Revised Common Lectionary (Complementary)
ใครบ้างจะอยู่ในที่บริสุทธิ์ของพระเจ้าได้
เพลงสดุดีของดาวิด
1 โอ พระผู้เป็นเจ้า ใครบ้างจะอยู่ในกระโจมที่พำนักของพระองค์ได้
ใครบ้างจะอาศัยอยู่บนภูเขาอันบริสุทธิ์ของพระองค์ได้
2 คนที่ดำเนินชีวิตโดยปราศจากข้อตำหนิใดๆ
เป็นคนที่ประพฤติด้วยความชอบธรรม
และพูดความจริงด้วยความจริงใจ
3 เป็นคนไม่ใช้ลิ้นกล่าวว่าร้าย
หรือกระทำสิ่งชั่วร้ายต่อเพื่อนของตน
และไม่ติเตียนเพื่อนบ้าน
4 เป็นผู้เหยียดหยามคนชั่ว
แต่ให้เกียรติคนที่เกรงกลัวพระผู้เป็นเจ้า
รักษาคำสาบานแม้จะเจ็บปวด
5 ให้คนยืมเงินโดยไม่คิดดอกเบี้ย
ไม่รับสินบนต่อต้านผู้ไร้ความผิด
คนที่กระทำตามนี้จะมั่นคงเสมอ
อับรามช่วยโลท
14 ในสมัยอัมราเฟลกษัตริย์แห่งชินาร์ อารีโอคกษัตริย์แห่งเอลลาสาร์ เคโดร์ลาโอเมอร์กษัตริย์แห่งเอลาม และทิดาลกษัตริย์แห่งโกยิม 2 กษัตริย์เหล่านี้ทำสงครามสู้รบกับเบ-รากษัตริย์เมืองโสโดม บิร์ชากษัตริย์เมืองโกโมราห์ ชินาบกษัตริย์เมืองอัดมาห์ เชเมเบอร์กษัตริย์เมืองเศโบยิม และกษัตริย์เมืองเบ-ลา (คือโศอาร์) 3 กษัตริย์ทั้งห้านี้ได้รวมทัพกัน ณ หุบเขาสิดดิม (คือทะเลเกลือ) 4 พวกเขารับใช้อยู่ภายใต้การควบคุมของเคโดร์ลาโอเมอร์เป็นเวลา 12 ปี และกลับขัดขืนในปีที่สิบสาม 5 ในปีที่สิบสี่ เคโดร์ลาโอเมอร์มากับบรรดากษัตริย์พันธมิตรรบชนะพวกเรฟา[a]ที่อัชทาโรทคาร์นาอิม ศูซที่ฮาม พวกเอมที่ชาเวห์-คีริยาทาอิม 6 และพวกโฮรีในเทือกเขาเสอีร์ ไปจนถึงเอลปารานบริเวณเขตแดนถิ่นทุรกันดาร 7 ครั้นแล้วพวกเขาก็หวนกลับมายังเอนมิชปัท (คือคาเดช) และมีชัยชนะเหนือดินแดนทั้งหมดของชาวอามาเลข และชาวอาโมร์ที่มีรกรากอยู่ที่ฮาซาโซนทามาร์
8 แล้วกษัตริย์เมืองโสโดม กษัตริย์เมืองโกโมราห์ กษัตริย์เมืองอัดมาห์ กษัตริย์เมืองเศโบยิม และกษัตริย์เมืองเบ-ลา (คือโศอาร์) พากันออกไปต่อสู้ ณ ที่หุบเขาสิดดิม 9 กับเคโดร์ลาโอเมอร์กษัตริย์แห่งเอลาม ทิดาลกษัตริย์แห่งโกยิม อัมราเฟลกษัตริย์แห่งชินาร์ และอารีโอคกษัตริย์แห่งเอลลาสาร์ กษัตริย์ทั้งสี่เข้าประจันกับกษัตริย์ทั้งห้า 10 ด้วยว่าหุบเขาสิดดิมประกอบด้วยบ่อยางมะตอยกระจายอยู่รายรอบ เมื่อบรรดากษัตริย์เมืองโสโดมและโกโมราห์หนีเตลิดไป จึงทำให้ตกลงในบ่อ และบ้างก็หนีเตลิดไปยังภูเขา 11 ดังนั้นฝ่ายศัตรูจึงริบทรัพย์สิ่งของทั้งหมดรวมทั้งเสบียงของชาวโสโดมและโกโมราห์ ก่อนจะเคลื่อนขบวนไป 12 โลทบุตรของน้องชายอับรามที่ตั้งรกรากอยู่ที่เมืองโสโดมก็ถูกจับตัวไปพร้อมด้วยทรัพย์สินของเขา
13 แต่กลับมีคนๆ หนึ่งหนีรอดมาได้ เขาจึงนำเรื่องไปบอกกับอับรามชาวฮีบรูผู้อาศัยอยู่ข้างสวนโอ๊กที่เป็นของมัมเรชาวอาโมร์ มัมเรกับญาติพี่น้องของเขาคือเอชโคล์และอาเนอร์เป็นพันธมิตรของอับราม 14 เมื่ออับรามได้ยินว่าญาติของตนถูกจับตัวไปเป็นเชลย จึงเลือกกองกำลังจากผู้ภักดีที่เกิดในบ้านของอับรามเองจำนวน 318 คน ติดตามไล่ล่าไปจนถึงเมืองดาน 15 ท่านแยกกองกำลังออกเป็นกลุ่มๆ โจมตีศัตรูในเวลากลางคืนจนพ่ายแพ้ไป และไล่ตามพวกเขาไปจนถึงโฮบาห์เหนือเมืองดามัสกัส 16 แล้วท่านก็ได้ขนทรัพย์สิ่งของทั้งหมดกลับคืนมาได้ พร้อมด้วยโลทญาติของตนรวมทั้งทรัพย์สินต่างๆ ของเขาด้วย รวมทั้งผู้หญิงและคนอื่นๆ
4 ขณะที่มหาชนจากเมืองต่างๆ มาชุมนุมกัน พระเยซูกล่าวเป็นอุปมาว่า 5 “ชาวไร่คนหนึ่งออกไปหว่านเมล็ดพืชของเขา ขณะที่เขากำลังหว่านเมล็ด บางเมล็ดตกลงตามทางแล้วก็ถูกเหยียบ พวกนกพากันจิกกินเสียหมด 6 บางเมล็ดตกลงบนหิน พองอกขึ้นแล้วต้นก็เหี่ยวแห้งไปเพราะขาดความชื้น 7 บางเมล็ดตกลงท่ามกลางไม้หนามที่เติบโตขึ้นและแย่งอาหารไปเสีย 8 บางเมล็ดที่ตกบนดินดี ก็ได้งอกขึ้นและเกิดผลเป็น 100 เท่าเพิ่มขึ้นจากที่ได้หว่านไว้” เมื่อพระองค์กล่าวจบแล้วก็ประกาศขึ้นว่า “ผู้ใดมีหูที่จะฟังก็จงฟังเถิด”
9 พวกสาวกของพระองค์ถามว่า คำอุปมานี้หมายความว่าอย่างไร 10 พระองค์กล่าวว่า “เราทำให้เจ้าเข้าใจถึงความลับของอาณาจักรของพระเจ้าแล้ว แต่สำหรับผู้อื่น เรากล่าวเป็นอุปมาเพื่อว่า ‘แม้ว่าขณะที่กำลังดู พวกเขาก็มองไม่เห็น แม้ว่าขณะที่กำลังได้ยิน พวกเขาก็ไม่เข้าใจ’[a]
Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation