Previous Prev Day Next DayNext

Revised Common Lectionary (Complementary)

Daily Bible readings that follow the church liturgical year, with thematically matched Old and New Testament readings.
Duration: 1245 days
Thai New Contemporary Bible (TNCV)
Version
สดุดี 135

(สดด.115:4-11)

135 จงสรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้า[a]

จงสรรเสริญพระนามของพระยาห์เวห์
จงสรรเสริญพระองค์เถิด ท่านทั้งหลายผู้เป็นผู้รับใช้ขององค์พระผู้เป็นเจ้า
ท่านผู้ปรนนิบัติรับใช้ในพระนิเวศขององค์พระผู้เป็นเจ้า
ในลานพระนิเวศของพระเจ้าของเรา

จงสรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้า เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงแสนดี
จงร้องเพลงสรรเสริญพระนามของพระองค์เพราะเป็นเรื่องน่ายินดี
เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเลือกยาโคบให้เป็นของพระองค์เอง
ทรงเลือกอิสราเอลไว้เป็นกรรมสิทธิ์ล้ำค่าของพระองค์

ข้าพเจ้ารู้ว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงยิ่งใหญ่
รู้ว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าของเราทรงยิ่งใหญ่กว่าพระอื่นใดทั้งปวง
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงกระทำสิ่งใดๆ ตามชอบพระทัยพระองค์
ในฟ้าสวรรค์และบนแผ่นดินโลก
ในห้วงสมุทรและที่ลึกทั้งหลาย
พระองค์ทรงกระทำให้เมฆลอยขึ้นจากสุดโลก
พระองค์ทรงส่งฟ้าแลบมากับฝน
และทรงนำสายลมออกมาจากคลังของพระองค์

พระองค์ทรงประหารลูกหัวปีของอียิปต์
ลูกหัวปีทั้งของคนและของสัตว์
อียิปต์เอ๋ย พระองค์ทรงส่งหมายสำคัญและการอัศจรรย์ต่างๆ มาท่ามกลางพวกเจ้า
มาต่อสู้ฟาโรห์กับบรรดาผู้รับใช้ทั้งสิ้นของเขา
10 พระองค์ทรงห้ำหั่นชนชาติต่างๆ
ทรงประหารกษัตริย์ผู้เกรียงไกร
11 คือกษัตริย์สิโหนของชาวอาโมไรต์
กษัตริย์โอกแห่งบาชาน
และกษัตริย์ทั้งหมดในคานาอัน
12 และพระองค์ทรงยกดินแดนของพวกเขาให้เป็นกรรมสิทธิ์
ให้เป็นกรรมสิทธิ์ของอิสราเอลประชากรของพระองค์

13 ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระนามของพระองค์ดำรงนิรันดร์
ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระเกียรติของพระองค์เลื่องลือตลอดทุกชั่วอายุ
14 เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงให้ความเป็นธรรมแก่ประชากรของพระองค์
และทรงเอ็นดูสงสารผู้รับใช้ของพระองค์

15 รูปเคารพของชนชาติต่างๆ ทำจากเงินและทอง
ทำด้วยน้ำมือมนุษย์
16 มีปากแต่พูดไม่ได้
มีตาแต่มองไม่เห็น
17 มีหูแต่ไม่ได้ยิน
ไม่มีแม้แต่ลมหายใจในปาก
18 ผู้ที่สร้างพวกมันก็จะเป็นเหมือนพวกมัน
และผู้ที่วางใจในพวกมันก็จะเป็นเหมือนกัน

19 วงศ์วานของอิสราเอลเอ๋ย จงสรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้า
วงศ์วานของอาโรนเอ๋ย จงสรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้า
20 วงศ์วานของเลวีเอ๋ย จงสรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้า
ท่านทั้งหลายผู้ยำเกรงพระองค์ จงสรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้า
21 จงสรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้าจากศิโยน
จงสรรเสริญพระองค์ผู้ประทับอยู่ในเยรูซาเล็ม

จงสรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้า

ดาเนียล 3

เทวรูปทองคำและเตาไฟร้อนแรง

กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ ทรงสร้างเทวรูปทองคำสูงถึง 60 ศอก กว้าง 6 ศอก[a]ตั้งไว้ในที่ราบดูราในมณฑลบาบิโลน แล้วทรงให้เรียกเสนาบดี ข้าหลวงภาค ผู้ว่าการ ราชมนตรี ขุนคลัง ผู้พิพากษา ตุลาการ และเจ้าหน้าที่ของทุกมณฑลมาชุมนุมเพื่อร่วมงานฉลองเทวรูปซึ่งสถาปนาขึ้นนั้น คนเหล่านั้นก็มาร่วมฉลองและยืนอยู่หน้าเทวรูปที่กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ทรงสร้างขึ้น

แล้วมีเสียงป่าวประกาศว่า “บรรดาพลเมืองทุกชาติทุกภาษา มีพระราชโองการว่า ทันทีที่พวกเจ้าได้ยินเสียงเขาสัตว์ ขลุ่ย พิณ พิณเขาคู่ พิณใหญ่ ปี่ และเสียงดนตรีทุกชนิด จงหมอบกราบลงนมัสการเทวรูปทองคำที่กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์สร้างขึ้น ผู้ใดก็ตามที่ไม่ยอมหมอบกราบลงนมัสการ จะถูกโยนเข้าไปในเตาไฟลุกโชนทันที”

ฉะนั้นทันทีที่คนทั้งหลายได้ยินเสียงเขาสัตว์ ขลุ่ย พิณ พิณเขาคู่ พิณใหญ่ และเสียงดนตรีทุกชนิด พลเมืองทั้งปวงจากทุกชาติทุกภาษาก็หมอบกราบลงนมัสการเทวรูปทองคำที่กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ทรงสร้างขึ้น

ในครั้งนั้นมีโหราจารย์[b]บางคนมาทูลฟ้องกษัตริย์เรื่องชาวยิว พวกเขามาทูลเนบูคัดเนสซาร์ว่า “ข้าแต่กษัตริย์ ขอจงทรงพระเจริญ! 10 ฝ่าพระบาททรงประกาศพระราชกฤษฎีกาว่า ทุกคนที่ได้ยินเสียงเขาสัตว์ ขลุ่ย พิณ พิณเขาคู่ พิณใหญ่ ปี่ และเสียงดนตรีทุกชนิด ให้หมอบกราบลงนมัสการเทวรูปทองคำ 11 และผู้ใดที่ไม่ยอมหมอบกราบลงนมัสการจะถูกโยนเข้าไปในเตาไฟลุกโชนทันที 12 แต่มีชาวยิวบางคนคือ ชัดรัค เมชาคและอาเบดเนโกที่ฝ่าพระบาททรงแต่งตั้งให้ดูแลมณฑลบาบิโลนนั้นไม่ยอมทำตามพระบัญชา เขาเหล่านั้นไม่กราบไหว้เทพเจ้าต่างๆ ของฝ่าพระบาท และไม่ยอมนมัสการเทวรูปทองคำที่ฝ่าพระบาททรงสร้างขึ้น”

13 เนบูคัดเนสซาร์จึงทรงพระพิโรธยิ่งนัก และตรัสสั่งให้นำตัวชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโกมาเข้าเฝ้า 14 แล้วตรัสกับพวกเขาว่า “ชัดรัค เมชาคและอาเบดเนโก จริงหรือที่พวกเจ้าไม่ยอมปรนนิบัติเทพเจ้าของเรา หรือนมัสการเทวรูปทองคำที่เราสร้างขึ้น 15 บัดนี้หากพวกเจ้าได้ยินเสียงเขาสัตว์ ขลุ่ย พิณ พิณเขาคู่ พิณใหญ่ ปี่ และเสียงดนตรีทุกชนิดประโคมขึ้นแล้ว ถ้าพวกเจ้าพร้อมที่จะหมอบกราบนมัสการเทวรูปที่เราสร้างขึ้นก็ดี แต่หากพวกเจ้าไม่นมัสการจะถูกโยนเข้าไปในเตาไฟลุกโชนทันที แล้วเทพเจ้าองค์ใดเล่าจะสามารถช่วยพวกเจ้าให้พ้นจากมือเราไปได้?”

16 ชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโกทูลกษัตริย์ว่า “ข้าแต่เนบูคัดเนสซาร์ ข้าพระบาททั้งหลายไม่จำเป็นต้องทูลแก้ต่างให้ตนเองต่อฝ่าพระบาทในเรื่องนี้ 17 หากข้าพระบาทถูกโยนเข้าไปในเตาไฟลุกโชน ข้าแต่กษัตริย์ พระเจ้าที่ข้าพระบาททั้งหลายปรนนิบัตินั้นจะทรงกอบกู้และทรงช่วยข้าพระบาททั้งหลายให้พ้นจากเงื้อมพระหัตถ์ของฝ่าพระบาทได้ 18 แต่ถึงแม้พระองค์ไม่ทรงช่วย ข้าแต่กษัตริย์ ก็ขอฝ่าพระบาททรงทราบเถิดว่า ข้าพระบาทจะไม่ยอมปรนนิบัติเทพเจ้าของฝ่าพระบาทหรือนมัสการเทวรูปทองคำที่ทรงตั้งขึ้นเป็นอันขาด”

19 เนบูคัดเนสซาร์จึงทรงพระพิโรธชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโกยิ่งนัก พระทัยที่เคยปรานีต่อพวกเขาก็เปลี่ยนไป และตรัสสั่งให้โหมไฟในเตาให้ร้อนแรงขึ้นอีกเจ็ดเท่า 20 แล้วสั่งให้ทหารที่กำยำที่สุดในกองทัพจับชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโกมามัดและโยนเข้าไปในเตาไฟลุกโชน 21 พวกทหารจึงจับคนทั้งสามมัดและโยนเข้าไปในเตาไฟร้อนแรง ทั้งๆ ที่คนทั้งสามยังโพกผ้า สวมเสื้อ กางเกง และเครื่องแต่งกายอื่นๆ อยู่ 22 คำสั่งของกษัตริย์เร่งด่วนมาก และเตาไฟก็ร้อนแรงจนเปลวไฟแลบออกมา แผดเผาเหล่าทหารที่จับชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโกโยนเข้าไปในเตานั้นสิ้นชีวิต 23 คนทั้งสามที่ถูกมัดไว้อย่างแน่นหนาก็ถูกโยนเข้าไปในเตาไฟลุกโชน

24 แล้วกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ก็ทรงลุกขึ้นทันทีด้วยความประหลาดพระทัย และตรัสถามบรรดาราชมนตรีว่า “เรามัดสามคนโยนเข้าไปในเตาไฟไม่ใช่หรือ?”

ราชมนตรีทูลว่า “ใช่แล้วพระเจ้าข้า”

25 กษัตริย์ตรัสว่า “แต่ดูสิ เราเห็นสี่คนเดินอยู่ในเตาไฟ ไม่ได้ถูกมัดหรือเป็นอันตรายแต่อย่างใด และคนที่สี่นั้นก็ดูเหมือนเทพบุตร”

26 เนบูคัดเนสซาร์จึงเสด็จไปที่ประตูของเตาไฟอันร้อนแรงนั้น และทรงร้องเรียกว่า “ชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโกผู้รับใช้ของพระเจ้าสูงสุดเอ๋ย จงออกมาเถิด! จงออกมานี่!”

ดังนั้นชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโกจึงออกมาจากไฟ 27 บรรดาเสนาบดี ข้าหลวงภาค ผู้ว่าการ และราชมนตรีต่างมาห้อมล้อมคนทั้งสาม เห็นว่าไฟไม่ได้ทำอันตรายร่างกายของเขาเลย ผมก็ไม่ได้ไหม้ไปแม้สักเส้น เสื้อผ้าก็ไม่ได้ถูกเผาไหม้ ไม่มีแม้แต่กลิ่นไหม้

28 เนบูคัดเนสซาร์จึงตรัสว่า “ขอสรรเสริญพระเจ้าของชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโก ผู้ทรงส่งทูตสวรรค์ของพระองค์มาช่วยผู้รับใช้ของพระองค์! พวกเขาไว้วางใจในพระเจ้า ละเมิดคำสั่งของกษัตริย์ และยอมตายเสียดีกว่ายอมปรนนิบัตินมัสการพระอื่นใดเว้นแต่พระเจ้าของตน 29 ฉะนั้นเราขอประกาศกฤษฎีกาว่า ไม่ว่าพลเมืองชาติใดภาษาใดกล่าววาจาล่วงเกินพระเจ้าของชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโกจะถูกฟันเป็นท่อนๆ และบ้านเรือนของเขาจะถูกพังทลายเป็นกองขยะ เพราะไม่มีเทพเจ้าอื่นใดสามารถช่วยได้ถึงเพียงนี้”

30 แล้วกษัตริย์ทรงเลื่อนตำแหน่งให้ชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโกให้สูงขึ้นในมณฑลบาบิโลน

1 ยอห์น 2:3-11

ถ้าเราเชื่อฟังพระบัญชาของพระองค์ เราก็รู้แน่ว่าเรารู้จักพระองค์ ผู้ที่พูดว่า “เรารู้จักพระองค์” แต่ไม่ทำตามสิ่งที่ทรงบัญชา ผู้นั้นก็โกหกและความจริงไม่ได้อยู่ในเขาเลย แต่ถ้าผู้ใดเชื่อฟังพระดำรัสของพระองค์ ความรักของพระเจ้า[a] ก็เต็มบริบูรณ์อยู่ในผู้นั้น ด้วยวิธีนี้เราจึงรู้ว่าเราอยู่ในพระองค์คือ ผู้ใดอ้างว่าอยู่ในพระองค์ ผู้นั้นต้องดำเนินชีวิตอย่างที่พระเยซูได้ทรงดำเนิน

เพื่อนที่รัก ข้าพเจ้าไม่ได้เขียนบัญญัติใหม่ถึงท่าน นี่เป็นบัญญัติเก่าซึ่งท่านมีมาตั้งแต่แรก บัญญัติเก่านี้คือเรื่องราวที่ท่านเคยได้ยินมาแล้ว แต่จะว่าข้าพเจ้าเขียนบัญญัติใหม่ถึงท่านก็ได้ ท่านเห็นบัญญัตินี้เป็นจริงในพระองค์และในท่านเอง เพราะความมืดกำลังผ่านพ้นไปและความสว่างแท้กำลังส่องแสงอยู่แล้ว

ผู้ใดที่อ้างว่าอยู่ในความสว่างแต่เกลียดชังพี่น้องของตนก็ยังอยู่ในความมืด 10 ผู้ที่รักพี่น้องของตนก็อยู่ในความสว่าง และไม่มีอะไรในผู้นั้น[b]ที่ทำให้ตัวเขาสะดุด 11 แต่ผู้ที่เกลียดชังพี่น้องของตนก็อยู่ในความมืดและเดินวนเวียนในความมืด เขาไม่รู้ว่าตนกำลังไปไหนเพราะความมืดทำให้เขาตาบอด

Thai New Contemporary Bible (TNCV)

Thai New Contemporary Bible Copyright © 1999, 2001, 2007 by Biblica, Inc.® Used by permission. All rights reserved worldwide.