Revised Common Lectionary (Complementary)
ดาวิดอธิษฐานให้พระเจ้าช่วยจากภัยของศัตรู
คำอธิษฐานของดาวิด
1 พระผู้เป็นเจ้าโปรดฟังคำอ้อนวอนอันชอบธรรม เงี่ยหูฟังคำอธิษฐานของข้าพเจ้า
ซึ่งเป็นคำที่ไม่ได้หลุดจากริมฝีปากมดเท็จ
2 ขอการตัดสินนี้มาจากพระองค์
และขอพระองค์ได้เห็นความถูกต้อง
3 พระองค์ได้ทดสอบข้าพเจ้าแล้ว
พระองค์ได้มาหาในยามค่ำ พระองค์สำรวจข้าพเจ้าอย่างละเอียดถี่ถ้วน
แต่ก็ไม่พบอะไรเลย
ข้าพเจ้าตั้งใจแล้วว่าปากของข้าพเจ้าจะไม่ทำบาป
4 ในเรื่องความประพฤติของมนุษย์
ข้าพเจ้าไม่ได้เดินในหนทางของโจร
แต่ทำตามคำพูดจากริมฝีปากของพระองค์
5 ข้าพเจ้าก้าวไปในหนทางของพระองค์
และเท้าก็ไม่พลาดพลั้ง
6 โอ พระเจ้า ข้าพเจ้าร้องเรียกถึงพระองค์เพราะพระองค์ตอบข้าพเจ้า
เงี่ยหูของพระองค์และสดับคำอธิษฐานของข้าพเจ้า
7 โปรดแสดงความรักอันมั่นคงและวิเศษสุดของพระองค์
พระองค์เป็นผู้ช่วยเหลือของบรรดาผู้หวังเอาพระองค์เป็นที่พึ่งให้มีทางรอดจากศัตรู
ด้วยมือขวาของพระองค์
8 พระองค์คุ้มครองข้าพเจ้าดั่งแก้วตาของพระองค์
ให้ข้าพเจ้าได้หลบซ่อนภายใต้ร่มเงาปีกของพระองค์
9 จากพวกคนชั่วที่มุ่งทำลายข้าพเจ้า
จากศัตรูร้ายกาจที่ประชิดตัวข้าพเจ้า
5 ถ้าพี่น้องอาศัยอยู่ด้วยกัน และคนใดคนหนึ่งตายไปโดยที่ไม่มีบุตรชายเลย ภรรยาของผู้ตายต้องไม่แต่งงานกับชายนอกครอบครัวซึ่งเป็นคนอื่น น้องชายของสามีจะเข้าไปหานางและรับนางไว้เป็นภรรยา และให้เขาปฏิบัติหน้าที่ของสามีแก่นาง[a] 6 บุตรชายคนแรกที่นางให้กำเนิดจะได้รับชื่อของพี่ชายที่ตายไป เพื่อว่าชื่อของเขาจะไม่สาบสูญไปเสียจากอิสราเอล 7 แต่ถ้าชายคนนั้นไม่ปรารถนาจะรับภรรยาของพี่ชายของตนไว้เป็นภรรยา นางจะต้องไปหาบรรดาหัวหน้าชั้นผู้ใหญ่ที่ประตูเมือง และพูดว่า ‘น้องชายของสามีไม่ยอมสืบชื่อให้พี่ชายของเขาในอิสราเอล เขาไม่ปฏิบัติหน้าที่ของสามีแทนพี่ชายให้’ 8 แล้วบรรดาหัวหน้าชั้นผู้ใหญ่ของเมืองก็จะเรียกตัวเขามาพูด และถ้าเขายืนกรานว่า ‘ข้าพเจ้าไม่ปรารถนาจะรับนางไว้’ 9 ภรรยาของพี่ชายเขาจะต้องไปหาเขาโดยมีหัวหน้าชั้นผู้ใหญ่ไปด้วย นางจะถอดรองเท้าของเขาออกข้างหนึ่ง แล้วถ่มน้ำลายรดหน้าเขา นางจะตอบเขาว่า ‘ก็เป็นแบบนี้แหละสำหรับชายที่ไม่ยอมมีบุตรให้พี่ชายของตน’ 10 และครอบครัวเขาจะได้ชื่อว่า ครอบครัวของคนที่ถูกถอดรองเท้า
เปาโลเป็นคนสัญชาติโรมัน
22 ฝูงชนฟังเปาโลกล่าวจนถึงเพียงนี้ ก็ตะโกนเสียงลั่นว่า “กำจัดชายคนนี้ให้หายสาบสูญไปจากโลกเสียเถิด เขาไม่สมควรที่จะมีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว” 23 ขณะที่เขาทั้งหลายกำลังตะโกนไป พร้อมกับเหวี่ยงเสื้อคลุมออกไปจนฝุ่นตลบอยู่นั้น 24 ผู้บังคับกองพันได้สั่งให้เปาโลเข้าไปในกรมทหาร สั่งให้ทหารเฆี่ยน เพื่อจะได้ไต่สวนดูว่าทำไมผู้คนจึงได้ตะโกนใส่ท่านเช่นนั้น 25 ขณะที่พวกทหารขึงร่างของท่านเพื่อรอการเฆี่ยน เปาโลก็กล่าวกับนายร้อยที่ยืนอยู่ที่นั่นว่า “ถูกกฎแล้วหรือที่ท่านจะเฆี่ยนคนสัญชาติโรมันก่อนที่จะพิพากษาว่าผิด” 26 เมื่อนายร้อยได้ยินเช่นนั้นจึงนำความไปรายงานกับผู้บังคับกองพันว่า “ท่านจะทำอย่างไรต่อไป ชายคนนี้เป็นคนสัญชาติโรมัน” 27 ผู้บังคับกองพันจึงไปถามเปาโลว่า “บอกข้าพเจ้าเถิดว่า ท่านเป็นคนสัญชาติโรมันหรือ” ท่านตอบว่า “ใช่แล้ว” 28 แล้วผู้บังคับกองพันพูดว่า “กว่าข้าพเจ้าจะได้เป็นคนสัญชาติโรมันข้าพเจ้าต้องเสียเงินมาก” เปาโลตอบว่า “แต่ข้าพเจ้าเป็นคนสัญชาติโรมันโดยกำเนิด” 29 ฝ่ายพวกที่กำลังจะซักถามท่านก็ถอยออกไปทันที ผู้บังคับกองพันเองก็ตกใจที่ล่ามโซ่เปาโลซึ่งเป็นคนสัญชาติโรมัน
เปาโลยืนอยู่ต่อหน้าศาสนสภา
30 วันรุ่งขึ้น ผู้บังคับกองพันต้องการที่จะทราบให้แน่ชัดว่าเหตุใดชาวยิวจึงกล่าวหาเปาโล เขาจึงให้คนถอดเครื่องที่ล่ามเปาโลออก แล้วสั่งให้ทั้งบรรดามหาปุโรหิตและศาสนสภาทั้งหมดมาร่วมประชุมกัน ครั้นแล้วก็ให้เปาโลมายืนอยู่ต่อหน้าเขาทั้งปวง
23 เปาโลจ้องเขม็งไปยังศาสนสภาและกล่าวว่า “พี่น้องเอ๋ย ข้าพเจ้าได้ดำเนินชีวิตด้วยมโนธรรมที่ดีต่อพระเจ้ามาจนถึงทุกวันนี้” 2 อานาเนียหัวหน้ามหาปุโรหิตจึงสั่งให้พวกที่ยืนอยู่ใกล้เปาโลตบปากท่าน 3 แล้วเปาโลพูดกับเขาว่า “พระเจ้าจะตบท่าน ท่านเป็นเหมือนผนังกำแพงที่ฉาบด้วยปูนขาวเท่านั้น ท่านนั่งกล่าวโทษข้าพเจ้าไปตามกฎบัญญัติ แต่ตัวท่านเองยังฝ่าฝืนกฎบัญญัติโดยที่สั่งให้คนตบข้าพเจ้า”
4 พวกที่ยืนอยู่ใกล้เปาโลพูดว่า “ท่านกล้าสบประมาทหัวหน้ามหาปุโรหิตของพระเจ้าหรือ” 5 เปาโลตอบว่า “พี่น้องเอ๋ย ข้าพเจ้าไม่ได้ตระหนักว่าเขาเป็นหัวหน้ามหาปุโรหิต ด้วยมีบันทึกไว้ว่า ‘อย่าพูดว่าร้ายต่อบุคคลในระดับปกครองพลเมือง’”[a]
6 ครั้นเปาโลเห็นว่าบางคนในศาสนสภาเป็นสะดูสี และบางคนก็เป็นฟาริสี ท่านจึงร้องขึ้นในศาสนสภาว่า “พี่น้องเอ๋ย ข้าพเจ้าเป็นฟาริสีและเป็นบุตรของฟาริสี ข้าพเจ้าถูกพิพากษาก็เพราะเรื่องความหวังในการฟื้นคืนชีวิตจากความตาย” 7 ครั้นเปาโลกล่าวเช่นนั้น พวกฟาริสีและสะดูสีก็เกิดเถียงกัน และที่ประชุมก็แบ่งออกเป็น 2 พวก 8 พวกสะดูสีพูดว่าการฟื้นคืนชีวิตนั้นไม่มีจริง อีกทั้งไม่มีทูตสวรรค์และไม่มีวิญญาณ แต่พวกฟาริสีถือว่ามีทั้งนั้น 9 แล้วก็เกิดโกลาหลขนานใหญ่ขึ้น อาจารย์ฝ่ายกฎบัญญัติบางคนซึ่งเป็นพวกฟาริสีก็ยืนขึ้นเถียงอย่างรุนแรงว่า “พวกเราเห็นว่าชายคนนี้ไม่มีความผิดเลย วิญญาณหรือทูตสวรรค์อาจจะกล่าวกับเขาก็ได้” 10 เมื่อการโต้เถียงเป็นไปอย่างรุนแรงมากขึ้น จนกระทั่งผู้บังคับกองพันกลัวว่าคนพวกนั้นจะฉีกเปาโลออกเป็นชิ้นๆ เขาจึงสั่งให้ใช้กำลังกองทหารลงไปรับตัวท่านไปยังกรมทหาร
11 คืนต่อมาพระผู้เป็นเจ้ายืนอยู่ใกล้เปาโลกล่าวว่า “จงกล้าหาญเถิด เมื่อเจ้าได้ให้คำยืนยันเกี่ยวกับเราในเมืองเยรูซาเล็มแล้ว เจ้าต้องให้คำยืนยันในเมืองโรมด้วย”
Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation