Revised Common Lectionary (Complementary)
10 เพราะฝนและหิมะตกจากฟ้า
และไม่ย้อนกลับขึ้นไป แต่รดแผ่นดินโลก
ทำให้พืชงอกเติบโต
ให้เมล็ดแก่ผู้หว่านและอาหารแก่ผู้รับประทานเช่นไร
11 คำของเราก็จะเป็นอย่างนั้น คำซึ่งออกไปจากปากของเรา
จะไม่หวนกลับมาเปล่าๆ
แต่จะสำเร็จผลตามจุดประสงค์ของเรา
และจะสำเร็จในสิ่งที่เรามุ่งหมายไว้เช่นนั้น
12 เพราะเจ้าจะออกไปด้วยความยินดี
และถูกนำออกไปด้วยสันติสุข
เทือกเขาและเนินเขาที่อยู่เบื้องหน้าเจ้า
จะแซ่ซ้องด้วยเสียงเพลง
และต้นไม้ทั้งมวลในทุ่งนาจะปรบมือกัน
13 ต้นสนจะงอกขึ้นแทนไม้หนาม
ต้นเมอร์เทิลจะงอกขึ้นแทนพุ่มไม้หนาม
สิ่งเหล่านี้จะทำให้พระผู้เป็นเจ้าเป็นที่รู้จัก
เป็นสัญลักษณ์อันเป็นนิรันดร์ที่ไม่มีวันจะถูกทำลายลง”
เพลงสรรเสริญ เพลงสดุดี
บทเพลงสำหรับวันสะบาโต
1 การขอบคุณพระผู้เป็นเจ้าเป็นสิ่งดี
รวมทั้งการบรรเลงเพลงแด่พระนามของพระองค์ โอ องค์ผู้สูงสุด
2 นับว่าเป็นสิ่งดีที่จะประกาศความรักอันมั่นคงของพระองค์ในยามรุ่งอรุณ
และความสัตย์จริงของพระองค์ในยามราตรี
3 กับดนตรีจากพิณสิบสาย
และเพลงจากพิณเล็ก
4 โอ พระผู้เป็นเจ้า ข้าพเจ้าดีใจเพราะกิจการของพระองค์
ข้าพเจ้าเปล่งเสียงร้องด้วยความยินดีเพราะฝีมือการทำงานของพระองค์
12 คนมีความชอบธรรมจะงอกงามอย่างต้นอินทผลัม
เติบโตอย่างต้นซีดาร์ในเลบานอน
13 เขาเป็นดั่งต้นที่ปลูกไว้ในพระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้า
จะงอกงามในลานพระตำหนักของพระเจ้าของเรา
14 และยังออกผลในยามชรา
ยังสดและเขียวชอุ่ม
15 เพื่อประกาศว่า “พระผู้เป็นเจ้าเที่ยงธรรม
พระองค์เป็นศิลาของข้าพเจ้า และกอปรด้วยความเป็นธรรมโดยบริบูรณ์”
51 จงฟังเถิด ข้าพเจ้าจะบอกเรื่องอันลึกลับซับซ้อนให้ท่านรู้ว่า เราจะไม่ล่วงลับเสียทุกคน เพียงแต่เราทั้งหมดจะได้รับการเปลี่ยนแปลง 52 ในชั่วขณะเดียว ในพริบตาเดียว เมื่อแตรเป่าครั้งสุดท้าย เมื่อใดที่แตรจะเปล่งเสียง คนตายจะฟื้นคืนชีวิตและจะไม่มีวันเน่าเปื่อยได้อีก และเราจะได้รับการเปลี่ยนแปลงใหม่ 53 เพราะสิ่งที่เน่าเปื่อยต้องสวมด้วยความไม่เน่าเปื่อย และสิ่งที่ตายสวมด้วยสิ่งที่เป็นอมตะ 54 เมื่อสิ่งที่เน่าเปื่อยสวมด้วยสิ่งที่ไม่เน่าเปื่อย และสิ่งที่ตายสวมด้วยสิ่งที่เป็นอมตะ แล้วสิ่งที่บันทึกไว้ก็จะเป็นจริง
“ความตายถูกกลืนด้วยความมีชัย”[a]
55 “ความตายเอ๋ย ชัยชนะของเจ้าอยู่ที่ไหน
ความตายเอ๋ย เหล็กในของเจ้าอยู่ที่ไหน”[b]
56 เหล็กในของความตายคือบาป และอานุภาพของบาปคือกฎบัญญัติ 57 แต่ขอบคุณพระเจ้า พระองค์ให้เรามีชัยชนะโดยทางพระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา
58 ฉะนั้น พี่น้องทั้งหลายของข้าพเจ้าจงยืนหยัดไว้เถิด อย่ายอมให้สิ่งใดทำให้ท่านสั่นคลอนได้ จงปฏิบัติงานของพระผู้เป็นเจ้าให้เต็มที่อยู่เสมอ เพราะท่านทราบว่าน้ำพักน้ำแรงของท่านในการรับใช้พระผู้เป็นเจ้าจะไม่ไร้ประโยชน์
39 พระองค์กล่าวเป็นอุปมาแก่เขาว่า “คนตาบอดสามารถนำทางให้คนตาบอดได้หรือไม่ ทั้งสองจะไม่พากันตกลงในบ่อหรือ 40 ศิษย์จะไม่เหนือไปกว่าอาจารย์ แต่ทุกคนที่ได้รับการอบรมฝึกฝนครบถ้วนจะเป็นดังเช่นอาจารย์ของเขา 41 เหตุใดท่านจึงมองเห็นผงในดวงตาของพี่น้องของท่าน แต่ไม่สังเกตเห็นไม้ท่อนใหญ่ในดวงตาของท่านเอง 42 ท่านพูดกับพี่น้องของท่านได้อย่างไรว่า ‘พี่น้องเอ๋ย ให้เราเขี่ยผงออกจากดวงตาของท่านเถิด’ ทั้งๆ ที่ตัวท่านไม่สามารถเห็นไม้ท่อนใหญ่ในดวงตาของท่านเอง คนหน้าไหว้หลังหลอกเอ๋ย ท่านต้องเอาไม้ท่อนใหญ่ออกจากดวงตาของท่านเสียก่อน จึงจะเห็นอย่างชัดเจน แล้วจะได้เขี่ยผงออกจากดวงตาของพี่น้องของท่านได้
ผลที่ได้จากต้นไม้
43 ไม้ดีย่อมไม่ให้ผลเลว ไม้เลวจะให้ผลดีก็ไม่ได้เช่นกัน 44 ด้วยว่า เราดูชนิดของต้นไม้ได้จากผลของมัน เราไม่สามารถเก็บผลมะเดื่อจากพืชพันธุ์ไม้มีหนาม หรือองุ่นจากพุ่มไม้ประเภทหนามได้ 45 คนดีย่อมแสดงสิ่งดีที่สะสมอยู่ในใจของเขาออกมา และคนชั่วย่อมแสดงสิ่งชั่วที่สะสมอยู่ในใจของเขาออกมาเช่นกัน เพราะว่าปากย่อมพูดแต่สิ่งที่อยู่ในใจ
ฐานรากอันมั่นคง
46 ทำไมท่านจึงเรียกเราว่า ‘พระองค์ท่าน พระองค์ท่าน’ แต่ไม่ทำตามที่เราพูด 47 เราจะชี้แจงให้ท่านเข้าใจว่า ทุกคนที่มาหาเรา ได้ยินคำของเราและปฏิบัติตาม เขาจะเป็นเช่นไร 48 เขาเหมือนกับคนที่กำลังสร้างบ้านหลังหนึ่ง และขุดลึกลงไปเพื่อวางฐานรากบนหิน เมื่อน้ำท่วม กระแสน้ำก็ซัดสาดขึ้นมา แต่ก็มิอาจขยับบ้านได้ เพราะว่าเป็นบ้านที่สร้างไว้อย่างดี 49 แต่ผู้ที่ได้ยินคำของเราและไม่ปฏิบัติตาม ก็เปรียบเสมือนคนที่สร้างบ้านบนพื้นซึ่งไม่มีฐานราก เมื่อกระแสน้ำซัดมาบ้านก็พังทลายลงได้ และความเสียหายนั้นยิ่งใหญ่นัก”
Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation