Revised Common Lectionary (Complementary)
วางใจในพระเจ้ายามถูกต่อต้าน
เพลงสดุดีของดาวิด คราวที่หลบหนีจากอับซาโลมซึ่งเป็นบุตรชายของท่าน[a]
1 ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า ข้าพเจ้ามีศัตรูมากมาย
คนจำนวนมากลุกขึ้นต่อต้านข้าพเจ้า
2 หลายคนพูดถึงข้าพเจ้าว่า
“ไม่มีความรอดพ้นที่มาจากพระเจ้าสำหรับเขาเลย” เซล่าห์[b]
3 แต่พระผู้เป็นเจ้า พระองค์เป็นเสมือนโล่ป้องกันของข้าพเจ้า
เป็นพระบารมีของข้าพเจ้า
และเป็นองค์ผู้ให้ข้าพเจ้าชูศีรษะขึ้นได้อีก
4 ข้าพเจ้าจะร้องด้วยเสียงอันดังต่อพระผู้เป็นเจ้า
และพระองค์จะตอบข้าพเจ้าจากภูเขาอันบริสุทธิ์ของพระองค์ เซล่าห์
5 ข้าพเจ้านอนลง ครั้นแล้วก็นอนหลับไป
ข้าพเจ้าตื่นขึ้นได้ก็เพราะพระผู้เป็นเจ้าคุ้มครอง
6 ข้าพเจ้าจะไม่กลัวผู้คนนับหมื่น
ที่อยู่รายรอบซึ่งพร้อมจะต่อต้านข้าพเจ้า
7 ได้โปรดลุกขึ้นเถิด ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า
ช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้นเถิด พระเจ้าของข้าพเจ้า
เพราะพระองค์ตบหน้าศัตรูของข้าพเจ้าทุกคน
และทำให้ฟันฟางของคนชั่วทั้งปวงหักเสีย
8 ความรอดพ้นเป็นของพระผู้เป็นเจ้า
ขอพระพรของพระองค์อยู่กับชนชาติของพระองค์ เซล่าห์
คำตอบของพระผู้เป็นเจ้า
5 “จงแลดูบรรดาประชาชาติ และคอยเฝ้าดู
และเจ้าจะอัศจรรย์ใจอย่างที่สุด
ด้วยว่า เรากำลังจะทำบางสิ่งในสมัยของเจ้า
ซึ่งแม้มีคนบอกเจ้า เจ้าก็จะไม่เชื่อ[a]
6 เรากำลังจะให้บรรดาชาวเคลเดีย[b]มีอำนาจขึ้น
พวกเขาเป็นประชาชาติที่โหดร้ายและยับยั้งไม่อยู่
ซึ่งเดินไปตามความกว้างของแผ่นดินโลก[c]
เพื่อยึดที่อาศัยของผู้อื่น
7 พวกเขาเป็นชนชาติที่น่ากลัวและน่าหวาดหวั่น
พวกเขาตั้งความยุติธรรม
และส่งเสริมเกียรติให้แก่ตนเอง
8 ม้าของพวกเขาคล่องแคล่วยิ่งกว่าเสือดาว
ดุร้ายยิ่งกว่าสุนัขป่ายามพลบค่ำ
ทหารม้าของพวกเขาควบอย่างรวดเร็ว
บรรดาทหารม้าของพวกเขามาจากแดนไกล
พวกเขาบินไปอย่างแร้งและโฉบเฉี่ยวลง
9 พวกเขาทุกคนมาเพื่อกระทำความรุนแรง
ต่างก็มุ่งหน้ารุดไป
และรวบรวมบรรดาเชลยได้มากอย่างเม็ดทราย
10 พวกเขาดูหมิ่นบรรดากษัตริย์
และเย้ยหยันบรรดาผู้ปกครอง
พวกเขาหัวเราะเยาะเมืองต่างๆ
ที่มีการคุ้มกันอย่างแข็งแกร่ง
พวกเขาใช้ดินก่อขึ้นเป็นสะพานข้าม
และยึดเมือง
11 พวกเขาเดินผ่านไปเหมือนลมพัดผ่าน
และพัดฉิวต่อไป
มีความผิดเพราะพึ่งในพละกำลังของตน
เสมือนว่าเป็นพระเจ้า”
ฮาบากุกพร่ำบ่นครั้งที่สอง
12 โอ พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ดำรงมาตั้งแต่นิรันดร์กาลมิใช่หรือ
พระเจ้าของข้าพเจ้า องค์ผู้บริสุทธิ์ของข้าพเจ้า พวกเราจะไม่สิ้นชีวิต
โอ พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ได้กำหนดให้พวกเขาเป็นผู้ตัดสิน
โอ องค์ผู้เป็นศิลา พระองค์ได้กำหนดให้พวกเขาเป็นผู้ลงโทษ
13 นัยน์ตาของพระองค์บริสุทธิ์เกินกว่าจะมองดูสิ่งชั่วร้าย
พระองค์ไม่ทนต่อการกระทำผิด
แล้วเหตุใดพระองค์จึงทนต่อคนทรยศ
เหตุใดพระองค์จึงนิ่งเฉยในขณะที่คนชั่วร้าย
ทำลายคนที่มีความชอบธรรมมากกว่าเขา
14 พระองค์ได้สร้างมนุษย์ขึ้นเหมือนปลาในทะเล
เหมือนบรรดาสิ่งมีชีวิตที่ไร้ผู้ปกครอง
15 คนชั่วร้ายดึงพวกเขาทุกคนขึ้นมาด้วยเบ็ด
เขาทอดแหจับพวกเขา
เขารวบรวมพวกเขาเข้าด้วยกันในอวนของเขา
เขาจึงร่าเริงใจและดีใจ
16 ดังนั้นเขาจึงมอบเครื่องสักการะแก่แหของเขา
และเผาเครื่องหอมแก่อวนของเขา
เขาใช้ชีวิตอย่างหรูหรา
และมีความสุขกับอาหารดีที่สุดได้
ก็เพราะแหของเขา
17 เขาจะกอบโกยผลประโยชน์จากแหของเขาเรื่อยไป
และล้างผลาญบรรดาประชาชาติโดยไร้ความเมตตาอย่างนั้นหรือ
ทดสอบความเชื่อ
2 พี่น้องเอ๋ย เมื่อท่านประสบกับความลำบากต่างๆ ก็จงนับว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่ง 3 เพราะท่านทราบว่า การทดสอบความเชื่อของท่านทำให้เกิดความบากบั่น 4 ให้ความบากบั่นเป็นที่ปรากฏอย่างสม่ำเสมอ เพื่อท่านจะได้เป็นคนดีเพียบพร้อมทุกประการ และมีคุณสมบัติครบถ้วน ไม่มีสิ่งใดขาดตกบกพร่องเลย
5 ถ้าคนใดในพวกท่านขาดปัญญา ก็ให้เขาขอจากพระเจ้า แล้วเขาก็จะได้รับ เพราะพระองค์มอบให้แก่ทุกคนด้วยความเอื้อเฟื้อและด้วยความยินดี 6 แต่เวลาเขาขอจากพระองค์ เขาต้องมีใจเชื่อโดยไม่สงสัย เพราะคนที่สงสัยเป็นเสมือนคลื่นในทะเลที่ถูกกระแสลมพัดให้ซัดม้วนไปมา 7 คนนั้นไม่ควรคิดว่า เขาจะได้รับสิ่งใดจากพระผู้เป็นเจ้าเลย 8 เขาเป็นคนสองจิตสองใจ ไม่มั่นคงในสิ่งใดๆ ที่ตนกระทำ
9 ให้พี่น้องผู้ต่ำต้อยยินดีเมื่อได้รับการยกย่อง 10 และคนมั่งมีถ่อมตัวเมื่อตกต่ำลง เพราะเขาจะล่วงลับไปเหมือนดอกหญ้า 11 เพราะดวงอาทิตย์ขึ้นพร้อมกับความร้อนที่แผดเผา และทำให้พืชเหี่ยวเฉา ดอกร่วงโรยและความงามก็หมดสิ้นไป ในทำนองเดียวกันคือ คนมั่งมีจะล่วงลับไป แม้จะเป็นเวลาที่เขาทำหน้าที่การงานอยู่
Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation