Revised Common Lectionary (Complementary)
7 “เช่นนี้แหละบุตรมนุษย์เอ๋ย เราตั้งเจ้าให้เป็นยามรักษาการณ์สำหรับพงศ์พันธุ์อิสราเอล ฉะนั้นจงฟังถ้อยคำของเราและแจ้งคำเตือนของเราแก่พวกเขา 8 เมื่อเรากล่าวแก่คนชั่วร้ายว่า ‘คนชั่วเอ๋ย เจ้าจะตายแน่’ แล้วเจ้าไม่ได้พูดตักเตือนเขาให้หันจากวิถีความประพฤติ คนชั่วนั้นจะตายเนื่องจาก[a]บาปของตน และเราจะให้เจ้ารับผิดชอบความตายของคนนั้น 9 แต่หากเจ้าเตือนคนชั่วนั้นให้หันจากวิถีทางของตน แล้วเขาไม่ยอมทำตาม เขาจะตายเพราะบาปของตน ส่วนเจ้าจะรักษาชีวิตของตนไว้ได้
10 “บุตรมนุษย์เอ๋ย จงกล่าวแก่พงศ์พันธุ์อิสราเอลว่า ‘พวกเจ้ากล่าวว่า “การล่วงละเมิดและบาปของเราก็หนักอึ้งทับถมเรา เรากำลังย่อยยับไปเพราะ[b]บาปนั้น เราจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร?” ’ 11 จงบอกเขาว่า ‘พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศว่าเรามีชีวิตอยู่แน่ฉันใด เราไม่อยากให้คนชั่วต้องตายฉันนั้น แต่อยากให้เขาหันกลับจากทางชั่วและมีชีวิตอยู่ จงหันเสียจากทางชั่วเถิด! จะตายทำไมเล่า พงศ์พันธุ์อิสราเอลเอ๋ย?’
เฮ
33 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอทรงสอนข้าพระองค์ให้ปฏิบัติตามกฎหมายของพระองค์
แล้วข้าพระองค์จะรักษาไว้จนถึงที่สุด
34 โปรดประทานความเข้าใจ แล้วข้าพระองค์จะรักษาบทบัญญัติของพระองค์
และปฏิบัติตามด้วยสุดใจ
35 ขอทรงนำข้าพระองค์ไปตามทางที่ทรงบัญชา
เพราะข้าพระองค์ชื่นชมในทางนั้น
36 ขอทรงหันจิตใจของข้าพระองค์สู่กฎเกณฑ์ของพระองค์
ไม่มุ่งหาประโยชน์อย่างเห็นแก่ตัว
37 ขอทรงหันสายตาของข้าพระองค์จากสิ่งที่ไร้ค่า
ขอทรงสงวนชีวิตของข้าพระองค์ตามพระวจนะของพระองค์[a]
38 ขอทรงกระทำตามที่ทรงสัญญาไว้กับผู้รับใช้ของพระองค์
เพื่อพระองค์จะเป็นที่ยำเกรง
39 ขอทรงเอาความอับอายที่ข้าพระองค์หวาดกลัวออกไป
เพราะบทบัญญัติของพระองค์นั้นดี
40 ข้าพระองค์ฝักใฝ่ในข้อบังคับของพระองค์ยิ่งนัก!
ขอทรงสงวนชีวิตของข้าพระองค์ด้วยความชอบธรรมของพระองค์
จงรักกันเพราะวันนั้นใกล้เข้ามาแล้ว
8 อย่าติดค้างเป็นหนี้ใคร เว้นแต่หนี้ซึ่งไม่อาจจ่ายคืนได้หมด คือความรักที่มีต่อกันและกัน เพราะผู้ที่รักเพื่อนมนุษย์ก็ได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติอย่างครบถ้วนแล้ว 9 พระบัญญัติที่ว่า “อย่าล่วงประเวณี” “อย่าฆ่าคน” “อย่าลักขโมย” “อย่าโลภ”[a] และพระบัญญัติอื่นๆ ล้วนรวมอยู่ในข้อนี้คือ “จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง”[b] 10 ความรักไม่ทำร้ายเพื่อนบ้านของตน ฉะนั้นการมีความรักจึงเป็นการปฏิบัติตามบทบัญญัติอย่างครบถ้วนแล้ว
11 และจงทำอย่างนี้ด้วยเข้าใจว่าปัจจุบันเป็นเวลาอะไร ถึงเวลาแล้วที่ท่านจะตื่นจากหลับเพราะบัดนี้ความรอดของเราใกล้เข้ามามากยิ่งกว่าเมื่อเราแรกเชื่อ 12 กลางคืนเกือบจะจบสิ้นลง จวนจะรุ่งเช้าแล้ว ดังนั้นให้เราถอดพฤติการณ์ของความมืดออกไปและสวมยุทธภัณฑ์ของความสว่าง 13 ให้เราประพฤติตนอย่างเหมาะสมเหมือนอยู่ในเวลากลางวัน ไม่เที่ยวมั่วสุม เสพสุราเมามาย ไม่ทำผิดศีลธรรมทางเพศและเสเพล ไม่แตกก๊กแตกเหล่าและอิจฉาริษยากัน 14 แต่จงประดับกายด้วยองค์พระเยซูคริสต์เจ้า และอย่าคิดว่าจะสนองความปรารถนาของวิสัยบาป[c]อย่างไรดี
พี่น้องที่ทำผิดต่อเรา
15 “หากพี่น้องทำบาปต่อท่าน[a]จงไปชี้แจงแก่เขาสองต่อสอง ให้เขาเห็นความผิดของตน หากเขารับฟัง ท่านจะได้พี่น้องนั้นคืนมา 16 แต่ถ้าเขาไม่ยอมรับฟัง จงพาอีกสักคนสองคนไปด้วยเพื่อว่า ‘ทุกคดีจะได้มีพยานยืนยันสองสามปาก’[b] 17 หากเขายังยืนกรานไม่ฟัง จงแจ้งแก่คริสตจักร และหากเขายังไม่ยอมฟังแม้กระทั่งคริสตจักรก็ให้ปฏิบัติต่อเขาเสมือนเป็นคนต่างศาสนาหรือคนเก็บภาษี
18 “เราบอกความจริงแก่ท่านว่าพวกท่านผูกมัดสิ่งใดๆ ในโลก สิ่งนั้นจะ[c]ถูกผูกมัดในสวรรค์ และพวกท่านปลดปล่อยสิ่งใดๆ ในโลกสิ่งนั้นจะ[d]ถูกปลดปล่อยในสวรรค์
19 “เราบอกท่านอีกว่าหากท่านสักสองคนในโลกเห็นชอบร่วมกันในสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่ท่านทูลขอ พระบิดาของเราในสวรรค์จะทรงกระทำสิ่งนั้นให้แก่พวกท่าน 20 เพราะที่ไหนมีสองสามคนมาร่วมชุมนุมกันในนามของเรา เราก็อยู่กับพวกเขาที่นั่น”
Thai New Contemporary Bible Copyright © 1999, 2001, 2007 by Biblica, Inc.® Used by permission. All rights reserved worldwide.