Revised Common Lectionary (Complementary)
ร้องเพลงสรรเสริญพระผู้เป็นเจ้า
1 มาเถิด เรามาเปล่งเสียงร้องด้วยความยินดีถวายแด่พระผู้เป็นเจ้ากันเถิด
เรามาส่งเสียงร้องอันรื่นเริงแด่ศิลาแห่งความรอดพ้นของเราเถิด
2 เราไปเข้าเฝ้าพระองค์เพื่อกล่าวขอบคุณพระองค์
เรามาร่วมเปล่งเสียงอันรื่นเริงถวายแด่พระองค์ด้วยบทเพลงสรรเสริญ
3 เพราะพระผู้เป็นเจ้าเป็นพระเจ้าผู้ใหญ่ยิ่ง
กษัตริย์ผู้ใหญ่ยิ่งเหนือเทพเจ้าทั้งปวง
4 ความลึกของแผ่นดินโลกอยู่ในมือของพระองค์
ความสูงของภูเขาก็เป็นของพระองค์เช่นกัน
5 ทะเลเป็นของพระองค์เพราะพระองค์สร้างมันขึ้นมา
และสร้างพื้นดินแห้งขึ้นด้วยมือของพระองค์เอง
6 มาเถิด เรามาก้มตัวลงราบกับพื้น
น้อมตัวลงเพื่อกราบนมัสการ ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้า ผู้สร้างพวกเรา
7 เพราะพระองค์เป็นพระเจ้าของเรา
และพวกเราเป็นชนชาติในทุ่งหญ้าของพระองค์
เป็นฝูงแกะภายใต้การดูแลของพระองค์
วันนี้ ถ้าพวกท่านได้ยินเสียงของพระองค์
มิคายาห์กล่าวคัดค้านอาหับ
13 ผู้ถือสาสน์เป็นคนที่ไปเรียกมิคายาห์ให้มา และบอกเขาว่า “ดูเถิด บรรดาผู้เผยคำกล่าวพูดกันเป็นเสียงเดียวถึงเรื่องของกษัตริย์ในทางที่ดีงาม” 14 แต่มิคายาห์พูดว่า “ตราบที่พระผู้เป็นเจ้ามีชีวิตอยู่ฉันใด พระผู้เป็นเจ้าบอกข้าพเจ้าอย่างไร ข้าพเจ้าก็จะพูดไปตามนั้น” 15 เมื่อเขามาเข้าเฝ้ากษัตริย์ กษัตริย์กล่าวกับเขาว่า “มิคายาห์ พวกเราควรจะไปโจมตีราโมทกิเลอาด หรือว่าเราควรจะยั้งไว้ก่อน” เขาตอบกษัตริย์ว่า “ขึ้นไปเถิด และท่านจะชนะ พระผู้เป็นเจ้าจะมอบเมืองนั้นไว้ในมือของกษัตริย์” 16 แต่กษัตริย์กล่าวกับเขาว่า “เราควรจะให้ท่านสาบานกี่ครั้งว่า ท่านพูดแต่ความจริงกับเราในพระนามของพระผู้เป็นเจ้า” 17 มิคายาห์จึงตอบว่า “ข้าพเจ้าเห็นทหารอิสราเอลทั้งปวงกระจัดกระจายอยู่บนภูเขา ประหนึ่งฝูงแกะที่ปราศจากผู้เลี้ยงดู และพระผู้เป็นเจ้ากล่าวว่า ‘คนเหล่านี้ขาดเจ้านาย ปล่อยให้ทุกคนกลับบ้านไปด้วยความปลอดภัยเถิด’” 18 และกษัตริย์แห่งอิสราเอลกล่าวกับเยโฮชาฟัทว่า “เราบอกท่านแล้วมิใช่หรือว่า เขาจะไม่ประกาศสิ่งดีใดๆ ที่พระเจ้าเปิดเผยให้ทราบ มีแต่เรื่องร้าย” 19 มิคายาห์กล่าวว่า “ฉะนั้นจงฟังคำของพระผู้เป็นเจ้าเถิด ข้าพเจ้าเห็นพระผู้เป็นเจ้าสถิตบนบัลลังก์ของพระองค์ และบรรดาชาวสวรรค์กำลังยืนอยู่ข้างพระองค์ ทั้งที่เบื้องขวาและเบื้องซ้าย 20 และพระผู้เป็นเจ้ากล่าวว่า ‘ใครจะหลอกล่ออาหับให้ไปยังราโมทกิเลอาด เขาจะได้จบชีวิตลงที่นั่น’ ทูตสวรรค์องค์หนึ่งพูดอย่างหนึ่ง และทูตสวรรค์อีกองค์ก็พูดอีกอย่าง 21 ครั้นแล้ว วิญญาณดวงหนึ่งก็มายืน ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้า และกล่าวว่า ‘ข้าพเจ้าจะไปหลอกล่ออาหับเอง’ 22 และพระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับวิญญาณว่า ‘ด้วยวิธีไหน’ วิญญาณตอบว่า ‘ข้าพเจ้าจะไปทำให้บรรดาผู้เผยคำกล่าวของอาหับพูดเท็จ’ พระผู้เป็นเจ้ากล่าวว่า ‘เจ้าจะไปหลอกล่อเขาได้สำเร็จ ไปทำตามนั้นเถิด’ 23 ดังนั้น ดูเถิด พระผู้เป็นเจ้าได้ทำให้บรรดาผู้เผยคำกล่าวของท่านพูดเท็จ เพราะว่าพระผู้เป็นเจ้าบอกล่วงหน้าว่าสิ่งเลวร้ายจะเกิดขึ้นกับท่าน”
ลูกแกะกับ 144,000 คน
14 ดูเถิด ข้าพเจ้าเห็นลูกแกะกำลังยืนอยู่บนภูเขาศิโยน มีคนจำนวน 144,000 คนอยู่กับพระองค์ เป็นบรรดาผู้ที่มีชื่อของพระองค์ และชื่อของพระบิดาของพระองค์เขียนไว้ที่หน้าผากของพวกเขา 2 และข้าพเจ้าได้ยินเสียงจากสวรรค์ดังกึกก้องประดุจเสียงน้ำตก และเหมือนเสียงฟ้าคำรามดังสนั่น เสียงที่ข้าพเจ้าได้ยินนั้นเหมือนกับเสียงของบรรดานักดีดพิณที่กำลังดีดพิณอยู่ 3 เขาเหล่านั้นได้ร้องเพลงบทใหม่อยู่ที่หน้าบัลลังก์ ตรงหน้าสิ่งมีชีวิตทั้งสี่และบรรดาผู้ใหญ่ ไม่มีผู้ใดสามารถเรียนรู้เพลงนั้นได้ยกเว้น 144,000 คนที่ได้รับการไถ่จากแผ่นดินโลก 4 คนเหล่านั้นเป็นบรรดาพรหมจรรย์ เพราะปราศจากมลทินจากสตรี ไม่ว่าลูกแกะไปทางไหนคนเหล่านั้นก็ติดตามไปด้วย พระองค์ได้ไถ่พวกเขาจากมวลมนุษย์เสมือนผลแรก[a]ที่ถวายแด่พระเจ้าและแด่ลูกแกะ 5 พวกเขาไม่เคยพูดปดเลย คือเป็นคนที่ไม่ถูกตำหนิ
ทูตสวรรค์ 3 องค์
6 และข้าพเจ้าเห็นทูตสวรรค์อีกองค์หนึ่งกำลังเหาะอยู่ในอากาศ มีข่าวประเสริฐอันเป็นนิรันดร์ที่จะประกาศแก่พวกที่อยู่บนแผ่นดินโลก แก่ทุกประเทศ ทุกเผ่า ทุกภาษา และทุกชนชาติ 7 ท่านประกาศด้วยเสียงอันดังว่า “จงเกรงกลัวพระเจ้าและถวายพระบารมีแด่พระองค์ เพราะถึงเวลาที่พระองค์จะพิพากษาแล้ว จงนมัสการพระองค์ผู้สร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก ทะเลและบ่อน้ำพุทั้งหลาย”
8 ทูตสวรรค์อีกองค์ที่เป็นองค์ที่สองซึ่งตามไป ได้พูดว่า “บาบิโลนเมืองอันยิ่งใหญ่ถล่มลงแล้ว ถล่มลงแล้ว เมืองที่ทำให้ประเทศทั้งหลายดื่มเหล้าองุ่นแห่งความใคร่ในการประพฤติผิดทางเพศของนาง”
9 ทูตสวรรค์อีกองค์ที่เป็นองค์ที่สามซึ่งตาม 2 องค์นั้นไป พลางพูดด้วยเสียงอันดังว่า “ถ้าผู้ใดนมัสการอสุรกายและรูปจำลองของตัวมัน และได้รับเครื่องหมายที่หน้าผากหรือที่มือของเขา 10 ผู้นั้นจะดื่มเหล้าองุ่นแห่งการลงโทษของพระเจ้าอย่างเข้มข้น ที่เทลงในถ้วยแห่งความกริ้วของพระองค์ และเขาจะถูกทรมานด้วยไฟและกำมะถัน ต่อหน้าบรรดาทูตสวรรค์ผู้บริสุทธิ์และต่อหน้าลูกแกะ 11 ควันแห่งการทรมานของเขาเหล่านั้นลอยขึ้นชั่วนิรันดร์กาล พวกที่นมัสการอสุรกายและรูปจำลองของตัวมัน และผู้ที่ได้รับเครื่องหมายอันเป็นชื่อของมัน จะไม่มีวันได้รับความบรรเทาทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน”
Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation