Revised Common Lectionary (Complementary)
สิ่งดีทั้งปวงมาจากพระเจ้า
บทเพลงบรรเลงในขบวนแห่ขณะเคลื่อนขึ้นสู่เนินเขา ของซาโลมอน
1 ถ้าพระผู้เป็นเจ้าไม่ได้เป็นผู้สร้างบ้าน
ผลงานของพวกช่างก่อสร้างก็ไร้ประโยชน์
ถ้าพระผู้เป็นเจ้าไม่ได้เฝ้ารักษาเมืองไว้
ผู้เฝ้ายามก็ตื่นอยู่โดยเปล่าประโยชน์
2 ไม่เกิดประโยชน์อันใดเลยถ้าท่านตื่นขึ้นแต่เช้าตรู่
และนอนดึก
เพื่อตรากตรำหาอาหารเลี้ยงตนเอง
เพราะพระองค์ให้บรรดาผู้ที่พระองค์รักได้หลับพักผ่อน
3 ดูเถิด บุตรทั้งหลายเป็นของประทานจากพระผู้เป็นเจ้า
ผลจากครรภ์เป็นรางวัลจากพระองค์
4 บรรดาบุตรชายของคนวัยหนุ่ม
เป็นเสมือนลูกธนูในมือของนักรบ
5 คนที่มีลูกธนูเต็มแล่งก็เป็นสุข
เขาจะไม่พบความปราชัย
ในยามปะทะคารมกับศัตรูของเขาที่ประตูเมือง
จากผงธุลีกลับไปเป็นผงธุลี
16 ยิ่งกว่านั้นอีก ข้าพเจ้าเห็นว่าในโลกนี้มีความชั่วร้ายอยู่ในที่ซึ่งมีความเที่ยงธรรม และแม้ในที่ซึ่งมีความชอบธรรม ก็ยังมีความชั่วร้ายปนอยู่ด้วย 17 ข้าพเจ้าคิดในใจว่า พระเจ้าจะตัดสินทั้งคนที่มีความชอบธรรมและคนชั่ว เพราะว่าพระองค์ได้ตั้งเวลาไว้สำหรับทุกเรื่องและงานทุกอย่าง 18 ข้าพเจ้านึกในใจเรื่องบรรดาบุตรของมนุษย์ว่า พระเจ้ากำลังทดสอบพวกเขา เพื่อให้รู้ว่าพวกเขาไม่ดีไปกว่าสัตว์ทั้งหลาย 19 เพราะว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับบรรดาบุตรของมนุษย์และบรรดาสัตว์ ต่างก็เหมือนกัน มนุษย์ตายไป สัตว์ก็ตายเหมือนกัน ต่างก็มีลมหายใจเหมือนกัน และมนุษย์ไม่มีอะไรเหนือไปกว่าสัตว์ เพราะทุกสิ่งไร้ค่า 20 ทุกสิ่งจบลงสู่ที่เดียวกัน ต่างมาจากธุลีดินและต่างก็กลับลงสู่ธุลีดินอีก 21 ใครจะทราบได้ว่าวิญญาณมนุษย์ขึ้นไปสู่เบื้องบน และวิญญาณสัตว์ลงไปสู่โลกเบื้องล่าง 22 ข้าพเจ้าจึงเห็นว่า ไม่มีสิ่งใดดีไปกว่าที่มนุษย์จะมีความสุขกับการงานของตนเอง เพราะนั่นเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเขา ใครจะสามารถทำให้เขาล่วงรู้ได้ว่า อะไรจะเกิดขึ้นหลังจากที่เขาตายไปแล้ว
ความชั่วในโลกนี้
4 ข้าพเจ้าเห็นการบีบบังคับทุกประการที่กระทำกันในโลกนี้ ดูเถิด น้ำตาของผู้ถูกบีบบังคับ และไม่มีใครปลอบใจพวกเขา ฝ่ายผู้บีบบังคับก็มีอำนาจ จึงไม่มีใครปลอบใจพวกเขาได้ 2 และข้าพเจ้ายินดีกับคนตายที่ล่วงลับไปแล้ว มากกว่าคนที่ยังมีชีวิตอยู่ 3 แต่ที่ดีกว่าทั้งสองคือ คนที่ยังไม่ได้เกิดมา และยังไม่เคยเห็นความชั่วที่กระทำกันในโลกนี้
4 และข้าพเจ้าก็เห็นแล้วว่า การลงแรงตรากตรำและความชำนาญงานทุกชนิดเกิดขึ้นจากที่มนุษย์อิจฉาเพื่อนบ้านของตน นี่ก็เป็นสิ่งไร้ค่า และเป็นการไล่คว้าลม
5 คนโง่เขลาวางมือพักด้วยความเกียจคร้าน และประสบกับความหายนะ
6 การที่มีอย่างพอควร ดีกว่ามีอย่างล้นเหลือที่ได้จากการตรากตรำเกินกำลัง และไล่คว้าลม
7 ความไร้ค่าในโลกนี้ที่ข้าพเจ้าเห็นอีกก็คือ 8 ชายผู้หนึ่งไม่มีใครในชีวิต ไม่มีแม้บุตรชายหรือพี่น้อง แม้กระนั้นเขายังลงแรงตรากตรำสารพัดอย่างไม่หยุดหย่อน ความมั่งมีในสายตาของเขาไม่เคยพอ ฉะนั้นเขาไม่เคยถามว่า “ฉันจะลงแรงตรากตรำ และไม่ยอมหาความสุขใส่ตัวเพื่อใครกัน” นี่ก็เป็นเรื่องไร้ค่าและไร้ความสุข
2 จงอุทิศตนในการอธิษฐานและระวังระไวให้ดี และมีใจขอบคุณพระเจ้า 3 และเมื่อท่านอธิษฐาน จงอธิษฐานเพื่อพวกเราด้วยว่า พระเจ้าจะเปิดโอกาสให้แก่คำประกาศของเรา เพื่อเราจะได้ประกาศความลึกลับซับซ้อนของพระคริสต์ อันเป็นเหตุให้ข้าพเจ้าถูกล่ามโซ่อยู่ 4 จงอธิษฐานว่า ข้าพเจ้าจะได้ประกาศอย่างชัดเจนตามที่ควรจะเป็น
5 จงปฏิบัติต่อคนภายนอกด้วยสติปัญญา โดยใช้ทุกโอกาสให้เกิดคุณประโยชน์ 6 ให้การสนทนาของท่านกอปรด้วยเมตตาคุณเสมอ อันเสมือนปรุงด้วยเกลือ เพื่อท่านจะได้ทราบว่า ควรจะตอบคำถามของทุกคนอย่างไร
Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation