Revised Common Lectionary (Complementary)
อาเลฟ
119 ความสุขมีแก่ผู้ที่วิถีทางของเขาไร้ที่ติ
ผู้ซึ่งประพฤติตามบทบัญญัติขององค์พระผู้เป็นเจ้า
2 ความสุขมีแก่ผู้ที่รักษากฎเกณฑ์ของพระองค์
และแสวงหาพระองค์หมดทั้งใจ
3 เขาไม่ทำสิ่งที่ผิด
แต่ดำเนินอยู่ในทางของพระองค์
4 พระองค์ประทานข้อบังคับ
ซึ่งต้องเชื่อฟังอย่างเต็มที่
5 ขอให้วิถีทางของข้าพระองค์มั่นคงแน่วแน่
ในการปฏิบัติตามกฎหมายของพระองค์!
6 แล้วข้าพระองค์จะไม่ต้องอับอาย
เมื่อข้าพระองค์พิเคราะห์พระบัญชาทั้งสิ้นของพระองค์
7 ข้าพระองค์จะสรรเสริญพระองค์ด้วยจิตใจเที่ยงตรง
เมื่อเรียนรู้บทบัญญัติอันชอบธรรมของพระองค์
8 ข้าพระองค์จะเชื่อฟังกฎหมายของพระองค์
ขออย่าทรงละทิ้งข้าพระองค์ไป
34 แล้วแผ่นดินจะได้ชื่นชมกับปีสะบาโตของมันตลอดช่วงที่ถูกทิ้งร้างซึ่งเจ้าตกอยู่ในดินแดนของศัตรู แผ่นดินจะได้พักสงบและชื่นชมกับสะบาโตของมัน 35 ตลอดช่วงที่ถูกทิ้งร้าง แผ่นดินจะได้พักสงบ ชดเชยกับที่ไม่ได้หยุดพักในช่วงสะบาโตขณะที่เจ้าอาศัยอยู่ในแผ่นดิน
36 “ ‘สำหรับพวกที่เหลืออยู่ เราจะทำให้จิตใจของพวกเขาหวาดหวั่นขวัญผวาในแดนของศัตรูถึงขนาดเสียงใบไม้ถูกลมพัดปลิวก็ทำให้พวกเขาหนีไป เขาจะวิ่งราวกับหนีเตลิดจากคมดาบ และเขาจะล้มลงแม้ไม่มีใครไล่ตาม 37 เขาจะสะดุดล้มทับกันราวกับหนีเตลิดจากคมดาบแม้ไม่มีใครรุกไล่พวกเขา ดังนั้นเจ้าจะไม่สามารถยืนหยัดต่อหน้าศัตรูของเจ้า 38 เจ้าจะพินาศในหมู่ประชาชาติทั้งหลาย และถูกกลืนหายไปในดินแดนของศัตรู 39 คนที่เหลืออยู่จะเสื่อมโทรมไปในดินแดนของศัตรูเพราะบาปของพวกเขา และเพราะบาปของบรรพบุรุษของพวกเขา
40 “ ‘แต่หากพวกเขาสารภาพบาปของตนและบาปของบรรพบุรุษที่พวกเขาขัดขืนต่อต้านเรา 41 ซึ่งทำให้เราเป็นศัตรูกับเขา จนเราส่งพวกเขาไปยังดินแดนของเหล่าศัตรู ตราบจนจิตใจที่ไม่ได้เข้าสุหนัตของเขาถ่อมลงและพวกเขาชดใช้บาปของตน 42 เมื่อนั้นเราจะระลึกถึงพันธสัญญาของเราที่ให้ไว้กับยาโคบ อิสอัค และอับราฮัม และจะระลึกถึงแผ่นดินนั้น 43 เพราะแผ่นดินนั้นจะชื่นชมกับสะบาโตของมันขณะที่ถูกทิ้งร้างอยู่ พวกเขาจะชดใช้บาปของตนที่ได้ละทิ้งบทบัญญัติของเราและเกลียดชังกฎหมายของเรา 44 แต่กระนั้นเมื่อเขาอยู่ในดินแดนของศัตรู เราจะไม่ปฏิเสธหรือเกลียดชังพวกเขาจนถึงกับทำลายล้างพวกเขาให้หมดสิ้น ซึ่งเป็นการละเมิดพันธสัญญาของเรากับพวกเขา เราคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเขา 45 แต่เพื่อเห็นแก่พวกเขา เราจะระลึกถึงพันธสัญญาที่ให้ไว้กับบรรพบุรุษของพวกเขาซึ่งเราได้พาออกมาจากอียิปต์ต่อหน้าประชาชาติทั้งหลาย เพื่อเป็นพระเจ้าของพวกเขา เราคือพระยาห์เวห์’ ”
46 ทั้งหมดนี้คือกฎหมาย บทบัญญัติ และกฎระเบียบ ซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงตั้งไว้ระหว่างพระองค์เองกับชนอิสราเอลผ่านทางโมเสสบนภูเขาซีนาย
7 เพื่อนที่รัก ข้าพเจ้าไม่ได้เขียนบัญญัติใหม่ถึงท่าน นี่เป็นบัญญัติเก่าซึ่งท่านมีมาตั้งแต่แรก บัญญัติเก่านี้คือเรื่องราวที่ท่านเคยได้ยินมาแล้ว 8 แต่จะว่าข้าพเจ้าเขียนบัญญัติใหม่ถึงท่านก็ได้ ท่านเห็นบัญญัตินี้เป็นจริงในพระองค์และในท่านเอง เพราะความมืดกำลังผ่านพ้นไปและความสว่างแท้กำลังส่องแสงอยู่แล้ว
9 ผู้ใดที่อ้างว่าอยู่ในความสว่างแต่เกลียดชังพี่น้องของตนก็ยังอยู่ในความมืด 10 ผู้ที่รักพี่น้องของตนก็อยู่ในความสว่าง และไม่มีอะไรในผู้นั้น[a]ที่ทำให้ตัวเขาสะดุด 11 แต่ผู้ที่เกลียดชังพี่น้องของตนก็อยู่ในความมืดและเดินวนเวียนในความมืด เขาไม่รู้ว่าตนกำลังไปไหนเพราะความมืดทำให้เขาตาบอด
12 ลูกที่รัก ข้าพเจ้าเขียนถึงท่านทั้งหลาย
เพราะบาปของท่านได้รับการอภัยแล้วเนื่องด้วยพระนามของพระองค์
13 บิดาทั้งหลาย ข้าพเจ้าเขียนถึงท่าน
เพราะท่านได้รู้จักพระองค์ผู้ทรงดำรงอยู่ตั้งแต่ปฐมกาล
หนุ่มสาวทั้งหลาย ข้าพเจ้าเขียนถึงท่าน
เพราะท่านได้ชนะมารร้ายนั้น
14 ลูกที่รัก ข้าพเจ้าเขียนถึงท่านทั้งหลาย
เพราะท่านได้รู้จักพระบิดา
บิดาทั้งหลาย ข้าพเจ้าเขียนถึงท่าน
เพราะท่านได้รู้จักพระองค์ผู้ทรงดำรงอยู่ตั้งแต่ปฐมกาล
หนุ่มสาวทั้งหลาย ข้าพเจ้าเขียนถึงท่าน
เพราะท่านเข้มแข็ง
และพระวจนะของพระเจ้าดำรงอยู่ในท่าน
และท่านได้ชนะมารร้ายนั้น
อย่ารักโลก
15 อย่ารักโลกหรือสิ่งใดๆ ในโลก ถ้าผู้ใดรักโลก ความรักของพระบิดาก็ไม่ได้อยู่ในผู้นั้น 16 เพราะทุกสิ่งในโลกไม่ว่าจะเป็นตัณหาของเนื้อหนัง ตัณหาของตา และความทะนงในสิ่งที่ตนมีหรือทำ ไม่ได้มาจากพระบิดาแต่มาจากโลก 17 โลกกับความปรารถนาต่างๆ ของโลกก็ล่วงไป แต่ผู้ที่ทำตามพระประสงค์ของพระเจ้าดำรงอยู่ตลอดกาล
Thai New Contemporary Bible Copyright © 1999, 2001, 2007 by Biblica, Inc.® Used by permission. All rights reserved worldwide.