมี 21 เขามักจะคอยกินเศษอาหารที่ตกจากโต๊ะของคนมั่งมี แม้แต่พวกสุนัขก็ยังมาเลียแผลของเขา 22 เมื่อชายขอทานตายลง บรรดาทูตสวรรค์มารับเขาไปอยู่ใกล้ทรวงอกของอับราฮัม คนมั่งมีก็ตายเช่นกันและถูกฝัง 23 เขาอยู่ในแดนคนตายซึ่งเต็มด้วยความทุกข์ทรมาน เมื่อเขาแหงนหน้าขึ้นเห็นอับราฮัมอยู่ไกลๆ โดยมีลาซารัสอยู่ข้างๆ 24 เขาจึงร้องเรียกว่า ‘คุณพ่ออับราฮัม โปรดสงสารข้าพเจ้าด้วย ช่วยส่งลาซารัสมาหยดน้ำจากปลายนิ้วสู่ลิ้นของข้าพเจ้าให้เย็นชุ่มหน่อย ข้าพเจ้าทรมานเหลือเกินที่อยู่ท่ามกลางไฟนรกเช่นนี้’ 25 แต่อับราฮัมตอบว่า ‘ลูกเอ๋ย จำไว้ด้วยว่าในชีวิตของเจ้า เจ้าได้รับความสบาย ขณะที่ลาซารัสได้รับสิ่งตรงกันข้าม ขณะนี้ ณ ที่นี้เขาได้รับความสำราญ และเจ้าทนทุกข์ทรมาน 26 และนอกจากสิ่งเหล่านี้แล้ว ยังมีเหวลึกซึ่งกั้นระหว่างเราและเจ้า ผู้ที่ปรารถนาจะข้ามจากที่นี่ไปหาเจ้าก็มิอาจทำได้ และใครจะข้ามจากที่โน่นมาหาเราก็มิอาจทำได้’ 27 เขาจึงตอบว่า ‘ถ้าเช่นนั้นข้าพเจ้าขอร้องท่าน คุณพ่ออับราฮัมช่วยส่งลาซารัสไปยังบ้านคุณพ่อของข้าพเจ้าเถิด 28 เพื่อตักเตือนน้องชายอีก 5 คน พวกเขาจะได้ไม่ต้องมาทรมานในที่นี้ด้วย’ 29 อับราฮัมตอบว่า ‘คนพวกนั้นมีโมเสสและเหล่าผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้า จงให้น้องๆ ของเจ้าฟังพวกเขาเถิด’ 30 เขาพูดว่า ‘อย่าเลย คุณพ่ออับราฮัม ถ้าคนที่ตายแล้วไปบอกพวกเขา เขาจะได้กลับใจ’ 31 อับราฮัมตอบว่า ‘ถ้าเขาไม่ฟังโมเสสและเหล่าผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้า แม้จะมีผู้ฟื้นคืนชีวิตจากความตาย เขาก็จะไม่มีวันเชื่อ’”

New Thai Version (NTV-BIBLE)

Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation