Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

Old/New Testament

Each day includes a passage from both the Old Testament and New Testament.
Duration: 365 days
Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
เศคาริยาห์ 9-12

การตัดสินชนชาติอื่นๆ

ถ้อยคำของพระยาห์เวห์ ต่อต้านแผ่นดินหัดรากและเพ่งเล็งเมืองดามัสกัส เพราะพระยาห์เวห์เฝ้าดูว่าคนเขาทำอะไรกันในอารัม เหมือนกับที่พระองค์เฝ้าดูเผ่าต่างๆของอิสราเอล[a] ถ้อยคำนี้ได้ต่อต้านเมืองฮามัทซึ่งมีพรมแดนติดกับดามัสกัสและยังต่อต้านเมืองไทระกับเมืองไซดอนด้วย ทั้งๆที่พวกเขาเฉลียวฉลาดมาก เมืองไทระสร้างป้อมปราการสำหรับตัวเอง มันสะสมเงินไว้เป็นกองพะเนินเหมือนฝุ่นและสะสมทองไว้เป็นกองพะเนินเหมือนผงดินที่อยู่ตามถนนต่างๆ องค์เจ้าชีวิตจะขับไล่เธอออกไป พระองค์จะซัดป้อมปราการของเธอลงไปในทะเล[b] และไทระจะถูกไฟเผาเป็นเถ้าถ่านไป

เมืองอัชเคโลน[c] จะเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับไทระและจะกลัว เมืองกาซาก็เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นนี้เหมือนกัน และจะดิ้นทุรนทุรายด้วยความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส เมืองเอโครนก็จะดิ้นทุรนทุรายเหมือนกัน เพราะความคาดหวังของเธอเหือดแห้งไปเสียแล้ว จะไม่มีกษัตริย์ในกาซาอีกแล้ว และอัชเคโลนก็จะไม่มีผู้คนอาศัยอีกต่อไป พวกลูกผสมจะมาอาศัยอยู่ในอัชโดด และเราจะทำลายความเย่อหยิ่งจองหองของคนฟีลิสเตียให้หมดไป เราจะเอาเนื้อที่ยังมีเลือดติดอยู่ออกจากปากของเขา เราจะเอาของที่น่าขยะแขยงออกจากซี่ฟันของเขา และคนฟีลิสเตียที่ยังเหลืออยู่จะเป็นของพระเจ้าของเรา[d] พวกเขาจะมีฐานะเหมือนกับตระกูลหนึ่งของยูดาห์และชาวเอโครนจะเป็นเหมือนคนเยบุส[e] เราจะตั้งค่ายที่วิหารของเราเหมือนเป็นเมืองหน้าด่าน เราจะคอยป้องกันไม่ให้คนบุกรุกเข้ามา และผู้กดขี่จะไม่มีวันได้เข้ามาข่มเหงพวกเขาอีกต่อไป เพราะตอนนี้เรากำลังเฝ้าดูอยู่ด้วยตาของเราเอง

กษัตริย์ในอนาคต

ศิโยน ลูกสาวเอ๋ย ให้ชื่นชมยินดีอย่างสุดใจเถิด
    เยรูซาเล็ม ลูกสาวเอ๋ย โห่ร้องด้วยความยินดีเถิด
ดูสิ กษัตริย์ของเธอมาหาเธอแล้ว
    พระองค์ให้ความเป็นธรรมและมีชัยชนะ
    พระองค์นั้นถ่อมสุภาพและขี่อยู่บนหลังลา ขี่บนลาหนุ่ม ลูกของแม่ลา
10 เราจะกำจัดพวกรถรบไปจากเอฟราอิม
    เราจะกำจัดพวกม้าศึกไปจากเยรูซาเล็ม
ธนูสงครามจะถูกกำจัดให้หมดไป
    กษัตริย์องค์นั้นจะเจรจาสงบศึกระหว่างประชาชาติทั้งหลาย
ท่านจะปกครองจากทะเลฟากหนึ่งไปถึงทะเลอีกฟากหนึ่ง
    และจากแม่น้ำยูเฟสติสไปถึงสุดปลายโลก

พระยาห์เวห์จะช่วยกู้คนของพระองค์

11 ส่วนเจ้า เยรูซาเล็ม เราได้ใช้เลือดเพื่อยืนยันข้อตกลงกับเจ้า[f]
    เราจะปลดปล่อยคนของเจ้าที่เป็นนักโทษนั้นออกจากบ่อที่ไม่มีน้ำ
12 พวกเจ้า นักโทษเอ๋ย กลับไปยังป้อมปราการของเจ้าซะ
    ตอนนี้พวกเจ้ามีความหวังแล้ว
วันนี้ เราขอประกาศว่า
    เราจะคืนให้กับเจ้าเป็นสองเท่าสำหรับสิ่งที่ถูกยึดไปนั้น
13 เพราะเราได้โก่งยูดาห์เหมือนคันธนู
    เราได้ใส่เอฟราอิมเป็นลูกธนู
ศิโยนเอ๋ย เราจะแกว่งลูกๆของเจ้าไปรอบๆเหมือนดาบของนักรบผู้กล้าเพื่อต่อสู้กับพวกเจ้าชาวกรีซ
14 พระยาห์เวห์จะมาปรากฏเหนือพวกเขา
    ลูกธนูของพระองค์จะพุ่งออกมาเหมือนฟ้าแลบ
พระยาห์เวห์ องค์เจ้าชีวิต จะเป่าแตรประจัญบาน
    และพระองค์จะลุยไปข้างหน้าอย่างพายุทะเลทรายจากทิศใต้
15 พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นจะปกป้องพวกเขา
    แล้วคนของพระยาห์เวห์จะชนะพวกศัตรูอย่างราบคาบด้วยหินที่เหวี่ยงจากเชือกหนัง
พวกเขาจะดื่มและร้องตะโกนเหมือนพวกเมาเหล้าองุ่น
    และเต็มอิ่มเหมือนชามเลือดจากการถวายสัตวบูชา
    พวกเขาจะโชกไปด้วยเลือดเหมือนตามมุมของแท่นบูชา
16 ในวันนั้น พระยาห์เวห์ พระเจ้าของพวกเขา จะช่วยกู้คนของพระองค์
    เหมือนคนเลี้ยงแกะช่วยแกะของเขาให้รอดพ้น
พวกเขาเป็นเหมือนเพชรพลอยบนมงกุฎ
    ส่องแสงระยิบระยับบนแผ่นดินของพระองค์
17 คนของพระยาห์เวห์นั้นช่างมีเสน่ห์และสวยงามเสียจริงๆ
    คนหนุ่มและหญิงสาวจะแข็งแรงและมีสุขภาพดี
    เพราะมีข้าวและเหล้าองุ่นใหม่อย่างเหลือเฟือ

คำสัญญาของพระยาห์เวห์

10 ให้ขอฝนจากพระยาห์เวห์ในช่วงที่พืชผลต้องการฝน พระยาห์เวห์เป็นผู้ทำให้เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง พระองค์ใช้พวกมันรดน้ำให้พืชผลในไร่นาเจริญเติบโต

พวกรูปเคารพ[g]ประจำบ้านให้คำทำนายที่ผิดๆไป และพวกเล่นเวทมนตร์ก็เห็นนิมิตที่ผิดๆ พวกทำนายฝันก็ทำนายไม่ได้เรื่อง ดังนั้นคนยูดาห์จึงเร่ร่อนไปเหมือนแกะ และพวกเขาก็ต้องลำบากเพราะไม่มีผู้เลี้ยง

พระยาห์เวห์พูดว่า “เราโกรธพวกผู้เลี้ยงนี้มาก และเราจะลงโทษพวกผู้นำนี้” เพราะพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น เฝ้าดูแลฝูงสัตว์ของพระองค์ซึ่งก็คือคนยูดาห์ พระองค์จะเปลี่ยนคนยูดาห์ให้กลายเป็นม้าศึกที่สง่าผ่าเผยของพระองค์

จะมีผู้นำทุกประเภทออกมาจากยูดาห์ พวกเขาจะแข็งแรงอย่างกับหินมุมตึก จะมั่นคงอย่างกับหมุดปักเต็นท์ จะทรงอานุภาพอย่างกับธนูสงคราม เมื่อรวมทั้งหมดเข้าด้วยกัน พวกเขาจะเป็นเหมือนพวกนักรบในสงครามที่เหยียบย่ำศัตรูอย่างขี้โคลนบนถนน พวกเขาจะสู้รบในสงคราม เพราะพระยาห์เวห์สถิตอยู่กับพวกเขา และพวกเขาจะทำให้ทหารม้าพวกนั้นอับอาย เราจะทำให้คนยูดาห์เข้มแข็งขึ้น เราจะช่วยกู้คนของโยเซฟ เราจะนำพวกเขากลับมา เพราะเราสงสารพวกเขา เราจะทำกับพวกเขาเหมือนกับว่าเราไม่เคยปฏิเสธพวกเขามาก่อน เพราะเราคือยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเขา และเราจะตอบคำอธิษฐานของพวกเขา คนเอฟราอิมจะเป็นเหมือนพวกนักรบ และจิตใจของเขาจะมีความสุขเหมือนได้ดื่มเหล้าองุ่น คนของพวกเขาจะเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นและชื่นบาน และจิตใจของเขาจะชื่นชมยินดีในพระยาห์เวห์

พระยาห์เวห์พูดว่า “เราจะผิวปากเหมือนผู้เลี้ยงแกะเรียกพวกเขาเข้ามารวมกันเพราะเราไถ่พวกเขาแล้ว และพวกเขาจะมีจำนวนมากมายเหมือนกับแต่ก่อน เราหว่านพวกเขาไปทั่วอย่างกับเมล็ดพืช แต่พวกเขาจะระลึกถึงเราในที่ห่างไกลเหล่านั้น พวกเขาและลูกๆจะมีชีวิตรอดกลับมา 10 เราจะนำพวกเขากลับมาจากแผ่นดินอียิปต์ เราจะรวบรวมพวกเขามาจากอัสซีเรีย เราจะนำพวกเขามายังแผ่นดินกิเลอาดและเลบานอน เพราะแผ่นดินอิสราเอลของพวกนั้นจะมีคนเต็มไปหมดจนไม่มีที่เพียงพอสำหรับพวกเขาแล้ว 11 พวกเขาจะเดินลอดทะเลแห่งความทุกข์ พวกเขาจะตีคลื่นในทะเลนั้น ส่วนที่ลึกที่สุดของแม่น้ำไนล์จะแห้งไป ความเย่อหยิ่งจองหองของอัสซีเรียจะตกต่ำลง และคทาแห่งอำนาจของอียิปต์จะถูกเอาไป 12 เราจะทำให้คนของเราเข้มแข็งขึ้นในพระยาห์เวห์ และพวกเขาจะเดินลุยออกไปในนามของเรา” พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น

พระเจ้าจะลงโทษชนชาติอื่นๆ

11 เลบานอน เปิดพวกประตูของเจ้า
    เพื่อไฟจะได้เผาผลาญพวกสนซีดาร์[h] ของเจ้า
ต้นสนจูนิเปอร์ ร้องโหยหวนซะ
    เพราะต้นสนซีดาร์ได้ล้มลงแล้ว
เพราะพวกต้นไม้ที่โอ่อ่าสูงใหญ่ถูกทำลายลงแล้ว
    พวกต้นโอ๊กของบาชานร้องโหยหวนซะเพราะป่าดงดิบถูกโค่นลงแล้ว
ฟังเสียงร้องไห้คร่ำครวญของพวกผู้เลี้ยงสิ
    เพราะทุ่งหญ้าอันรุ่งโรจน์ทั้งหลายของพวกเขาถูกทำลายไปแล้ว
ฟังเสียงร้องคำรามของพวกสิงโตสิ
    เพราะพุ่มไม้หนาของแม่น้ำจอร์แดนถูกทำลายไปแล้ว

ผู้เลี้ยงที่เลวกับผู้เลี้ยงที่ดี

นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของเราพูด คือ “ให้เลี้ยงดูแกะที่จะเอาไปฆ่านั้นให้ดี คนที่ซื้อพวกเขาไปก็ฆ่าพวกเขาโดยไม่รู้สึกเสียใจ ส่วนคนที่ขายพวกแกะก็พูดว่า ‘สรรเสริญพระยาห์เวห์ เพราะข้าพเจ้าร่ำรวยแล้ว’ และพวกคนที่เลี้ยงแกะนั้นก็ไม่รู้สึกสงสารแกะที่พวกเขาเลี้ยงมา[i] ดังนั้นเราจะไม่สงสารคนพวกนั้นที่อาศัยอยู่ในแผ่นดินยูดาห์อีกต่อไป เราจะหันประชาชนทั้งหมดให้ต่อต้านกันเอง แล้วจะมอบพวกเขาไว้ใต้อำนาจของพวกผู้ครอบครองเขา พวกผู้ครอบครองนี้จะบดขยี้แผ่นดินนี้ และเราจะไม่ช่วยให้ใครรอดพ้นจากเงื้อมมือของพวกนั้นเลย” พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น

แกะที่จะเอาไปฆ่านั้น ผมได้เลี้ยงพวกเขาแทนพวกพ่อค้าแกะ ผมเอาไม้เท้ามาสองอัน เรียกอันหนึ่งว่า “ความเมตตาปรานี” และเรียกอีกอันว่า “ความเป็นหนึ่งเดียว” และผมได้เลี้ยงดูแกะเหล่านั้นด้วยไม้เท้าทั้งสองนี้ ผมกำจัดผู้เลี้ยงไปสามคนในเดือนเดียว ผมเริ่มหมดความอดทนต่อแกะ และพวกเขาก็ดูหมิ่นผมด้วย แล้วผมพูดว่า “เราจะไม่เลี้ยงดูพวกเจ้าอีกแล้ว ปล่อยให้แกะที่กำลังจะตาย ตายไปซะ และปล่อยตัวที่กำลังจะถูกทำลาย ถูกทำลายไปซะ และให้ตัวที่ยังเหลืออยู่นั้นกินเนื้อของกันและกัน” 10 แล้วผมก็เอาไม้เท้าอันที่มีชื่อว่า “ความเมตตาปรานี” และหักมันเป็นสองท่อน เพื่อแสดงให้เห็นว่าเรายกเลิกข้อตกลงที่เราได้ทำไว้กับประชาชนทั้งหมด 11 ดังนั้นข้อตกลงจึงถูกยกเลิกในวันนั้น และพวกพ่อค้าสัตว์ที่กำลังมองผมอยู่ ก็รู้ว่า นี่คือถ้อยคำของพระยาห์เวห์

12 ผมพูดกับพวกเขาว่า “ถ้าพวกเจ้าอยากจ่ายค่าแรงให้กับผม ก็จ่ายมา แต่ถ้าไม่อยากจ่ายก็ไม่ต้องจ่าย” แล้วพวกเขาก็จ่ายค่าแรงให้กับผมเป็นเงินสามสิบแผ่น 13 พระยาห์เวห์พูดกับผมว่า “โยนเงินนั้นลงไปในกล่องถวายซะ เพราะนั่นแหละเป็นค่าตัวที่เขาตีให้กับเรา มันแสนจะมากมายเสียเหลือเกิน”[j] ผมจึงเอาเงินสามสิบแผ่นนั้นไปโยนลงในกล่องถวายในวิหารของพระยาห์เวห์ 14 จากนั้นผมได้หักไม้เท้าอันที่สองที่มีชื่อว่า “ความเป็นหนึ่งเดียว” เพื่อให้เห็นว่าผมได้ทำลายความเป็นพี่น้องกันระหว่างชาวยูดาห์กับชาวอิสราเอลแล้ว

15 พระยาห์เวห์พูดกับผมว่า “ให้เอาเครื่องมือของผู้เลี้ยงที่โง่เขลามา 16 เพราะเรากำลังจะแต่งตั้งผู้เลี้ยงแกะคนใหม่ในแผ่นดินนี้ ผู้เลี้ยงคนใหม่นี้จะไม่สนใจพวกแกะที่กำลังจะตาย จะไม่ไปตามหาตัวที่หลงหาย จะไม่เยียวยารักษาตัวที่บาดเจ็บ จะไม่เลี้ยงดูตัวที่แข็งแรง แต่จะกินเนื้อของตัวที่อ้วนพีเหล่านั้น และฉีกกินแม้แต่กีบเท้าของแกะพวกนั้น”

17 เฮ้ย เจ้าผู้เลี้ยงแกะที่ไร้ค่า
    ผู้ที่ทอดทิ้งฝูงแกะ
ขอให้ดาบตีแขนของเจ้า
    แทงตาข้างขวาของเจ้า
ขอให้แขนของเจ้าลีบไปอย่างสิ้นเชิง
    ขอให้ตาข้างขวาของเจ้าบอดสนิท

ชาวเยรูซาเล็มจะเฉลิมฉลองกัน

12 ถ้อยคำของพระยาห์เวห์ที่เกี่ยวกับอิสราเอล พระยาห์เวห์ผู้ขึงแผ่นฟ้าและตั้งรกรากแผ่นดินโลก ผู้ที่สร้างวิญญาณที่อยู่ในมนุษย์ พระองค์พูดว่า “เรากำลังจะทำให้เยรูซาเล็มกลายเป็นถ้วยเหล้าองุ่น ที่ทำให้ชนชาติต่างๆที่อยู่ล้อมรอบเมาโซเซ และความทุกข์ทรมานนี้จะตกกับยูดาห์ด้วย เมื่อเยรูซาเล็มถูกล้อมไว้ ในวันนั้นเราจะทำให้เยรูซาเล็มกลายเป็นหินที่หนักอึ้งที่ไม่มีใครยกไหว ทุกคนที่พยายามจะยกมันจะบาดเจ็บสาหัส และทุกๆชนชาติในโลกนี้จะรวมตัวกันมาต่อต้านมัน”

พระยาห์เวห์พูดว่า “แต่ในวันนั้น เราจะทำให้ม้าทุกตัวตกใจกลัว เราจะทำให้ทหารที่ขี่ทุกคนบ้าคลั่ง แต่เราจะคอยเฝ้าดูคนยูดาห์ และเราจะทำให้ม้าทุกตัวของศัตรูตาบอดไป พวกผู้นำตระกูลต่างๆของยูดาห์จะคิดในใจว่า ‘ที่พลเมืองของเยรูซาเล็มเข้มแข็ง ก็เพราะพวกเขามีพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น เป็นพระเจ้านั่นเอง’” พระยาห์เวห์พูดว่า “ในวันนั้นเราจะทำให้พวกผู้นำตระกูลต่างๆของยูดาห์เป็นเหมือนถาดใส่ถ่านร้อนแดง เป็นเหมือนคบเพลิงท่ามกลางมัดฟาง พวกผู้นำนั้นจะเผาผลาญชนชาติทั้งหลายที่อยู่รอบๆทั้งซ้ายขวา และคนเยรูซาเล็มจะอยู่อย่างปลอดภัยต่อไปในที่ของเขาคือในเมืองเยรูซาเล็ม”

พระยาห์เวห์จะให้ชัยชนะกับตระกูลของยูดาห์ก่อน เพื่อเกียรติยศของครอบครัวดาวิดและความรุ่งโรจน์ของชาวเยรูซาเล็ม จะไม่เกินหน้าเกินตาเผ่าของยูดาห์ไป ในวันนั้น พระยาห์เวห์จะเป็นโล่ให้กับชาวเยรูซาเล็ม คนที่อ่อนแอที่สุดของพวกเขาก็จะเข้มแข็งเท่าดาวิด และครอบครัวของดาวิดก็จะเป็นเหมือนพระเจ้า เป็นเหมือนทูตสวรรค์ของพระยาห์เวห์ที่นำหน้าพวกเขา

พระยาห์เวห์พูดว่า “ในวันนั้นเราจะทำลายทุกชนชาติที่มาต่อต้านเยรูซาเล็ม

ชาวเยรูซาเล็มจะไว้ทุกข์ให้กับผู้ที่ถูกแทง

10 เราจะเทวิญญาณแห่งความเมตตาสงสารและการวิงวอนลงบนครอบครัวของดาวิดและลงบนชาวเยรูซาเล็ม พวกเขาจะแสวงหาการอภัยโทษจากเราผู้ที่พวกเขาแทง และพวกเขาจะร้องไห้เสียใจให้กับเรา เหมือนกับร้องไห้ให้กับลูกโทนที่ตายไป และพวกเขาจะร้องอย่างขมขื่นเหมือนกับร้องให้กับลูกหัวปีที่ตายไป 11 ในวันนั้นจะมีการไว้ทุกข์ที่ยิ่งใหญ่ในเยรูซาเล็มเหมือนกับการไว้ทุกข์ให้กับฮาดัดริมโมน[k]ในที่ราบเมกิดโด 12-14 แต่ละตระกูลในแผ่นดินยูดาห์ ต่างคนต่างก็แยกกันไว้ทุกข์ ไม่ว่าจะเป็นตระกูลดาวิด ตระกูลนาธัน ตระกูลเลวี หรือตระกูลซีเมโอน รวมทั้งตระกูลอื่นๆที่เหลือทั้งหมด พวกผู้ชายและพวกเมียๆของเขา ต่างคนต่างแยกกันไว้ทุกข์ ไม่รวมกัน”

วิวรณ์ 20

เวลาหนึ่งพันปี

20 ผมเห็นทูตสวรรค์องค์หนึ่งลงมาจากสวรรค์ ในมือถือกุญแจของนรกอเวจี และโซ่ขนาดใหญ่ ท่านได้จับพญานาคซึ่งเป็นงูดึกดำบรรพ์ ซึ่งก็คือมารหรือซาตาน แล้วเอาโซ่มัดไว้หนึ่งพันปี จากนั้นทูตสวรรค์ก็โยนพญานาคตัวนี้ลงไปในนรกอเวจีนั้น และใส่กุญแจประตูทางเข้า และประทับตราขังมันไว้อย่างแน่นหนา เพื่อมันจะได้ไม่สามารถไปล่อลวงชนชาติต่างๆได้อีกเป็นเวลาหนึ่งพันปี หลังจากหนึ่งพันปีผ่านไปจะต้องปล่อยให้มันออกมาประเดี๋ยวหนึ่ง

หลังจากนั้นผมเห็นบัลลังก์ต่างๆและมีคนนั่งอยู่บนนั้น พวกเขาได้รับสิทธิ์ที่จะตัดสินโทษ ผมเห็นพวกวิญญาณของคนที่ถูกตัดหัวเพราะได้ประกาศความจริงเกี่ยวกับพระเยซูและถ้อยคำของพระเจ้า พวกเขาไม่ได้กราบไหว้สัตว์ร้ายหรือรูปปั้นของมัน และไม่มีเครื่องหมายของมันบนหน้าผากหรือบนมือของเขา พวกเขาฟื้นขึ้นจากตาย และได้ครอบครองร่วมกับกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่เป็นเวลาหนึ่งพันปี (ส่วนคนตายคนอื่นๆที่เหลือ ไม่ได้ฟื้นขึ้นจากความตายจนกว่าจะผ่านไปหนึ่งพันปี) นี่เป็นการฟื้นขึ้นจากความตายครั้งแรก พวกคนที่มีส่วนร่วมในการฟื้นขึ้นจากความตายครั้งแรกนี้ มีเกียรติจริงๆและเป็นคนของพระเจ้าโดยเฉพาะ ความตายครั้งที่สองจะไม่มีอำนาจเหนือพวกเขาเลย พวกเขาจะเป็นนักบวชของพระเจ้าและของกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ และจะครอบครองร่วมกับพระองค์เป็นเวลาหนึ่งพันปี

ความพ่ายแพ้ของซาตาน

เมื่อเวลาหนึ่งพันปีผ่านไป ซาตานจะถูกปล่อยออกมาจากคุกของมัน และมันจะออกไปหลอกลวงทุกๆชนชาติในโลกนี้ที่มีชื่อว่าโกกและมาโกก มันจะรวบรวมชนชาติต่างๆเหล่านั้นเพื่อไปทำสงคราม และพวกเขาจะมีจำนวนมากมายมหาศาลเหมือนกับเม็ดทรายที่อยู่ตามชายฝั่งทะเล กองทัพของชนชาติต่างๆจะยกขบวนข้ามโลกมา และมาล้อมที่พักของคนของพระเจ้าและเมืองที่พระองค์รัก แต่จะมีไฟตกลงมาจากสวรรค์และเผาผลาญกองทัพเหล่านั้น 10 ซาตานซึ่งได้หลอกลวงพวกเขาเหล่านั้น ถูกโยนลงไปในบึงไฟกำมะถันที่ลุกไหม้ ในบึงนั้นมีสัตว์ร้ายรวมทั้งผู้ที่ปลอมตัวเป็นผู้พูดแทนพระเจ้ารวมอยู่ด้วย และพวกมันทั้งหมดได้รับความทุกข์ทรมานทั้งกลางวันและกลางคืนตลอดไป

คนทั้งหลายบนโลกถูกตัดสิน

11 ผมเห็นบัลลังก์ใหญ่สีขาว และพระองค์ผู้ที่นั่งอยู่บนบัลลังก์นั้น เมื่อพระองค์มาปรากฏ แผ่นดินโลกและสวรรค์ก็หายไปและไม่หลงเหลือร่องรอยให้ใครเห็นอีกเลย 12 หลังจากนั้นผมเห็นคนทั้งหลายที่ตายไปแล้ว ทั้งผู้ยิ่งใหญ่และผู้ต่ำต้อย ยืนอยู่ต่อหน้าบัลลังก์นั้น มีหนังสือหลายเล่มได้ถูกเปิดออก และมีหนังสืออีกเล่มหนึ่งถูกเปิดออกด้วย มันคือหนังสือแห่งชีวิต คนตายเหล่านั้นได้รับการตัดสินโดยดูจากการกระทำของพวกเขาที่ได้บันทึกไว้ในสมุดเหล่านั้น 13 ทะเลได้ส่งคนทั้งหลายที่ตายอยู่ในทะเลขึ้นมา ความตายและแดนคนตายก็ได้ส่งคนทั้งหลายที่อยู่ที่นั่นขึ้นมาเหมือนกัน และคนตายทุกคนได้รับการตัดสินตามสิ่งที่พวกเขาทำ 14 หลังจากนั้นความตายและแดนคนตายก็ถูกโยนลงสู่บึงไฟ บึงไฟนี้คือความตายครั้งที่สอง 15 ถ้าใครไม่มีชื่ออยู่ในหนังสือแห่งชีวิต ก็ถูกโยนลงไปในบึงไฟนั้น

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International