Revised Common Lectionary (Complementary)
9 พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะทำให้ท่านเจริญรุ่งเรืองอย่างเต็มที่ในทุกสิ่งที่ท่านทำ ท่านจะมีลูกดก ฝูงสัตว์ของท่านจะออกลูกมากมาย และที่ดินของท่านจะผลิตพืชผลมากมาย เพราะพระยาห์เวห์ยินดีที่จะทำให้ท่านเจริญรุ่งเรืองอีก เหมือนที่พระองค์เคยยินดีที่ทำให้บรรพบุรุษของท่านเจริญรุ่งเรืองมาแล้ว 10 เมื่อท่านเชื่อฟังพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านโดยรักษาบัญญัติ กฎของพระองค์ที่เขียนไว้ในหนังสือคำสอนนี้ เมื่อท่านกลับมาหาพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านด้วยสุดใจสุดจิตของท่าน
ชีวิตหรือความตาย
11 แน่นอน คำสั่งนี้ที่เรากำลังสั่งท่านในวันนี้ ไม่ยากเกินกว่าที่ท่านจะเข้าใจได้ มันไม่ไกลเกินกว่าที่จะคว้าได้ 12 คำสั่งนี้ไม่ได้อยู่ในสวรรค์ จนท่านต้องพูดว่า ‘ใครจะขึ้นไปบนสวรรค์ เอามันลงมาให้เรา เพื่อเราจะได้ฟังและทำตามมันล่ะ’ 13 และคำสั่งนี้ก็ไม่ได้อยู่อีกฝั่งของทะเลจนท่านต้องพูดว่า ‘ใครจะข้ามทะเลไปถึงอีกฝั่ง เอามันกลับมาให้เรา เพื่อเราจะได้ฟังและทำตามมันล่ะ’ 14 เพราะคำนี้อยู่ใกล้ท่านมาก มันอยู่ที่ริมฝีปากและอยู่ในใจท่าน ท่านถึงทำตามมันได้
อธิษฐานขอให้พระยาห์เวห์นำและคุ้มครอง
[a] เพลงสดุดีของดาวิด
25 ข้าแต่พระยาห์เวห์
ข้าพเจ้ายกจิตใจของข้าพเจ้าให้กับพระองค์
2 พระเจ้าของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าไว้วางใจในพระองค์
ขออย่าให้ข้าพเจ้าอับอายขายหน้า
ขออย่าให้พวกศัตรูเฉลิมฉลองความพ่ายแพ้ของข้าพเจ้า
3 ทุกคนที่ฝากความหวังไว้กับพระองค์จะไม่อับอายขายหน้าอย่างแน่นอน
แต่พวกที่ทรยศจะต้องอับอายขายหน้าและจะไม่ได้อะไรจากการทรยศนั้น
4 ข้าแต่พระยาห์เวห์ โปรดให้ข้าพเจ้าเห็นหนทางต่างๆของพระองค์
โปรดสอนเส้นทางต่างๆของพระองค์ให้กับข้าพเจ้า
5 โปรดนำข้าพเจ้าตามทางแห่งความจริงของพระองค์และสอนข้าพเจ้า[b]
เพราะพระองค์คือพระเจ้าผู้ช่วยให้รอดของข้าพเจ้า
และข้าพเจ้าฝากความหวังไว้กับพระองค์วันยังค่ำ
6 ข้าแต่พระยาห์เวห์ โปรดนึกถึงความเมตตากรุณา
และความรักมั่นคงของพระองค์ที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว
7 โปรดอย่านึกถึงความบาปและความผิดทั้งหลายที่ข้าพเจ้าทำในวัยหนุ่ม
ข้าแต่พระยาห์เวห์โปรดนึกถึงข้าพเจ้าตามความรักมั่นคงของพระองค์
เพราะพระองค์นั้นดี
8 พระยาห์เวห์นั้นช่างดีและสัตย์ซื่อ
พระองค์จึงสั่งสอนทางที่ถูกต้องให้กับพวกคนบาป
9 พระองค์นำคนถ่อมสุภาพให้ทำสิ่งที่ถูกต้องยุติธรรม
พระองค์สอนทางของพระองค์ให้กับคนถ่อมสุภาพ
10 พระยาห์เวห์ทำทุกสิ่งด้วยความรักและความสัตย์ซื่อต่อคนเหล่านั้น
ที่รักษาคำมั่นสัญญาของพระองค์และทำตามกฎต่างๆของพระองค์
1 จากเปาโล ที่เป็นศิษย์เอกของพระเยซูคริสต์ ตามใจของพระเจ้า และจากทิโมธีพี่น้องของเรา
2 ถึงคนที่เป็นของพระเจ้าในเมืองโคโลสี ซึ่งเป็นพี่น้องที่ซื่อสัตย์ในพระคริสต์ ขอพระเจ้าพระบิดาของเราให้ความเมตตากรุณาและสันติสุขกับคุณ
3 พวกเราขอบคุณพระเจ้า พระบิดาของพระเยซูคริสต์เจ้าของเราเสมอ เมื่อเราอธิษฐานเผื่อคุณ 4 เพราะเราได้ยินเรื่องความไว้วางใจที่คุณมีในพระเยซูคริสต์ และได้ยินเรื่องความรักที่คุณมีต่อคนที่เป็นของพระเจ้าทุกคน 5 ความไว้วางใจและความรักนี้ เกิดมาจากความหวังที่เก็บไว้สำหรับพวกคุณในสวรรค์ ความหวังนี้พวกคุณได้ยินมาก่อนแล้วในถ้อยคำแห่งความจริง ซึ่งก็หมายถึงข่าวดีนั้น 6 ที่มาถึงพวกคุณแล้ว ข่าวดีนี้กำลังเกิดผลและขยายไปทั่วโลกเหมือนกับที่กำลังเกิดผลในหมู่พวกคุณ นับตั้งแต่วันแรกที่คุณได้ยิน และเข้าใจถึงความจริงทั้งหมดเกี่ยวกับความเมตตากรุณาของพระเจ้า 7 คุณได้เรียนรู้เรื่องนี้จากเอปาฟรัสเพื่อนที่เป็นทาสของพระคริสต์ด้วยกันกับเรา เรารักเขามาก เขาก็เป็นผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ของพระคริสต์ เพื่อประโยชน์ต่อพวกคุณ 8 เขามาบอกพวกเราให้รู้ถึงความรักที่คุณมีผ่านทางพระวิญญาณ
9 เพราะอย่างนี้ เราถึงไม่เคยหยุดอธิษฐานให้พวกคุณเลย นับตั้งแต่วันแรกที่เราได้ยินเรื่องของพวกคุณ
เราขอให้พระเจ้าเติมพวกคุณให้เต็มไปด้วยความรู้ถึงความต้องการของพระองค์คือให้มีความเฉลียวฉลาดทุกอย่าง และมีความเข้าใจที่มาจากพระวิญญาณด้วย 10 เราอธิษฐานอย่างนี้ เพื่อคุณจะใช้ชีวิตให้สมกับเป็นคนขององค์เจ้าชีวิต แล้วจะได้เอาใจพระองค์ในทุกเรื่อง คือเกิดผลในการทำดีทุกอย่าง และรู้จักพระเจ้ามากขึ้น 11 ให้เข้มแข็งขึ้นด้วยพลังอำนาจทั้งสิ้นที่มาจากฤทธิ์อำนาจมหาศาลของพระองค์ เพื่อคุณจะได้บากบั่นมานะและทรหดอดทน
12 พวกคุณจะได้ขอบคุณพระบิดาด้วยความชื่นชมยินดี พระบิดาได้ทำให้คุณเหมาะสมที่จะได้รับส่วนแบ่งในมรดกซึ่งอยู่ในอาณาจักรที่สว่างไสวร่วมกับคนที่เป็นของพระเจ้า 13 พระเจ้าได้ช่วยชีวิตเราให้พ้นจากอาณาจักรของความมืด และนำเราเข้าไปอยู่ในอาณาจักรของพระบุตร ซึ่งก็คือพระบุตรที่พระเจ้ารัก 14 พระองค์ได้ปลดปล่อยเราให้เป็นอิสระและอภัยบาปต่างๆของเราด้วย
ชาวสะมาเรียใจดี
25 มีคนที่เก่งกฎของโมเสสคนหนึ่ง ลุกขึ้นทดสอบพระเยซู เขาถามว่า “อาจารย์ครับ ผมจะต้องทำยังไงถึงจะมีชีวิตอยู่กับพระเจ้าตลอดไป”
26 พระเยซูตอบว่า “กฎเขียนไว้ว่าอะไร แล้วคุณตีความว่ายังไง”
27 เขาก็ตอบว่า “ให้รักองค์เจ้าชีวิตพระเจ้าของคุณ ด้วยสุดใจ สุดจิต สุดกำลัง และสุดความคิด(A) และให้รักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง”(B)
28 พระเยซูพูดว่า “ถูกต้องแล้ว ไปทำตามนั้นเถอะ แล้วจะมีชีวิตอยู่กับพระเจ้าตลอดไป”
29 แต่เขาอยากจะอวดว่า เขาทำถูกแล้วที่ถามคำถามอย่างนี้[a] เขาจึงถามต่อว่า “แล้วใครเป็นเพื่อนบ้านของผมล่ะครับ”
30 พระเยซูตอบว่า “มีชายคนหนึ่งเดินทางจากเมืองเยรูซาเล็มไปเมืองเยริโค ในระหว่างทางเขาถูกโจรปล้นและทำร้าย พวกโจรถอดเอาเสื้อผ้าเขาไป ทุบตีเขาแล้วหนีไป ทิ้งเขาให้นอนบาดเจ็บปางตายอยู่ที่นั่น 31 บังเอิญมีนักบวชคนหนึ่งเดินผ่านมาทางนั้นพอดี แต่พอเขาเห็นชายคนนั้นเขาก็หลีกข้ามไปเดินอีกฝั่งหนึ่ง 32 ผู้ช่วยในวิหารคนหนึ่งก็เหมือนกัน เมื่อเดินมาพบชายคนนั้น เขาก็หลีกเดินข้ามไปอีกฝั่งหนึ่งของถนน 33 แต่มีชาวสะมาเรียคนหนึ่งเดินผ่านมา เมื่อเห็นชายคนนั้น เขาก็สงสาร 34 รีบเข้าไปช่วย เอาเหล้าองุ่นและน้ำมันมะกอก[b] เทลงบนบาดแผล และพันผ้าไว้ แล้วก็ยกขึ้นหลังลาของเขา พาไปที่โรงแรม ดูแลพยาบาลเขา 35 วันต่อมาชาวสะมาเรียคนนี้ก็ให้เงินสองเหรียญกับเจ้าของโรงแรมและบอกว่า ‘ช่วยดูแลเขาให้ดีด้วยนะส่วนที่เกินจากนี้ ผมจะจ่ายคืนให้ตอนขากลับ’”
36 “คุณคิดว่า ในสามคนนี้ ใครทำตัวเป็นเพื่อนบ้านของชายที่ถูกโจรปล้นนี้”
37 คนที่เก่งกฎของโมเสสคนนี้ก็ตอบว่า “คนที่แสดงความเมตตากับเขานะสิครับ”
พระเยซูก็พูดกับเขาว่า “คุณก็ทำอย่างเขาบ้างสิ”
พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International