Previous Prev Day Next DayNext

Revised Common Lectionary (Complementary)

Daily Bible readings that follow the church liturgical year, with thematically matched Old and New Testament readings.
Duration: 1245 days
Thai New Contemporary Bible (TNCV)
Version
สดุดี 111

111 จงสรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้า[a]

ข้าพเจ้าจะเทิดทูนองค์พระผู้เป็นเจ้าหมดหัวใจ
ในที่ประชุมของผู้ชอบธรรมและในที่ชุมนุม

พระราชกิจขององค์พระผู้เป็นเจ้ายิ่งใหญ่
ทุกคนที่ปีติยินดีในพระราชกิจเหล่านั้นก็คิดใคร่ครวญถึง
พระราชกิจของพระองค์สูงส่งและทรงเกียรติ
ความชอบธรรมของพระองค์ดำรงนิรันดร์
พระองค์ทรงกระทำให้การอัศจรรย์ของพระองค์เป็นที่จดจำไม่รู้ลืม
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเปี่ยมด้วยพระคุณและทรงเอ็นดูสงสาร
พระองค์ประทานอาหารแก่ผู้ที่ยำเกรงพระองค์
พระองค์ทรงระลึกถึงพันธสัญญาของพระองค์ตลอดไป

พระองค์ทรงสำแดงอานุภาพแห่งพระราชกิจของพระองค์แก่เหล่าประชากรของพระองค์
ทรงประทานดินแดนของชนชาติอื่นๆ แก่พวกเขา
พระราชกิจแห่งพระหัตถ์ของพระองค์นั้นซื่อสัตย์และเที่ยงธรรม
ข้อบังคับทั้งหมดของพระองค์เชื่อถือได้
สิ่งเหล่านี้ตั้งมั่นอยู่ชั่วนิรันดร์
กำหนดขึ้นจากความซื่อสัตย์และความเที่ยงธรรม
พระองค์ทรงชำระค่าไถ่สำหรับประชากรของพระองค์
พระองค์ทรงสถาปนาพันธสัญญาของพระองค์ไว้เป็นนิตย์
พระนามของพระองค์นั้นศักดิ์สิทธิ์ น่าเกรงขามยิ่งนัก

10 ความยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นจุดเริ่มต้นของสติปัญญา
ทุกคนที่ปฏิบัติตามข้อบังคับของพระองค์มีความเข้าใจดี
การสรรเสริญพระองค์คงอยู่ตราบนิรันดร

กันดารวิถี 12:1-15

มิเรียมและอาโรนต่อต้านโมเสส

12 มิเรียมกับอาโรนได้กล่าวโจมตีโมเสส เพราะโมเสสได้แต่งงานและมีภรรยาเป็นชาวคูช ทั้งสองพูดว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสผ่านโมเสสเท่านั้นหรือ? พระองค์ไม่ได้ตรัสผ่านเราด้วยหรือ?” องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงได้ยินสิ่งนี้

(โมเสสนั้นเป็นคนถ่อมใจมาก ถ่อมใจยิ่งกว่าใครๆ ในโลก)

ทันใดนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสส อาโรน และมิเรียมว่า “เจ้าทั้งสามจงออกมาที่เต็นท์นัดพบ” ดังนั้นพวกเขาจึงออกมา องค์พระผู้เป็นเจ้าเสด็จลงมาในเสาเมฆ ทรงประทับยืนอยู่ตรงทางเข้าพลับพลา พระองค์ทรงเรียกอาโรนกับมิเรียม เมื่อทั้งสองก้าวมาข้างหน้า พระองค์ตรัสว่า “จงฟังถ้อยคำของเรา

“เมื่อผู้เผยพระวจนะขององค์พระผู้เป็นเจ้าอยู่ในหมู่พวกเจ้า
เราสำแดงตัวเองแก่เขาในนิมิต
เราพูดกับเขาในความฝัน
แต่กับโมเสสผู้รับใช้ของเราไม่เป็นเช่นนั้น
เขาซื่อสัตย์กว่าใครๆ ในนิเวศของเรา
เราพูดกับเขาซึ่งๆ หน้า
อย่างชัดเจนและไม่เป็นปริศนา
เขาได้เห็นองค์พระผู้เป็นเจ้า
ทำไมเจ้าจึงไม่กลัว
ที่จะพูดโจมตีโมเสสผู้รับใช้ของเรา?”

พระพิโรธขององค์พระผู้เป็นเจ้าพลุ่งขึ้นต่ออาโรนและมิเรียม แล้วพระองค์ก็เสด็จไป 10 เมื่อเมฆที่อยู่เหนือพลับพลาลอยขึ้น มิเรียมก็เป็นโรคเรื้อน[a] เป็นด่างขาวดั่งหิมะ อาโรนหันไปเห็นมิเรียมเป็นโรคเรื้อน 11 จึงกล่าวกับโมเสสว่า “เจ้านายของข้าพเจ้า ได้โปรดอย่าถือโทษบาปที่เราทำไปโดยความโง่เขลานี้ 12 ขออย่าให้มิเรียมเป็นเหมือนทารกที่แท้งตั้งแต่อยู่ในครรภ์และออกมาด้วยร่างกายที่ถูกกัดกินไปครึ่งหนึ่ง”

13 โมเสสจึงร้องทูลองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า “ข้าแต่พระเจ้า โปรดรักษานางด้วยเถิด!”

14 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสตอบโมเสสว่า “หากบิดาของนางถ่มน้ำลายใส่หน้านาง นางจะเป็นมลทินไปเจ็ดวันไม่ใช่หรือ? ฉะนั้นจงกักนางไว้นอกค่ายเจ็ดวัน แล้วจึงให้กลับเข้ามาได้” 15 มิเรียมจึงถูกกักไว้นอกค่ายตลอดเจ็ดวัน และประชากรไม่ได้ออกเดินทางจนนางกลับเข้ามาอีก

ลูกา 5:12-16

คนโรคเรื้อน(A)

12 ขณะพระเยซูทรงอยู่ในเมืองแห่งหนึ่ง มีคนเป็นโรคเรื้อน[a]ทั้งตัวเดินมาตามทาง เมื่อเขาเห็นพระองค์ เขาก็หมอบซบหน้าลงกับพื้นทูลวิงวอนพระองค์ว่า “พระองค์เจ้าข้า พระองค์ทรงรักษาข้าพระองค์ให้หายได้ถ้าพระองค์เต็มใจ”

13 พระเยซูทรงยื่นพระหัตถ์แตะต้องเขาและตรัสว่า “เราเต็มใจจะรักษา จงหายโรคเถิด!” ทันใดนั้นโรคเรื้อนที่เขาเป็นอยู่ก็หายไป

14 แล้วพระเยซูทรงกำชับเขาว่า “อย่าบอกผู้ใดเลย แต่จงไปแสดงตัวต่อปุโรหิตและถวายเครื่องบูชาสำหรับการที่เจ้าหายจากโรคเรื้อนตามที่โมเสสสั่งไว้ เพื่อเป็นพยานแก่คนทั้งหลายว่าเจ้าหายโรคแล้ว”

15 ถึงกระนั้นกิตติศัพท์ของพระองค์กลับเลื่องลือออกไปมากยิ่งขึ้นจนฝูงชนมากมายพากันมาฟังพระองค์และรับการรักษาโรค 16 แต่พระเยซูมักจะทรงปลีกตัวไปอยู่ในที่สงบและอธิษฐาน

Thai New Contemporary Bible (TNCV)

Thai New Contemporary Bible Copyright © 1999, 2001, 2007 by Biblica, Inc.® Used by permission. All rights reserved worldwide.