Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

Revised Common Lectionary (Complementary)

Daily Bible readings that follow the church liturgical year, with thematically matched Old and New Testament readings.
Duration: 1245 days
New Thai Version (NTV-BIBLE)
Version
1 พงศ์กษัตริย์ 3:5-12

พระผู้เป็นเจ้าปรากฏแก่ซาโลมอนในฝันยามค่ำที่กิเบโอน พระเจ้ากล่าวว่า “เจ้าอยากจะขอสิ่งใดจากเรา” ซาโลมอนตอบว่า “พระองค์ได้แสดงความรักอันยิ่งใหญ่และมั่นคงแก่ดาวิดผู้รับใช้ของพระองค์ บิดาของข้าพเจ้า เพราะว่าท่านดำเนินชีวิตด้วยความสัตย์ซื่อและความชอบธรรม ณ เบื้องหน้าพระองค์ และด้วยใจอันเที่ยงธรรมต่อพระองค์ และพระองค์ได้รักษาความรักอันมั่นคงและยิ่งใหญ่นี้ไว้ให้ท่าน และพระองค์ได้มอบบุตรให้ท่านคนหนึ่ง เพื่อนั่งครองบัลลังก์ในวันนี้ บัดนี้ โอ พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของข้าพเจ้า พระองค์ได้แต่งตั้งผู้รับใช้ของพระองค์ขึ้นเป็นกษัตริย์แทนดาวิดบิดาของข้าพเจ้า แม้ว่าข้าพเจ้าเป็นแต่เพียงเด็กเล็กๆ คนหนึ่งเท่านั้น ข้าพเจ้าไม่ทราบวิธีการเข้านอกออกใน และผู้รับใช้ของพระองค์อยู่ท่ามกลางประชาชนที่พระองค์เลือกไว้แล้ว เป็นชนชาติอันใหญ่ยิ่ง มีคนจำนวนมากจนนับไม่ถ้วน ฉะนั้น โปรดช่วยให้ผู้รับใช้ของพระองค์มีความคิดความเข้าใจเพื่อปกครองชนชาติของพระองค์ โปรดให้ข้าพเจ้ามีสติปัญญาสามารถแยกความแตกต่างระหว่างความดีและความชั่วได้อย่างชัดเจน ด้วยว่า มีใครบ้างที่มีความสามารถปกครองชนชาติอันใหญ่ยิ่งนี้ของพระองค์ได้”

10 พระผู้เป็นเจ้ายินดีมากที่ซาโลมอนขอเช่นนั้น 11 พระเจ้ากล่าวกับท่านว่า “เป็นเพราะเจ้าขอเช่นนี้ และไม่ได้ขอชีวิตยืนยาว ความมั่งคั่ง หรือชีวิตของศัตรูของเจ้า แต่ได้ขอความคิดความเข้าใจเพื่อจะได้หยั่งรู้ด้วยสติปัญญาว่า สิ่งไหนถูกต้อง 12 ดูเถิด บัดนี้เราโปรดให้เจ้าเรืองปัญญาและหยั่งรู้ในความนึกคิด ซึ่งไม่มีผู้ใดในอดีตเทียบเท่าเจ้าได้ และไม่มีผู้ใดจะมาเทียมเท่าเจ้าได้ในภายภาคหน้า

สดุดี 119:129-136

פ เผ

129 คำสั่งของพระองค์ช่างล้ำเลิศ
    ฉะนั้นข้าพเจ้าจึงปฏิบัติตาม
130 ขณะที่คำกล่าวของพระองค์ถูกเผยออกให้คนทราบ ความสว่างก็เกิดขึ้นกับเขา
    และแม้แต่คนเขลาก็เข้าใจได้
131 ข้าพเจ้ากระหายในพระบัญญัติของพระองค์ยิ่งนัก
    จนถึงกับปากอ้ากระหืดกระหอบ
132 โปรดหันมาทางข้าพเจ้า และเมตตาข้าพเจ้า
    อย่างที่พระองค์กระทำต่อบรรดาผู้ที่รักพระนามของพระองค์
133 ให้ข้าพเจ้าก้าวไปอย่างมั่นคงตามคำสัญญาของพระองค์
    และอย่าปล่อยให้อำนาจแห่งความชั่วใดๆ คุมข้าพเจ้าไว้
134 ช่วยข้าพเจ้าให้พ้นจากการบีบบังคับของมนุษย์
    ข้าพเจ้าจะได้ปฏิบัติตามข้อบังคับของพระองค์
135 โปรดหันหน้ามาทางผู้รับใช้ด้วยแสงอันรุ่งโรจน์ของพระองค์
    และโปรดสอนกฎเกณฑ์ของพระองค์แก่ข้าพเจ้าเถิด
136 น้ำตาไหลพรั่งพรูจากดวงตาของข้าพเจ้า
    เพราะผู้คนไม่ปฏิบัติตามกฎบัญญัติของพระองค์

โรม 8:26-39

26 ในวิธีเดียวกันคือ พระวิญญาณช่วยความอ่อนแอของเรา เพราะเราไม่ทราบว่าควรอธิษฐานอย่างไร แต่พระวิญญาณเองอธิษฐานขอให้เราด้วยการคร่ำครวญอันลึกซึ้งเกินกว่าที่จะกล่าวออกมาได้ 27 และพระองค์ผู้รู้เห็นถึงจิตใจทราบว่าพระวิญญาณคิดอย่างไร เพราะพระวิญญาณอธิษฐานขอให้บรรดาผู้บริสุทธิ์ของพระเจ้าตามความประสงค์ของพระเจ้า 28 และเราทราบว่า พระเจ้าช่วยให้ทุกสิ่งเป็นไปด้วยดีแก่บรรดาผู้ที่รักพระเจ้า คือบรรดาผู้ที่พระเจ้าได้เรียกตามความประสงค์ของพระองค์ 29 เพราะพระองค์ทราบพวกเขาดีมาแต่แรกแล้ว พระองค์จึงได้กำหนดพวกเขาไว้ล่วงหน้า ให้เป็นไปตามคุณลักษณะของพระบุตรของพระองค์ด้วย เพื่อพระองค์จะได้เป็นบุตรหัวปีท่ามกลางพี่น้องเป็นอันมาก 30 และคนที่พระองค์กำหนดไว้ล่วงหน้าแล้ว พระองค์ได้เรียกมาด้วย และคนที่พระองค์เรียกมา พระองค์ให้พ้นผิดด้วย และคนที่พระองค์ให้พ้นผิด พระองค์ให้ได้รับพระบารมีด้วย

ไม่มีสิ่งใดพรากเราไปจากความรักของพระคริสต์

31 ถ้าเช่นนั้นแล้วเราจะว่าอย่างไร ถ้าพระเจ้าเป็นฝ่ายเรา ใครจะเป็นฝ่ายค้านเรา 32 พระองค์เป็นผู้ที่ไม่ได้เว้นชีวิตพระบุตรของพระองค์เอง แต่มอบพระองค์ให้แก่เราทุกคน นอกจากพระบุตรแล้ว พระองค์จะมอบทุกสิ่งให้แก่เราโดยไม่มีข้อผูกพันมิใช่หรือ 33 ใครจะฟ้องร้องผู้ที่พระเจ้าเลือกไว้ได้ พระเจ้าผู้เดียวที่ให้เราพ้นผิดได้ 34 ใครเป็นคนกล่าวโทษเรา ไม่มีผู้ใด พระเยซูคริสต์เป็นผู้ที่ได้เสียชีวิตให้แล้ว ยิ่งกว่านั้นพระเจ้าได้ให้พระองค์ฟื้นคืนชีวิต และพระองค์สถิต ณ เบื้องขวาของพระเจ้า และกำลังอธิษฐานขอให้พวกเรา 35 ใครจะแยกเราออกจากความรักของพระคริสต์ได้ จะเป็นความทุกข์ยากลำบากหรือ ความเจ็บปวดรวดร้าวและการกดขี่ข่มเหงหรือ การอดอยากและขาดเครื่องนุ่งห่มหรือ ภัยอันตรายและการฆ่าฟันให้ตายหรือ 36 ตามที่มีบันทึกไว้ว่า

“พวกเราเผชิญความตายเพื่อพระองค์ทุกวันเวลา
    พวกเราถูกนับว่าเป็นดั่งแกะสำหรับการประหาร”[a]

37 แต่เรามีชัยเหนือสิ่งเหล่านี้โดยบริบูรณ์ก็เพราะพระองค์ผู้รักเรา 38 เพราะข้าพเจ้าเชื่อเป็นอย่างยิ่งแล้วว่า แม้ความตายหรือชีวิต ทูตสวรรค์หรือมาร ปัจจุบันกาลหรืออนาคตกาล อานุภาพใดๆ ก็ตาม 39 เบื้องสูงหรือเบื้องลึก หรือสิ่งอื่นใดในสรรพสิ่งที่พระเจ้าสร้างขึ้น ก็ไม่สามารถแยกเราออกจากความรักของพระเจ้าได้ คือความรักที่พระองค์แสดงให้เห็นในพระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา

มัทธิว 13:31-33

อุปมาเรื่องเมล็ดพันธุ์จิ๋ว

31 พระองค์เล่าเรื่องอุปมาให้พวกเขาฟังอีกว่า “อาณาจักรแห่งสวรรค์เปรียบเสมือนเมล็ดพันธุ์จิ๋วที่ชายคนหนึ่งเอาไปปลูกในนาของเขา 32 เมล็ดนี้เล็กที่สุดในบรรดาเมล็ดพืชอื่นๆ แต่เมื่อเติบโตเต็มที่แล้ว มันมีขนาดใหญ่กว่าบรรดาพืชสวนชนิดอื่น จนกลายเป็นต้นไม้ที่ฝูงนกเข้าพักพิงอาศัยได้ตามกิ่งของมัน”

อุปมาเรื่องเชื้อยีสต์

33 พระองค์กล่าวเป็นอุปมาอีกว่า “อาณาจักรแห่งสวรรค์เปรียบเสมือนเชื้อยีสต์[a]ที่หญิงคนหนึ่งเอาไปผสมในแป้ง 3 ถังจนแป้งขึ้นฟูทั้งหมด”

มัทธิว 13:44-52

อุปมาเรื่องสมบัติที่ซ่อนไว้

44 อาณาจักรแห่งสวรรค์เปรียบเสมือนสมบัติที่ซ่อนไว้ในทุ่งนาซึ่งชายคนหนึ่งมาพบแล้วนำไปซ่อนอีก ชายคนดังกล่าวยินดียิ่งจึงได้ขายทุกสิ่งที่ตนมีอยู่ เพื่อซื้อที่นานั้น

อุปมาเรื่องไข่มุก

45 อาณาจักรแห่งสวรรค์เปรียบได้อีกเสมือนพ่อค้าคนหนึ่งที่เสาะหาไข่มุกชนิดดี 46 เมื่อพบไข่มุกเม็ดหนึ่งซึ่งมีค่ามหาศาล เขาก็ไปขายทุกสิ่งที่มีอยู่ แล้วมาซื้อไข่มุกนั้น

อุปมาเรื่องอวน

47 อีกประการหนึ่ง อาณาจักรแห่งสวรรค์เปรียบเสมือนอวนที่ทอดอยู่ในทะเล มีปลาทุกชนิดติดอยู่ 48 เมื่ออวนเต็ม เขาก็ลากขึ้นชายฝั่งและนั่งแยกปลาชนิดดีใส่ถัง ส่วนตัวที่ไม่ดีก็โยนทิ้งไป 49 เมื่อถึงการสิ้นยุคนี้ก็เช่นกัน เหล่าทูตสวรรค์จะมาเอาตัวพวกคนชั่วร้ายแยกไปจากบรรดาผู้มีความชอบธรรม 50 แล้วโยนพวกเขาลงในเตาไฟ ณ ที่นั่นจะมีการร่ำไห้และขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน”

51 พระเยซูถามพวกเขาว่า “เจ้าเข้าใจสิ่งเหล่านี้แล้วยัง”

พวกเขาตอบว่า “เข้าใจ”

52 พระองค์กล่าวกับพวกเขาว่า “ฉะนั้นอาจารย์ฝ่ายกฎบัญญัติทุกคนที่เรียนรู้ถึงอาณาจักรแห่งสวรรค์ เปรียบเสมือนเจ้าบ้านที่เอาสมบัติทั้งใหม่และเก่าของตนออกมาให้ดู”

New Thai Version (NTV-BIBLE)

Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation