Old/New Testament
ลูกชายของเยโรโบอัมตาย
14 ในเวลานั้นอาบียาห์ลูกชายของเยโรโบอัมไม่สบาย 2 เยโรโบอัมได้พูดกับเมียของเขาว่า “ไปปลอมตัวสิเพื่อคนจะได้ไม่รู้ว่าน้องคือเมียของพี่ แล้วให้น้องไปหาอาหิยาห์ผู้พูดแทนพระเจ้าที่ชิโลห์ เขาคือคนที่เคยบอกพี่ว่า พี่จะได้เป็นกษัตริย์เหนือประชาชนพวกนี้ 3 ให้เอาขนมปังไปสิบก้อน ขนมเค้ก น้ำเชื่อมผลไม้หนึ่งไห แล้วให้ไปหาเขา เขาจะบอกได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับลูกของเรา”
4 เมียของเยโรโบอัมจึงทำตามที่เขาบอก และไปบ้านของอาหิยาห์ในชิโลห์ ตอนนั้น อาหิยาห์มองไม่เห็นแล้ว สายตาของเขาใช้การไม่ได้เพราะเขาแก่มาก 5 แต่พระยาห์เวห์บอกกับอาหิยาห์ว่า “เมียของเยโรโบอัมกำลังจะมาหาเจ้า เพื่อถามเจ้าเกี่ยวกับลูกชายของนาง เพราะเด็กคนนั้นไม่สบาย เมื่อนางมาถึง ให้เจ้าตอบนางไปว่าอย่างนี้ๆ นางจะปลอมตัวมา”
6 เมื่ออาหิยาห์ได้ยินเสียงฝีเท้าของนางที่ประตู เขาจึงพูดว่า “เข้ามาเถิด เมียของเยโรโบอัม ทำไมต้องปลอมตัวมาด้วย พระเจ้าให้เราบอกข่าวร้ายกับท่าน 7 ให้ไปบอกเยโรโบอัมว่า ‘พระยาห์เวห์ พระเจ้าของอิสราเอลพูดไว้ว่าอย่างนี้ เราได้ยกเจ้าขึ้นมาจากท่ามกลางประชาชน และทำให้เจ้าเป็นผู้นำเหนือประชาชนชาวอิสราเอลของเรา 8 เราได้ฉีกอาณาจักรจากครอบครัวของดาวิดและยกมันให้กับเจ้า แต่เจ้าไม่เหมือนกับดาวิดผู้รับใช้เรา ผู้ซึ่งรักษาคำสั่งของเราและทำตามเราอย่างสุดใจของเขา เขาได้ทำแต่สิ่งที่ถูกต้องในสายตาของเรา 9 แต่เจ้ากลับทำความชั่วไว้มากมายกว่าคนอื่นๆที่เคยมีชีวิตอยู่ก่อนหน้าเจ้า เจ้าได้สร้างพวกพระอื่นสำหรับตัวเจ้าเอง คือรูปเคารพที่หล่อจากเหล็ก เจ้ายั่วเราให้โกรธและเหวี่ยงเราทิ้งไปข้างหลังเจ้า 10 เพราะอย่างนี้ เยโรโบอัม เราจะนำความหายนะมาสู่ครอบครัวของเจ้า เราจะตัดผู้ชายทุกคนในอิสราเอลออกจากเจ้า ทั้งทาสและคนที่ไม่ใช่ทาส เราจะเผาบ้านของเจ้าเหมือนกับเผามูลสัตว์จนกว่ามันจะมอดไหม้ไปหมด 11 พวกหมาจะมากินซากคนของเจ้าที่ตายอยู่ในเมือง และพวกนกบนท้องฟ้าจะมากินคนที่ตายอยู่ในชนบท พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนี้’”
12 แล้วอาหิยาห์ก็พูดว่า “ส่วนตัวเจ้า กลับบ้านไปเถอะ ทันทีที่เจ้าก้าวเท้าเข้าไปในเมือง ลูกชายของเจ้าจะตาย 13 อิสราเอลทั้งหมดจะไว้ทุกข์ให้กับเขาและฝังศพเขา เขาจะเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของเยโรโบอัมที่จะได้รับการฝัง เพราะเขาเป็นผู้เดียวในครอบครัวของเยโรโบอัมที่พระยาห์เวห์ พระเจ้าของอิสราเอลยังเห็นว่ามีความดีอยู่บ้าง 14 พระยาห์เวห์จะยกคนหนึ่งขึ้นเป็นกษัตริย์เหนืออิสราเอลสำหรับพระองค์เอง เขาเป็นผู้ที่จะตัดครอบครัวของเยโรโบอัมทิ้งไปในวันนี้ ใช่แล้ว ในเวลานี้เลย 15 พระยาห์เวห์จะทำลายอิสราเอล เหมือนกับต้นอ้อที่โอนเอียงไปในน้ำ พระองค์จะถอนรากถอนโคนอิสราเอลออกจากแผ่นดินที่ดีแห่งนี้ที่พระองค์ได้ยกให้กับพวกบรรพบุรุษของพวกเขาก่อนหน้านี้ และพระองค์จะทำให้พวกเขากระจัดกระจายไปไกลเลยแม่น้ำยูเฟรติสไป เพราะพวกเขาได้ยั่วให้พระยาห์เวห์โกรธ โดยการสร้างพวกเสาเจ้าแม่อาเชราห์ขึ้น 16 พระองค์จะให้อิสราเอลพ่ายแพ้ เพราะบาปต่างๆที่เยโรโบอัมได้ทำไป รวมทั้งบาปที่เขาได้ให้ชาวอิสราเอลทำด้วย”
17 แล้วเมียของเยโรโบอัมก็ลุกขึ้นจากไป นางกลับมาถึงเมืองทีรซาห์ ทันทีที่นางก้าวเท้าข้ามธรณีประตูของบ้านเข้ามา เด็กชายคนนั้นก็ตาย 18 พวกเขาฝังเด็กไว้และอิสราเอลทั้งหมดก็ไว้ทุกข์ให้เขาเหมือนกับที่พระยาห์เวห์ได้พูดไว้ผ่านทางอาหิยาห์ผู้พูดแทนพระเจ้าซึ่งเป็นผู้รับใช้พระองค์
19 เหตุการณ์อื่นๆที่เกิดขึ้นในยุคสมัยของเยโรโบอัม ทั้งสงครามและวิธีการปกครองของเขาได้จดบันทึกไว้แล้วในสมุดประวัติของบรรดากษัตริย์ของอิสราเอล 20 เยโรโบอัมได้ครองราชย์อยู่ยี่สิบสองปีและได้ตายไปอยู่กับบรรพบุรุษของเขา และนาดับลูกชายของเขาก็ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์สืบต่อจากเขา
เรโหโบอัม กษัตริย์ของยูดาห์
(2 พศด. 11:5-12:16)
21 ส่วนเรโหโบอัมลูกชายของซาโลมอนได้ขึ้นเป็นกษัตริย์อยู่ในยูดาห์ เขามีอายุสี่สิบเอ็ดปี ตอนที่เขาขึ้นเป็นกษัตริย์ และเขาครองราชย์อยู่เป็นเวลาสิบเจ็ดปีในเมืองเยรูซาเล็ม ซึ่งเป็นเมืองที่พระยาห์เวห์ได้เลือกออกมาจากบรรดาเผ่าต่างๆของอิสราเอล เพื่อที่จะเป็นที่ที่ชื่อของพระองค์จะได้รับเกียรติ แม่ของเรโหโบอัมชื่อนาอามาห์เป็นชาวอัมโมน
22 ชาวยูดาห์ได้ทำความชั่วในสายตาของพระยาห์เวห์ บาปที่พวกเขาทำ ยั่วให้พระยาห์เวห์เกิดความหวงแหน พวกเขาทำให้พระยาห์เวห์โกรธ พวกเขาได้ทำสิ่งที่เลวร้ายกว่าที่พวกบรรพบุรุษของพวกเขาเคยทำไว้เสียอีก 23 พวกเขาได้จัดตั้งสถานที่นมัสการขึ้นหลายแห่งสำหรับตัวพวกเขาเอง พวกเขาได้ตั้งก้อนหินศักดิ์สิทธิ์และพวกเสาเจ้าแม่อาเชราห์ไว้ตามเนินเขาสูงทุกแห่ง และใต้ต้นไม้ทุกต้นที่มีกิ่งก้านแผ่ออกมา 24 ยังมีพวกผู้ชายขายตัวตามพวกศาลเจ้าในแผ่นดินนั้นด้วย ประชาชนต่างทำตามเรื่องน่าสะอิดสะเอียนทั้งหลายของชนชาติเหล่านั้น ที่พระยาห์เวห์เคยขับไล่ออกไปต่อหน้าชาวอิสราเอล
25 ในปีที่ห้าของกษัตริย์เรโหโบอัม กษัตริย์ชิชักแห่งอียิปต์ได้ขึ้นมาโจมตีเมืองเยรูซาเล็ม 26 เขาได้ขนเอาทรัพย์สมบัติต่างๆไปจากวิหารของพระยาห์เวห์ และจากวังของกษัตริย์ เขาได้เอาทุกสิ่งทุกอย่างไปรวมทั้งพวกโล่ทองคำที่ซาโลมอนได้ทำขึ้นด้วย 27 ดังนั้น กษัตริย์เรโหโบอัมจึงได้สร้างโล่ทองสัมฤทธิ์ขึ้นมาแทนที่ของเหล่านั้น และมอบพวกมันไว้กับพวกทหารยามที่เข้าเวรอยู่หน้าประตูวัง 28 และทุกครั้งที่กษัตริย์จะเข้าไปที่วิหารของพระยาห์เวห์ พวกทหารยามก็จะถือโล่เหล่านี้ไปด้วย และหลังจากนั้นก็จะเอากลับไปเก็บไว้ในห้องของยาม
29 เหตุการณ์อื่นๆในยุคสมัยของเรโหโบอัมและทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาได้ทำไป ได้จดบันทึกไว้หมดแล้วในหนังสือประวัติของบรรดากษัตริย์ของยูดาห์ 30 มันเป็นยุคที่มีสงครามเกิดขึ้นตลอดเวลาระหว่างเรโหโบอัมกับเยโรโบอัม
31 เรโหโบอัมก็ได้ล่วงลับไปอยู่กับบรรพบุรุษ ของเขาและถูกฝังรวมกับพวกเขาอยู่ในเมืองของดาวิด แม่ของเขาชื่อนาอามาห์ นางเป็นชาวอัมโมน และอาบียัมลูกชายของเขาก็ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์สืบต่อจากเขา
อาบียัมกษัตริย์ของยูดาห์
(2 พศด. 13:1-14:1)
15 อาบียัม[a] ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์องค์ใหม่ของยูดาห์ ซึ่งตรงกับปีที่สิบแปดที่เยโรโบอัมปกครองอิสราเอล เยโรโบอัมเป็นลูกชายของเนบัท 2 อาบียัมได้ปกครองเยรูซาเล็มเป็นเวลาสามปี แม่ของเขาชื่อมาอาคาห์ นางเป็นลูกสาวของอาบีชาโลม[b]
3 อาบียัมได้ทำบาปทุกอย่างเหมือนกับที่พ่อของเขาทำไว้ก่อนหน้าเขา ใจของเขาไม่สัตย์ซื่อต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของเขา ไม่เหมือนกับใจของดาวิดบรรพบุรุษของเขาที่สัตย์ซื่อนั้น 4 อย่างไรก็ตาม เพื่อเห็นแก่ดาวิด พระยาห์เวห์พระเจ้าของดาวิดได้ให้ตะเกียงแก่เขาหนึ่งดวงในเยรูซาเล็ม คือได้ตั้งลูกชายคนหนึ่งของดาวิดขึ้นเป็นกษัตริย์สืบต่อจากเขา และทำให้เมืองเยรูซาเล็มแข็งแกร่ง 5 เพราะดาวิดได้ทำในสิ่งที่ถูกต้องในสายตาของพระยาห์เวห์ แล้วไม่ได้หันเหไปจากสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่พระองค์ได้สั่งเขาไว้ตลอดชั่วชีวิตของเขา ยกเว้นในเรื่องของอุรียาห์[c]ชาวฮิตไทต์เท่านั้น
6 [d] 7 ส่วนเหตุการณ์อื่นๆในยุคของอาบียัม และทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาได้ทำไป ได้จดบันทึกไว้ในหนังสือประวัติของบรรดากษัตริย์ของยูดาห์ มีการทำสงครามกันระหว่างอาบียัมและเยโรโบอัม 8 อาบียัมล่วงลับไปอยู่กับบรรพบุรุษของเขาและถูกฝังอยู่ในเมืองของดาวิด และอาสาลูกชายของเขาขึ้นเป็นกษัตริย์สืบต่อจากเขา
กษัตริย์อาสาของยูดาห์
(2 พศด. 14:1-2; 15:16-19)
9 ในปีที่ยี่สิบที่เยโรโบอัมเป็นกษัตริย์ของอิสราเอล อาสาได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ของยูดาห์ 10 เขาครองบัลลังก์อยู่ในเยรูซาเล็มเป็นเวลาสี่สิบเอ็ดปี ย่าของเขามีชื่อว่ามาอาคาห์ นางเป็นลูกสาวของอาบีชาโลม
11 อาสาทำสิ่งที่ถูกต้องในสายตาของพระยาห์เวห์ เหมือนกับที่ดาวิดบรรพบุรุษของเขาทำ 12 เขาขับไล่พวกผู้ชายขายตัว ตามศาลเจ้าออกไปจากแผ่นดินนี้ และกำจัดพวกรูปเคารพทั้งหมดที่บรรพบุรุษของเขาได้สร้างทิ้งไว้ 13 เขายังปลดมาอาคาห์ แม่ของเขาออกจากตำแหน่งแม่ของกษัตริย์ เพราะนางได้สร้างเสาเจ้าแม่อาเชราห์ที่น่าขยะแขยงขึ้นมาต้นหนึ่ง อาสาโค่นเสาต้นนั้นทิ้งและเผาทิ้งในหุบเขาขิดโรน 14 ถึงแม้ว่าเขาไม่ได้รื้อพวกสถานที่นมัสการทั้งหลายทิ้ง แต่ใจของอาสายังสัตย์ซื่อกับพระยาห์เวห์ตลอดชีวิตของเขา 15 เขานำพวกเงิน ทองและข้าวของเครื่องใช้ต่างๆที่เขาและพ่อของเขาได้บนบานไว้ต่อพระยาห์เวห์ มาไว้ที่วิหารของพระยาห์เวห์
อาสาผูกมิตรกษัตริย์ของอารัม
(2 พศด. 16:6, 11-13)
16 ในยุคนั้น อาสากับกษัตริย์บาอาชาแห่งอิสราเอลได้ทำสงครามกันอยู่ตลอดเวลา 17 กษัตริย์บาอาชาของอิสราเอลขึ้นไปต่อสู้กับยูดาห์และได้สร้างป้อมรามาห์ขึ้น เพื่อกันไม่ให้ใครเข้าออกจากแผ่นดินของกษัตริย์อาสาแห่งยูดาห์ 18 กษัตริย์อาสาจึงเอาเงินและทองที่หลงเหลืออยู่ในคลังของวิหารของพระยาห์เวห์ และในวังของเขาเอง แล้วนำไปมอบให้กับพวกเจ้าหน้าที่ ให้เอาไปให้กับกษัตริย์เบนฮาดัดของอารัม ที่ปกครองอยู่ในเมืองดามัสกัส เบนฮาดัดเป็นลูกชายของทับริมโมน ทับริมโมนเป็นลูกชายของเฮซีโอน 19 อาสาให้คนของเขาพูดกับเบนฮาดัดว่า “เรามาเป็นพันธมิตรกันเถิด ให้เหมือนกับที่พ่อของเรากับพ่อของท่านเคยทำกันไว้ ดูสิ เราได้ส่งของขวัญเป็นเงินและทองมาให้ท่าน ขอท่านช่วยเลิกเป็นพันธมิตรกับกษัตริย์บาอาชาของอิสราเอลด้วยเถิด เพื่อเขาจะได้ยกทัพกลับไปจากเรา”
20 เบนฮาดัดก็ตกลงเป็นพันธมิตรกับกษัตริย์อาสา และส่งพวกแม่ทัพของกองทัพเขาไปโจมตีเมืองต่างๆของอิสราเอล เขาเอาชนะเมืองอิโยน เมืองดาน เมืองอาเบล-เบธมาอาคาห์ และหมู่บ้านทั้งหมดตามแถบทะเลสาบกาลิลี รวมถึงดินแดนนัฟทาลีทั้งหมดด้วย 21 เมื่อบาอาชารู้เรื่องเข้า เขาก็หยุดสร้างป้อมรามาห์และถอนทัพกลับไปที่ทีรซาห์ 22 แล้วกษัตริย์อาสาก็ได้มีคำสั่งไปถึงชาวยูดาห์ทั้งหมด ไม่เว้นแม้แต่คนเดียว ให้พวกเขาไปรื้อเอาหินและไม้ที่ป้อมรามาห์ที่บาอาชาสร้างค้างไว้ แล้วกษัตริย์อาสาก็เอาของเหล่านั้นมาสร้างเมืองเกบาขึ้นในเขตแดนของเบนยามินและสร้างเมืองมิสปาห์ด้วย
23 ส่วนเหตุการณ์อื่นๆที่เกิดขึ้นในยุคสมัยของกษัตริย์อาสา ความสำเร็จทุกอย่างของเขา ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาทำและเมืองต่างๆที่เขาสร้างขึ้น ได้จดบันทึกไว้แล้วในหนังสือประวัติของบรรดากษัตริย์แห่งยูดาห์ แต่ตอนที่เขาแก่ตัวลง เท้าทั้งสองข้างของเขาเป็นโรค 24 แล้วอาสาก็ล่วงลับไปอยู่กับบรรพบุรุษของเขาและถูกฝังอยู่กับพวกเขาในเมืองของดาวิด บรรพบุรุษของเขา และเยโฮชาฟัทลูกชายของเขาก็ขึ้นเป็นกษัตริย์สืบต่อจากเขา
กษัตริย์นาดับแห่งอิสราเอล
25 นาดับลูกชายของเยโรโบอัมขึ้นเป็นกษัตริย์ของอิสราเอล ตรงกับปีที่สองที่อาสาเป็นกษัตริย์ของยูดาห์ นาดับปกครองอยู่เหนืออิสราเอลเป็นเวลาสองปี 26 เขาทำความชั่วในสายตาของพระยาห์เวห์ เขาเดินตามรอยพ่อเขาและทำบาปเหมือนกับพ่อซึ่งทำให้ชาวอิสราเอลหลงไปทำบาปด้วย
27 บาอาชา ลูกชายของอาหิยาห์ จากครอบครัวอิสสาคาร์วางแผนฆ่านาดับ และได้ฆ่านาดับตายที่เมืองกิบเบโธนของชาวฟีลิสเตีย ตอนที่นาดับและอิสราเอลทั้งหมดกำลังล้อมเมืองนั้นอยู่ 28 บาอาชาฆ่านาดับในปีที่สามที่อาสาเป็นกษัตริย์แห่งยูดาห์ แล้วบาอาชาก็ขึ้นเป็นกษัตริย์สืบต่อจากนาดับ
กษัตริย์บาอาชาของอิสราเอล
29 ทันทีที่บาอาชาขึ้นเป็นกษัตริย์ เขาได้ฆ่าคนในครอบครัวของเยโรโบอัมทิ้งจนหมด เขาไม่ยอมไว้ชีวิตคนในครอบครัวนี้เลยแม้แต่คนเดียว แต่กลับทำลายพวกเขาจนหมด ซึ่งเป็นไปตามคำพูดของพระยาห์เวห์ที่เคยพูดไว้ผ่านทางอาหิยาห์ชาวชิโลห์ ผู้รับใช้ของพระองค์ 30 เป็นเพราะบาปทั้งหลายของเยโรโบอัมที่ได้ทำไว้ ซึ่งเป็นต้นเหตุที่ทำให้ชาวอิสราเอลพลอยทำบาปไปด้วย และเพราะเขาได้ไปยั่วพระยาห์เวห์พระเจ้าของอิสราเอลให้โกรธ
31 เหตุการณ์อื่นๆในยุคสมัยของนาดับและทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาได้ทำ ได้จดบันทึกไว้แล้วในหนังสือประวัติของพวกกษัตริย์แห่งอิสราเอล 32 กษัตริย์อาสาและกษัตริย์บาอาชาทำสงครามกันตลอดเวลาในยุคของพวกเขา
33 ในปีที่สามที่อาสาเป็นกษัตริย์ของยูดาห์ บาอาชา ลูกชายของอาหิยาห์ขึ้นเป็นกษัตริย์อยู่ที่ทีรซาห์ เขาได้ครอบครองอิสราเอลทั้งหมด และเขาครองราชย์อยู่เป็นเวลายี่สิบสี่ปี 34 เขาได้ทำความชั่วในสายตาของพระยาห์เวห์ เขาเดินตามรอยเยโรโบอัม และทำบาปเหมือนกับเยโรโบอัม ซึ่งทำให้ชาวอิสราเอลหลงไปทำบาปด้วย
อย่าทิ้งความเชื่อ
(มธ. 26:31-35; มก. 14:27-31; ยน. 13:36-38)
31 “เปโตรเอ๋ย เปโตร[a] ฟังให้ดี ซาตานได้ขอนำพวกคุณแต่ละคน ไปฝัดร่อนเหมือนข้าวเปลือก 32 แต่ เปโตร เราได้อธิษฐานให้คุณมีความเชื่อที่มั่นคง และเมื่อคุณหันกลับมาหาเราแล้ว ก็ให้ช่วยเหลือพี่น้องคนอื่นๆให้ตั้งมั่นคงอยู่ในความเชื่อด้วย”
33 เปโตรบอกว่า “ผมพร้อมที่จะติดคุกและตายพร้อมกับอาจารย์ครับ” 34 พระองค์ตอบว่า “เปโตร เราจะบอกให้รู้ว่า คืนนี้ก่อนไก่ขัน คุณจะพูดว่าไม่รู้จักเราถึงสามครั้ง”
ให้เตรียมพร้อมสำหรับปัญหายุ่งยาก
35 พระเยซูถามพวกศิษย์เอกว่า “แล้วตอนที่เราส่งพวกคุณออกไป โดยไม่มีกระเป๋าเงิน ถุงย่าม และรองเท้า พวกคุณขาดแคลนอะไรกันหรือเปล่า”
พวกเขาตอบว่า “ไม่ขาดแคลนอะไรเลยครับ”
36 พระองค์พูดว่า “แต่ตอนนี้ คนที่มีกระเป๋าเงินหรือถุงย่าม ก็ให้เอาติดตัวไปด้วย และถ้าใครไม่มีดาบ ก็ให้เอาเสื้อผ้าไปขาย แล้วไปซื้อดาบซะ 37 ที่เราบอกให้ทำอย่างนี้ ก็เพราะว่า มีข้อพระคัมภีร์เขียนไว้ว่า
‘เขาถูกนับเป็นอาชญากรคนหนึ่งด้วย’ ซึ่งหมายถึงตัวเราเอง
และมันก็จะเป็นจริงตามนั้น”[b]
38 พวกเขาจึงบอกว่า “อาจารย์ครับ นี่ไง ดาบสองเล่ม” แต่พระองค์บอกว่า “เลิกพูดเรื่องนี้ได้แล้ว”
อธิษฐานบนภูเขา
(มธ. 26:36-46; มก. 14:32-42)
39 พระเยซูออกไปที่ภูเขามะกอกเทศอีกตามเคย พวกศิษย์ก็ตามไปด้วย 40 เมื่อไปถึง พระองค์พูดว่า “ให้อธิษฐาน ขออย่าให้ตัวเองแพ้ต่อการยั่วยวน”
41 พระองค์ปลีกตัวออกไปใกล้ๆแค่ระยะขว้างหินตก แล้วพระองค์ก็คุกเข่าลงอธิษฐานว่า 42 “พระบิดา ถ้าพระองค์พอใจ ช่วยเอาถ้วย[c] แห่งความทุกข์นี้ไปจากลูกด้วยเถิด แต่ขอให้เป็นไปตามใจของพระบิดา ไม่ใช่ตามใจตัวลูกเอง” 43 แล้วก็มีทูตสวรรค์ลงมาให้กำลังใจพระองค์ 44 พระองค์ต่อสู้ดิ้นรนอย่างหนักในการอธิษฐาน จนเหงื่อไหลเหมือนหยดเลือดตกบนพื้นดิน[d] 45 เมื่ออธิษฐานแล้ว พระองค์ลุกขึ้นเดินกลับไป แต่เห็นพวกศิษย์นอนหลับกันหมด เพราะเสียใจจนหมดแรง 46 พระองค์จึงพูดว่า “ทำไมยังนอนกันอยู่อีก ลุกขึ้นมาอธิษฐานสิ จะได้ไม่แพ้ต่อการยั่วยวน”
พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International