Revised Common Lectionary (Complementary)
ความรักของพระเจ้า
เพลงสดุดีของดาวิด
1 โอ จิตวิญญาณของข้าพเจ้าเอ๋ย สรรเสริญพระผู้เป็นเจ้าเถิด
ทั่วทั้งกายและใจข้าพเจ้าสรรเสริญพระนามอันบริสุทธิ์ของพระองค์
2 โอ จิตวิญญาณของข้าพเจ้าเอ๋ย สรรเสริญพระผู้เป็นเจ้าเถิด
และอย่าลืมสิ่งดีๆ ทั้งปวงที่พระองค์มอบให้
3 พระองค์ยกโทษบาปทั้งปวงแก่ท่าน
พระองค์รักษาโรคของท่านทุกโรคให้หายขาด
4 พระองค์ไถ่ชีวิตของท่านจากหลุมแห่งแดนคนตาย
และมอบความรักอันมั่นคง และความเมตตาให้แก่ท่าน
5 พระองค์ให้สิ่งดีๆ แก่ท่านอย่างอุดมสมบูรณ์ตราบที่ท่านมีชีวิตอยู่
เพื่อพละกำลังจากวัยหนุ่มของท่านกลับคืนมาใหม่ เหมือนวัยของนกอินทรี
6 พระผู้เป็นเจ้ากระทำสิ่งที่เป็นความชอบธรรม
และให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ถูกบีบบังคับ
7 พระองค์ให้โมเสสทราบวิถีทางของพระองค์
ให้ลูกหลานชาวอิสราเอลทราบการกระทำของพระองค์
8 พระผู้เป็นเจ้ามีเมตตาและพระคุณ
ไม่โกรธง่าย และบริบูรณ์ด้วยความรักอันมั่นคง
9 พระองค์จะไม่ขัดขวางเราเสมอไป
หรือจะเก็บความโกรธไว้ตลอดกาล
10 พระองค์ไม่ได้ลงโทษเราตามความหนักเบาของบาปที่เราทำไป
หรือสนองตอบความชั่วตามที่เราควรได้รับ
11 ฟ้าสวรรค์อยู่สูงจากแผ่นดินโลกเพียงไหน
ความรักอันมั่นคงของพระองค์สำหรับบรรดาผู้เกรงกลัวพระองค์ก็มีมากเพียงนั้น
12 ทิศตะวันออกอยู่ไกลจากทิศตะวันตกเพียงไหน
พระองค์ปลดบาปไปจากเราให้ไกลเพียงนั้น
13 บิดาสงสารบุตรของตนฉันใด
พระผู้เป็นเจ้าสงสารบรรดาผู้เกรงกลัวพระองค์ฉันนั้น
22 สรรพสิ่งที่พระองค์สร้างเอ๋ย จงสรรเสริญพระผู้เป็นเจ้า
ทุกแห่งหนที่พระองค์ปกครอง
โอ จิตวิญญาณของข้าพเจ้าเอ๋ย จงสรรเสริญพระผู้เป็นเจ้าเถิด
เจ้าสาวผู้ไม่ภักดีของพระผู้เป็นเจ้า
16 พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับข้าพเจ้าดังนี้ว่า 2 “บุตรมนุษย์เอ๋ย จงให้เยรูซาเล็มรู้การกระทำอันน่าชังของตน 3 จงไปบอกว่า พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่กล่าวแก่เยรูซาเล็มดังนี้ว่า ‘บรรพบุรุษและแหล่งกำเนิดของพวกเจ้าอยู่ในแผ่นดินของชาวคานาอัน บิดาของเจ้าเป็นชาวอาโมร์ และมารดาของเจ้าเป็นชาวฮิต 4 วันที่เจ้าเกิด สายสะดือก็ไม่ได้ตัด และเจ้าไม่มีใครใช้น้ำชำระล้างเจ้าให้สะอาด ไม่ได้ใช้เกลือถูตัวหรือพันผ้าให้เจ้า 5 ไม่มีใครมองดูตัวเจ้าหรือมีเมตตาต่อเจ้าด้วยความสงสารพอที่จะทำสิ่งเหล่านี้ให้เจ้า แต่เจ้ากลับถูกโยนออกไปในทุ่งนากว้าง เพราะวันที่เจ้าเกิด เจ้าถูกดูหมิ่น
6 เมื่อเราเดินผ่านเจ้า และเห็นเจ้าขยับตัวอยู่ในเมือกเลือด เราพูดกับเจ้าซึ่งอยู่ในเมือกเลือดของเจ้าว่า “จงมีชีวิตเถิด” เราพูดกับเจ้าว่า “จงมีชีวิตเถิด” 7 เราทำให้เจ้าเติบโตอย่างพืชในทุ่งนา และเจ้าเติบโตขึ้นและเติบใหญ่ กลายเป็นพลอยเม็ดงาม เจ้าถูกบันดาลให้มีหน้าอก และผมของเจ้ายาว แต่เจ้าก็ยังเปลือยกายและไร้เครื่องนุ่งห่ม
8 เมื่อเราเดินผ่านเจ้าไปอีก ดูเถิด เราแลดูเจ้า และเห็นว่า เจ้ามีอายุที่จะมีความรัก และเรากางชายเสื้อของเราให้เจ้าได้ห่มและปิดกายที่เปลือยของเจ้า เราปฏิญาณกับเจ้าและทำพันธสัญญากับเจ้า และเจ้าก็เป็นของเรา’” พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ประกาศดังนั้น 9 “แล้วเราใช้น้ำชำระล้างเจ้า ล้างเลือดออก และเจิมน้ำมันให้เจ้า 10 เราสวมเสื้อให้เจ้าด้วยผ้าปักลวดลาย และสวมรองเท้าหนังให้เจ้า เราให้เจ้านุ่งห่มด้วยผ้าป่านเนื้อดีและคลุมด้วยผ้าไหม 11 เราตกแต่งตัวเจ้าด้วยเครื่องประดับ และสวมกำไลมือและสร้อยคอให้แก่เจ้า 12 เราคล้องห่วงที่จมูกและสวมตุ้มหูให้แก่เจ้า อีกทั้งสวมมงกุฎงามบนศีรษะของเจ้า 13 เจ้าได้รับการตกแต่งด้วยเงินและทองดังกล่าว และเสื้อผ้าของเจ้าเป็นผ้าป่านเนื้อดี ผ้าไหม และผ้าปักลวดลาย เจ้ารับประทานแป้งชั้นเยี่ยม น้ำผึ้ง และน้ำมัน เจ้ากลายเป็นผู้ที่งดงามยิ่งนัก และเลื่อนระดับสู่ความเป็นเจ้าหญิง 14 กิตติศัพท์ของเจ้าเป็นที่เลื่องลือในบรรดาประชาชาติเพราะความงามของเจ้า เพราะความงามตระการที่เราได้มอบให้แก่เจ้าได้ทำให้เจ้างามอย่างหาที่ติมิได้” พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ประกาศดังนั้น
3 ถ้าเช่นนั้นชาวยิวได้เปรียบอะไรเล่า หรือการเข้าสุหนัตมีประโยชน์อะไร 2 มีประโยชน์มากทุกด้าน ประการแรกชาวยิวเป็นผู้ได้รับมอบให้อารักขาคำกล่าวของพระเจ้า 3 ถ้าบางคนในพวกเขาไม่มีความภักดี แล้วความไม่ภักดีของเขาจะทำให้พระเจ้าถอนคำมั่นสัญญาหรือ 4 ไม่มีทางจะเป็นเช่นนั้น แม้ว่าทุกคนพูดเท็จ พระเจ้าก็เป็นผู้รักษาคำพูด ตามที่มีบันทึกไว้ว่า
“เพื่อพระองค์เป็นที่เห็นว่าถูกต้องเวลาพระองค์กล่าว
และมีชัยชนะเมื่อพระองค์ตัดสินโทษ”[a]
5 แต่ถ้าความไม่ชอบธรรมของเราแสดงให้เห็นความชอบธรรมของพระเจ้าชัดเจนยิ่งขึ้น แล้วเราจะว่าอย่างไร เมื่อพระเจ้าลงโทษเรา พระองค์ไม่มีความยุติธรรมอย่างนั้นหรือ (ข้าพเจ้าพูดอย่างมนุษย์) 6 ไม่มีทางจะเป็นเช่นนั้น เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นแล้วพระเจ้าจะกล่าวโทษโลกได้อย่างไร 7 แต่ถ้าการมดเท็จของข้าพเจ้าทำให้ความสัตย์จริงของพระเจ้าปรากฏชัดยิ่งขึ้น และเพิ่มพูนพระบารมีของพระองค์แล้ว ทำไมข้าพเจ้าจึงยังถูกกล่าวโทษเช่นคนบาปเล่า 8 ทำไมไม่พูดว่า “ให้เรากระทำความชั่วเถิด เพื่อความดีจะได้เกิดขึ้นกับเรา” ดังที่พวกเขาใส่ร้ายเรา และตามที่บางคนอ้างว่าเราพูดอย่างนั้น เป็นการยุติธรรมแล้วที่คนแบบนั้นจะถูกกล่าวโทษ
Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation