Revised Common Lectionary (Complementary)
93 องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงครอบครองอยู่
พระองค์ทรงฉลองพระองค์ด้วยพระบารมี
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงฉลองพระองค์ด้วยพระบารมีและทรงเดชานุภาพ
แผ่นดินโลกได้รับการสถาปนาไว้มั่นคง
ไม่อาจคลอนแคลน
2 พระที่นั่งของพระองค์ได้รับการสถาปนาไว้ตั้งแต่ครั้งดึกดำบรรพ์
พระองค์ดำรงอยู่ตลอดนิรันดร์กาล
3 ท้องทะเลซัดขึ้น ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า
ห้วงสมุทรคึกคำราม
ท้องทะเลซัดคลื่นครึกโครม
4 พระองค์ทรงฤทธิ์เกริกไกรกว่าคลื่นคะนองในท้องทะเล
ทรงฤทธิ์เกริกไกรยิ่งกว่าความปั่นป่วนของทะเลคลั่ง
องค์พระผู้เป็นเจ้าเบื้องบนทรงฤทธิ์เกริกไกร
5 กฎเกณฑ์ของพระองค์ตั้งมั่นอยู่
ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าความบริสุทธิ์ศักดิ์สิทธิ์
ประดับประดาพระนิเวศของพระองค์เป็นนิตย์
กษัตริย์อาสาทำการปฏิรูป(A)
15 พระวิญญาณของพระเจ้าเสด็จลงมาเหนืออาซาริยาห์บุตรโอเดด 2 เขาจึงออกมาต้อนรับอาสาและทูลว่า “ฟังข้าพเจ้าเถิด อาสาและชนยูดาห์กับเบนยามินทั้งปวง องค์พระผู้เป็นเจ้าสถิตกับท่านทั้งหลายเมื่อท่านอยู่กับพระองค์ หากท่านแสวงหาพระองค์ ก็จะพบพระองค์ แต่หากท่านละทิ้งพระองค์ พระองค์ก็จะทรงละทิ้งท่าน 3 นานมาแล้วที่ในอิสราเอลไม่มีพระเจ้าเที่ยงแท้ ไม่มีปุโรหิตที่จะสอนและไม่มีบทบัญญัติ 4 แต่ในยามทุกข์ลำเค็ญ พวกเขาหันกลับมาหาพระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล พวกเขาแสวงหาพระองค์ แล้วก็ได้พบพระองค์ 5 ในครั้งนั้นการเดินทางไปไหนมาไหนก็ไม่ปลอดภัย เพราะคนที่อาศัยในดินแดนต่างๆ ตกอยู่ในสภาพโกลาหลวุ่นวายมาก 6 ชาตินี้ขยี้ชาตินั้น เมืองนี้รบกับเมืองนั้น เพราะพระเจ้าทรงให้ความทุกข์ร้อนต่างๆ นานารุมกระหน่ำพวกเขา 7 แต่ส่วนท่านจงเข้มแข็งและอย่ายอมแพ้เพราะผลงานของท่านจะได้รับบำเหน็จ”
8 เมื่ออาสาทรงสดับฟังถ้อยคำเหล่านี้และคำพยากรณ์ของผู้เผยพระวจนะอาซาริยาห์บุตรของโอเดด[a]ก็ทรงมีพระทัยเข้มแข็ง พระองค์ทรงกวาดล้างรูปเคารพอันน่าชิงชังออกจากทั่วดินแดนยูดาห์กับเบนยามิน และจากหัวเมืองต่างๆ ที่ทรงยึดมาได้ในแดนเทือกเขาแห่งเอฟราอิม พระองค์ทรงซ่อมแซมแท่นบูชาขององค์พระผู้เป็นเจ้าตรงหน้ามุขพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้า
9 จากนั้นพระองค์ทรงเรียกชาวยูดาห์และเบนยามินทั้งปวงกับผู้คนจากเอฟราอิม มนัสเสห์ และสิเมโอนผู้ได้มาตั้งถิ่นฐานท่ามกลางพวกเขามาชุมนุมกัน เพราะมีคนจำนวนมากจากฝ่ายอิสราเอลมาอยู่ฝ่ายพระองค์ เมื่อเห็นว่าพระยาห์เวห์พระเจ้าของพระองค์สถิตกับพระองค์
10 เขาทั้งปวงมาชุมนุมกันที่เยรูซาเล็มในเดือนที่สามของปีที่สิบห้าแห่งรัชกาลอาสา 11 ครั้งนั้นพวกเขาถวายวัวผู้เจ็ดร้อยตัวกับแกะและแพะเจ็ดพันตัวจากของเชลยที่พวกเขาได้นำกลับมาแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า 12 พวกเขาทำพันธสัญญาที่จะแสวงหาพระยาห์เวห์พระเจ้าของบรรพบุรุษด้วยสุดจิตสุดใจ 13 ทุกคนที่ไม่ยอมแสวงหาพระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลต้องถูกประหารไม่ว่าผู้ใหญ่หรือผู้น้อย ชายหรือหญิง 14 พวกเขาถวายปฏิญาณแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยเสียงโห่ร้องอันดัง ด้วยเสียงแตรและเสียงเขาสัตว์ดังกระหึ่ม 15 ชนยูดาห์ทั้งปวงชื่นชมยินดีในคำปฏิญาณนั้นเพราะพวกเขาได้ทำด้วยสุดหัวใจ เขาแสวงหาพระเจ้าอย่างกระตือรือร้นและได้พบพระองค์ ฉะนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงโปรดให้พวกเขาพักสงบทุกด้าน
15 ทูตสวรรค์องค์ที่พูดกับข้าพเจ้าถือไม้วัดทองคำเพื่อวัดขนาดของนครนั้นและประตูกับกำแพง 16 นครนั้นรูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสกว้างยาวเท่ากัน เขาเอาไม้วัดระยะนครนั้นได้ 12,000 ซทาดิออน[a] ความกว้างความสูงเท่ากับความยาว 17 เขาวัดความหนา[b]ของกำแพงได้ 144 ศอก[c]ตามมาตราวัดของมนุษย์ซึ่งทูตสวรรค์ใช้ 18 กำแพงก่อด้วยโมรา ส่วนนครนั้นสร้างจากทองคำบริสุทธิ์ สุกใสดั่งแก้ว 19 ฐานรากของกำแพงประดับด้วยอัญมณีล้ำค่านานาชนิด ฐานที่หนึ่งคือโมรา ฐานที่สองคือพลอยสีน้ำเงิน ฐานที่สามคือพลอยสีเขียว ฐานที่สี่คือมรกต 20 ฐานที่ห้าคือโกเมน ฐานที่หกคือพลอยหลากสี ฐานที่เจ็ดคือพลอยสีเขียวเหลือง ฐานที่แปดคือพลอยสีน้ำเงินเขียว ฐานที่เก้าคือบุษราคัม ฐานที่สิบคือหยก ฐานที่สิบเอ็ดคือพลอยสีแดงส้ม ฐานที่สิบสองคือพลอยสีม่วง[d] 21 ประตูทั้งสิบสองทำด้วยไข่มุกขนาดใหญ่ประตูละเม็ด ถนนในเมืองทำด้วยทองคำเนื้อดีสุกปลั่งดั่งแก้วใส
22 ข้าพเจ้าไม่เห็นพระวิหารในนครนี้เลยเพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์และพระเมษโปดกคือวิหารแห่งนคร
Thai New Contemporary Bible Copyright © 1999, 2001, 2007 by Biblica, Inc.® Used by permission. All rights reserved worldwide.