Revised Common Lectionary (Complementary)
สัจจะของกษัตริย์
เพลงสดุดีของดาวิด
1 ข้าพเจ้าจะร้องเพลงถึงความรักอันมั่นคงและความเป็นธรรม
โอ พระผู้เป็นเจ้า ข้าพเจ้าจะบรรเลงเพลงถวายแด่พระองค์
2 ข้าพเจ้าจะใส่ใจในวิถีทางแห่งสัจจะ
เมื่อใดเล่าพระองค์จึงจะมาเยือนข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าใช้สัจจะเป็นเครื่องดำเนินชีวิต
ภายในเรือนของข้าพเจ้า
3 ข้าพเจ้าจะไม่ข้องแวะกับสิ่งเลวใดๆ
ข้าพเจ้าเกลียดการกระทำความชั่วของคน
และข้าพเจ้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย
4 ข้าพเจ้าอยู่ห่างจากคนมีใจลวงหลอก
ข้าพเจ้าไม่รู้อะไรเกี่ยวกับสิ่งเลวร้าย
5 ใครก็ตามที่แอบว่าร้ายเพื่อนบ้านของตน
ข้าพเจ้าก็จะไม่ไว้ชีวิตเขา
ข้าพเจ้าจะไม่ยอมทนกับคน
ที่มีสายตาหยิ่งจองหองและมีใจยโส
6 ข้าพเจ้าหมายตาคนภักดีในแผ่นดิน
เพื่อให้เขาอาศัยอยู่กับข้าพเจ้า
คนที่ดำเนินชีวิตโดยปราศจากข้อตำหนิ
จะปรนนิบัติข้าพเจ้า
7 ไม่มีคนพูดเท็จคนใดจะอาศัยในเรือนของข้าพเจ้าได้
คนโป้ปดไม่มีวันยืนอยู่ต่อหน้าข้าพเจ้าได้นาน
8 ทุกๆ เช้า ข้าพเจ้าไม่ไว้ชีวิตคนชั่วร้ายทั้งปวง
ในแผ่นดิน
ข้าพเจ้าจะกำจัดบรรดาคนทำชั่ว
ให้ไปเสียจากเมืองของพระผู้เป็นเจ้า[a]
การตั้งรกรากที่สะมาเรีย
24 กษัตริย์แห่งอัสซีเรียให้ประชาชนจากบาบิโลน คูธาห์ อัฟวา ฮามัท และเสฟาร์วาอิม มาอยู่ในเมืองต่างๆ ที่แคว้นสะมาเรียแทนประชาชนอิสราเอล คนเหล่านั้นจึงถือสิทธิ์เป็นเจ้าของทุกสิ่งในแคว้นสะมาเรีย และตั้งรกรากอยู่ที่นั่น 25 ในระยะแรกที่อาศัยอยู่ที่นั่น พวกเขาไม่เกรงกลัวพระผู้เป็นเจ้า ฉะนั้นพระผู้เป็นเจ้าส่งสิงโตเข้าไปท่ามกลางพวกเขา และบางคนถูกสิงโตขย้ำตาย 26 กษัตริย์แห่งอัสซีเรียรับทราบมาว่า “บรรดาประชาชาติที่ท่านเนรเทศให้ไปอยู่ในแคว้นสะมาเรียไม่รู้กฎของพระเจ้าของแผ่นดิน พระองค์จึงได้ให้สิงโตเข้าไปท่ามกลางพวกเขา ดูเถิด สิงโตขย้ำพวกเขาตายก็เพราะพวกเขาไม่รู้กฎของพระเจ้าของแผ่นดิน” 27 กษัตริย์แห่งอัสซีเรียจึงสั่งว่า “จงส่งปุโรหิตคนหนึ่งที่ถูกเนรเทศมา ให้เขาไปจากสะมาเรีย และกลับไปอาศัยอยู่ที่นั่น เพื่อสอนกฎของพระเจ้าของแผ่นดินแก่ประชาชน” 28 ดังนั้นปุโรหิตคนหนึ่งที่พวกเขาเนรเทศก็ไปจากสะมาเรีย และกลับมาอยู่ที่เบธเอล เพื่อสอนประชาชนว่าพวกเขาควรเกรงกลัวพระผู้เป็นเจ้าอย่างไร
29 แต่ประชาชาติแต่ละชาติก็ยังสร้างรูปปั้นเทพเจ้าของตนเอง และตั้งไว้ในวิหารบนภูเขาสูงที่ชาวสะมาเรียได้สร้างไว้ก่อนแล้ว ประชาชาติแต่ละชาติสร้างรูปเคารพในเมืองที่ตนอาศัยอยู่ 30 ชาวบาบิโลนสร้างรูปเทพเจ้าสุคคทเบโนท ชาวคูธสร้างรูปเทพเจ้าเนอร์กัล ชาวฮามัทสร้างรูปเทพเจ้าอาชิมา 31 ชาวอัฟวาสร้างรูปเทพเจ้านิบหัสและทาร์ทัก และชาวเสฟาร์วาอิมเผาบุตรของตนเป็นของถวายแก่เทพเจ้าอัดรัมเมเลคและอานัมเมเลค ซึ่งเป็นเทพเจ้าของชาวเสฟาร์วาอิม 32 ประชาชนเกรงกลัวพระผู้เป็นเจ้า แต่ก็ยังเลือกบางคนในพวกเขาเองให้เป็นปุโรหิตประจำสถานบูชาบนภูเขาสูง ให้ถวายเครื่องสักการะเพื่อพวกเขาในวิหารบนภูเขาสูง 33 พวกเขาเกรงกลัวพระผู้เป็นเจ้า แต่ก็ยังนมัสการปวงเทพเจ้าของตน ทำตามแบบอย่างของบรรดาประชาชาติที่พวกเขาเคยอยู่ด้วยก่อนหน้านี้
34 ทุกวันนี้ พวกเขาก็ปฏิบัติเช่นเคย คือไม่เกรงกลัวพระผู้เป็นเจ้าจริงๆ และไม่รักษากฎเกณฑ์ คำบัญชา กฎบัญญัติ หรือพระบัญญัติ ที่พระผู้เป็นเจ้าบัญชาบรรดาบุตรของยาโคบผู้ที่พระองค์ตั้งชื่อว่า อิสราเอล 35 พระผู้เป็นเจ้าทำพันธสัญญากับพวกเขา และบัญชาว่า “อย่าเกรงกลัวบรรดาเทพเจ้า หรือก้มกราบและบูชา หรือมอบเครื่องสักการะให้แก่สิ่งเหล่านั้น 36 แต่เจ้าจงเกรงกลัวพระผู้เป็นเจ้า ผู้นำเจ้าออกมาจากแผ่นดินอียิปต์ด้วยฤทธานุภาพอันยิ่งใหญ่และพลานุภาพ เจ้าจงก้มกราบพระองค์ และจงมอบเครื่องสักการะแด่พระองค์ 37 กฎเกณฑ์ คำบัญชา กฎบัญญัติ และบัญญัติที่เราเขียนให้แก่พวกเจ้า เจ้าก็จงระมัดระวังปฏิบัติตามเสมอ อย่าเกรงกลัวบรรดาเทพเจ้า 38 อย่าลืมพันธสัญญาที่เราได้ทำไว้กับเจ้า อย่าเกรงกลัวบรรดาเทพเจ้า 39 แต่เจ้าจงเกรงกลัวพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเจ้า และเราจะช่วยเจ้าให้พ้นจากมือของศัตรูทั้งปวง”[a] 40 แต่พวกเขาก็ไม่ฟัง และยังคงดื้อดึงปฏิบัติเหมือนเดิม
41 ประชาชาติเหล่านี้เกรงกลัวพระผู้เป็นเจ้า และบูชารูปเคารพสลัก ทั้งลูกและหลานของพวกเขาก็กระทำเช่นเดียวกัน เหมือนกับที่บรรพบุรุษปฏิบัติ พวกเขาปฏิบัติเช่นนั้นมาจนถึงทุกวันนี้
14 ข้าพเจ้าหวังว่าจะมาหาท่านในไม่ช้านี้ แต่ที่เขียนสิ่งเหล่านี้ถึงท่านก็เพื่อว่า 15 ในกรณีที่ข้าพเจ้ามาช้า ท่านจะได้ทราบว่า ควรจะปฏิบัติตนอย่างไรในครอบครัวของพระเจ้า อันเป็นคริสตจักรของพระเจ้าผู้ดำรงอยู่ อีกทั้งเป็นหลักค้ำและเป็นรากฐานแห่งความจริง 16 ไม่มีใครปฏิเสธได้ว่า ความลึกลับซับซ้อนในทางของพระเจ้ายิ่งใหญ่คือ
พระองค์ได้ปรากฏเป็นมนุษย์
พระวิญญาณเห็นว่าพระองค์มีความชอบธรรม
เหล่าทูตสวรรค์ได้เห็นพระองค์แล้ว
และบรรดาประชาชาติได้ยินการประกาศเกี่ยวกับพระองค์
คนทั่วโลกเชื่อในพระองค์
และพระองค์ถูกรับขึ้นสู่พระบารมี
เปาโลแนะนำทิโมธี
4 พระวิญญาณกล่าวอย่างชัดเจนว่า ในวาระสุดท้ายจะมีบางคนที่ละทิ้งความเชื่อ และหันไปติดตามพวกวิญญาณที่ล่อลวงและสิ่งที่พวกมารสอน 2 การสั่งสอนเช่นนั้นมาจากคนหน้าไหว้หลังหลอกและมดเท็จ โดยมีมโนธรรมที่ด้านกระด้างดังถูกเหล็กร้อนจี้แล้ว 3 พวกเขาห้ามไม่ให้แต่งงาน และห้ามรับประทานอาหารบางชนิด ซึ่งพระเจ้าได้สร้างไว้สำหรับคนที่เชื่อและทราบความจริงได้บริโภคด้วยใจขอบคุณ 4 เพราะว่าทุกสิ่งที่พระเจ้าสร้างเป็นสิ่งดี และเราไม่ควรปฏิเสธสิ่งใดเลยถ้าเรารับด้วยความขอบคุณ 5 เพราะสิ่งเหล่านั้นถูกชำระให้บริสุทธิ์โดยคำกล่าวของพระเจ้าและคำอธิษฐานแล้ว
Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation