Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

Old/New Testament

Each day includes a passage from both the Old Testament and New Testament.
Duration: 365 days
Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
1 พงศาวดาร 4-6

เชื้อสายของชาวยูดาห์

ลูกหลานของยูดาห์คือ

เปเรศลูกของเขา และ ลูกของเปเรศคือเฮสโรน ที่มีลูกชายคือคารมี ที่มีลูกชายคือเฮอร์ที่มีลูกชายคือโชบาล

เรอายาห์ที่เป็นลูกชายของโชบาลเป็นพ่อของยาหาท และยาหาทเป็นพ่อของอาหุมัยและลาฮาด ชาวโศราห์สืบเชื้อสายมาจากอาหุมัยและลาฮาด

ต่อไปนี้คือพวกลูกชายของเอตาม คือยิสเรเอล อิชมาและอิดบาช พวกเขามีน้องสาวชื่อฮัสเซเลลโพนี

เปนูเอลเป็นพ่อของเกโดร์ และเอเซอร์เป็นพ่อของหุชาห์

พวกเขาเป็นลูกชายของเฮอร์ซึ่งเป็นลูกชายหัวปีของนางเอฟราธาห์ผู้ก่อตั้ง[a] เมืองเบธเลเฮม

อัชฮูร์ พ่อของเทโคอา มีเมียสองคนชื่อเฮลาห์และนาอาราห์ นางนาอาราห์มีลูกชายกับเขาชื่อ อาหุสซาม เฮเฟอร์ เทเมนีและฮาอาหัชทารี พวกเขาเป็นลูกชายของนางนาอาราห์ ลูกชายของนางเฮลาห์คือ เศเรท อิสฮาร์ เอทนาน และโขส โขสเป็นพ่อของอานูบและโศเบบาห์ โขสยังเป็นต้นตระกูลของอาหารเฮล อาหารเฮลเป็นลูกชายของฮารูม

ยาเบสเป็นคนที่น่านับถือมากกว่าพี่น้องของเขา ที่แม่ของเขาตั้งชื่อเขาว่ายาเบสนั้น นางบอกว่า “เพราะเราคลอดเขาออกมาด้วยความเจ็บปวด[b] 10 ยาเบสได้อธิษฐานกับพระเจ้าของอิสราเอลว่า “ขอพระองค์อวยพรข้าพเจ้าด้วยเถิด ขอช่วยขยายเขตแดนของข้าพเจ้าด้วยเถิด ขอพระองค์สถิตกับข้าพเจ้าด้วยเถิด ขอพระองค์ประทานทุ่งหญ้าเพิ่มให้กับข้าพเจ้า โดยไม่ต้องทำให้ใครเดือดร้อนด้วยเถิด”[c] และพระเจ้าก็ได้ให้สิ่งที่เขาขอ

11 เคลูบเป็นพี่ชายของชูฮาห์และเป็นพ่อของเมหิร์ เมหิร์เป็นพ่อของเอชโทน 12 เอชโทนเป็นพ่อของเบธราฟา ปาเสอาห์และเทหินนาห์ เทหินนาห์เป็นพ่อของอิรนาหาช[d] พวกเขาล้วนเป็นคนเมืองเรคาห์

13 ลูกชายของเคนัสคือ โอทนีเอลและเสไรอาห์ ลูกชายของโอทนีเอลคือ ฮาธาทและเมโอโนธัย 14 เมโอโนธัยเป็นพ่อของโอฟราห์

เสไรอาห์เป็นพ่อของโยอาบ โยอาบเป็นผู้ก่อตั้งเกหะราชิม[e] ที่เรียกอย่างนี้ก็เพราะว่าพวกเขาเป็นช่างฝีมือนั่นเอง

15 คาเลบเป็นลูกชายของเยฟุนเนห์ ลูกชายของคาเลบคือ อิรู เอลาห์และนาอัม ลูกชายของเอลาห์คือเคนัส

16 ลูกชายของเยฮาลเลเลลคือ ศีฟ ศิฟาห์ ทิรียาและอาสาเรล

17 ลูกชายของเอสราห์ คือ เยเธอร์ เมเรด เอเฟอร์และยาโลน เยเธอร์เป็นพ่อของ[f] มิเรียม ชัมมัย และอิชบาห์ อิชบาห์เป็นพ่อของเอชเทโมอา 18 เมเรดมีเมียมาจากอียิปต์ชื่อบิทิยาห์ ที่เป็นลูกสาวของกษัตริย์ฟาโรห์ บิทิยาห์ คลอดลูกชายออกมาชื่อ เยเรด เฮเบอร์ และเยคูธีเอล เยเรดเป็นพ่อของเกโดร์ เฮเบอร์เป็นพ่อของโสโค และเยคูธีเอลเป็นพ่อของศาโนอาห์

19 เมเรดมีเมียอีกคนหนึ่งจากยูดาห์[g] ซึ่งเป็นน้องสาวของนาฮัม พวกลูกชายของหญิงยูดาห์คนนั้น เป็นพ่อของเคอีลาห์ชาวเกเรม และเป็นพ่อของเอชเทโมอาชาวมาอาคาห์ 20 ลูกชายของชิโมนคือ อัมโนน รินนาห์ เบนฮานันและทิโลน ลูกชายของอิชอีคือ โศเหทและเบนโศเหท

21 ลูกหลานของเชลาห์ที่เป็นลูกชายของยูดาห์ คือ เอร์พ่อของเลคาห์ ลาอาดาห์พ่อของมาเรชาห์ รวมทั้งพวกตระกูลของคนที่ทำผ้าลินินที่เบธชัชเบอา 22 โยคิมและคนของเมืองโคเซบา เมืองโยอาช รวมทั้งเมืองสาราฟที่เป็นเจ้าหน้าที่ของโมอับ[h]และได้ย้ายกลับมาที่เบธเลเฮม (เรื่องนี้มาจากบันทึกฉบับที่เก่าแก่มาก) 23 พวกลูกหลานของเชลาห์นี้เป็นช่างปั้นหม้อและอาศัยอยู่ในเมืองเนทาอิมและเกเดราห์ พวกเขาอยู่ที่นั่นเพื่อทำงานให้กับกษัตริย์

เชื้อสายของสิเมโอน

24 ลูกชายของสิเมโอนคือ เนมูเอล ยามีน ยารีบ เศราห์ และชาอูล 25 ลูกชายของชาอูลคือชัลลูม ลูกชายของชัลลูมคือมิบสัม ลูกชายของมิบสัมคือมิชมา

26 ลูกชายของมิชมาคือ ฮัมมูเอล และลูกชายของฮัมมูเอลคือศักเกอร์ ลูกชายของศักเกอร์คือชิเมอี 27 ชิเมอีมีลูกชายสิบหกคนและมีลูกสาวหกคน แต่พี่น้องของเขาไม่มีลูกมากมายเหมือนเขา ดังนั้น ตระกูลของพวกเขาจึงไม่ได้เป็นตระกูลที่มีคนมากนักในยูดาห์

28 ลูกหลานของชิเมอีได้อาศัยอยู่ในเบเออร์เชบา โมลาดาห์ ฮาซารชูอาล 29 บิลฮาห์ เอเซม โทลัด 30 เบธูเอล โฮรมาห์ ศิกลาก 31 เบธมารคาโบท ฮาซารสูสิม เบธบิรี และที่ชาอาราอิม เมืองเหล่านี้เป็นของพวกเขา จนกระทั่งดาวิดได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ 32 หมู่บ้านต่างๆในแถบนั้น ประกอบไปด้วย เอตาม อายิน ริมโมน โทเคนและอาชัน รวมทั้งหมดห้าเมือง 33 ยังมีหมู่บ้านอื่นๆอีกไกลไปจนถึงเมืองบาอัล นี่คือสถานที่ที่พวกเขาได้ไปตั้งรกราก แล้วพวกเขาได้เก็บรักษารายชื่อของบรรพบุรุษไว้

34 นี่คือรายชื่อของผู้นำเผ่าต่างๆคือ เมโชบับ ยัมเลค โยชาห์ คือลูกชายของอามาซิยาห์ 35 โยเอล และเยฮูที่เป็นลูกชายของโยชิบียาห์ที่เป็นลูกชายของเสไรอาห์ที่เป็นลูกชายของอาสิเอล 36 เอลีโอเอนัย ยาอาโคบาห์ เยโชฮายาห์ อาสายาห์ อาดีเอล เยสิมีเอล เบไนยาห์ 37 และศีศาเป็นลูกชายของชิฟีที่เป็นลูกชายของอาโลนที่เป็นลูกชายของเยดายาห์ที่เป็นลูกชายของชิมรีที่เป็นลูกชายของเชไมอาห์ 38 รายชื่อเหล่านั้นเป็นรายชื่อของพวกผู้นำตระกูลต่างๆ

และตระกูลของพวกเขาได้ขยายเพิ่มขึ้นอย่างมาก 39 แล้วพวกเขาได้เดินทางไปยังบริเวณที่อยู่นอกเมืองเกโดร์ไปทางทิศตะวันออกของหุบเขา เพื่อค้นหาทุ่งหญ้าให้กับฝูงสัตว์เลี้ยงของพวกเขา 40 และที่นั่นพวกเขาได้พบทุ่งหญ้าที่ดีและอุดมสมบูรณ์ เป็นแผ่นดินที่กว้างขวาง เงียบสงบสุข ซึ่งพวกเชื้อสายของฮามเคยอยู่มาก่อน 41 ในสมัยของกษัตริย์เฮเซคียาห์ของยูดาห์ พวกที่มีชื่ออยู่ดังกล่าวข้างต้นนั้นได้เข้ามา และได้มาโจมตีพวกฮามและทำลายเต็นท์ของพวกฮามทิ้ง และพวกนี้ก็ยังได้ต่อสู้กับพวกเมอูนิมด้วย และได้ทำลายพวกเมอูนิมจนสิ้นซากอย่างที่เห็นมาจนถึงทุกวันนี้ และพวกนี้ก็ได้ตั้งรกรากอยู่ที่นั่นแทน เพราะว่ามันเป็นสถานที่ที่มีทุ่งหญ้าให้กับสัตว์เลี้ยงของพวกเขา

42 มีพวกสิเมโอนประมาณห้าร้อยคนได้ไปที่ภูเขาเสอีร์ โดยมีเปลาทิยาห์ เนอารียาห์ เรไฟยาห์และอุสซีเอล ลูกชายทั้งหลายของอิชอีเป็นผู้นำ 43 พวกเขาได้ทำลายพวกอามาเลคที่ยังหลงเหลืออยู่และหลบหนีอยู่ที่นั่น และชาวสิเมโอนเหล่านั้นก็ได้อาศัยอยู่ที่ภูเขาเสอีร์นั้นมาจนถึงทุกวันนี้

ลูกหลานของรูเบน

บรรดาลูกชายของรูเบน ที่เป็นลูกชายหัวปีของอิสราเอล (รูเบนเป็นลูกชายคนแรก แต่เขาต้องเสียสิทธิ์ลูกชายหัวปีไปให้กับพวกลูกชายของโยเซฟ เพราะเขาไปมีเพศสัมพันธ์กับเมียคนหนึ่งของพ่อเขา โยเซฟเป็นลูกอีกคนหนึ่งของอิสราเอล ชื่อของรูเบนจึงไม่ได้บันทึกอยู่ในบัญชีรายชื่อของลูกชายหัวปี และถึงแม้ว่ายูดาห์จะเป็นคนที่โดดเด่นที่สุดในหมู่พี่น้องทั้งหลาย และผู้นำก็สืบทอดมาจากเขา แต่สิทธิพิเศษของลูกชายหัวปีก็ยังตกเป็นของโยเซฟอยู่ดี) บรรดาลูกชายของรูเบนผู้เป็นลูกชายหัวปีของอิสราเอล คือ

ฮาโนค ปัลลู เฮสโรนและคารมี

บรรดาลูกหลานของโยเอลคือ เชไมอาห์ ลูกชายของเชไมอาห์คือโกก ลูกชายของโกกคือชิเมอี ลูกชายของชิเมอีคือมีคาห์ ลูกชายของมีคาห์คือเรอายาห์ ลูกชายของเรอายาห์คือบาอัล ลูกชายของบาอัลคือเบเอราห์ กษัตริย์ทิกลัท-ปิเลเสอร์แห่งอัสซีเรียได้จับเบเอราห์ไปเป็นเชลย เบเอราห์เป็นหัวหน้าเผ่าของชาวรูเบน

พวกญาติๆของโยเอลตามตระกูล ได้ถูกจดไว้ในบัญชีรายชื่อเชื้อสายของพวกเขา คือเยอีเอลลูกชายหัวปี ต่อมาก็เศคาริยาห์ และเบลาที่เป็นลูกชายของอาซาสที่เป็นลูกชายของเชมาที่เป็นลูกชายของโยเอล เผ่ารูเบนได้อาศัยอยู่ในอาโรเออร์ ไกลไปถึงเมืองเนโบและบาอัล-เมโอน และทางด้านตะวันออก พวกเขาได้อาศัยอยู่ไกลออกไปถึงบริเวณที่เริ่มทะเลทรายที่อยู่ฝั่งนี้ของแม่น้ำยูเฟรติส เพราะสัตว์เลี้ยงของพวกเขาได้ทวีขึ้นอย่างมากมายในแผ่นดินกิเลอาด 10 และในสมัยของซาอูล พวกเขาได้ทำสงครามกับชาวฮาการ์และได้เอาชนะคนเหล่านั้นได้ แล้วชาวรูเบนก็ได้อาศัยอยู่ในเต็นท์ของพวกฮาการ์ ทั่วแคว้นทางด้านตะวันออกของกิเลอาด

บรรดาลูกหลานของกาด

11 บรรดาลูกหลานของกาดอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่ติดกับเผ่ารูเบน ในแผ่นดินของบาชาน ไกลไปจนถึงเมืองสาเลคาห์ 12 ในบาชาน โยเอลเป็นหัวหน้า ชาฟามเป็นรองหัวหน้า และยานัยเป็นผู้พิพากษา 13 และบรรดาญาติๆของพวกเขาซึ่งนับตามตระกูล คือ มีคาเอล เมชุลลาม เชบา โยรัย ยาคาน ศิอาและเอเบอร์ รวมทั้งหมดเจ็ดคน 14 พวกเขาเป็นลูกหลานของอาบีฮาอิล ซึ่งเป็นลูกชายของหุรี ที่เป็นลูกชายของยาโรอาห์ ที่เป็นลูกชายของกิเลอาด ที่เป็นลูกชายของมีคาเอล ที่เป็นลูกชายของเยชิชัย ที่เป็นลูกชายของยาโด ที่เป็นลูกชายของบูส 15 อาหิเป็นลูกชายของอับดีเอล ที่เป็นลูกชายของกูนี อาหิเป็นหัวหน้าของครอบครัวพวกเขา

16 บรรดาลูกหลานของกาดได้อาศัยอยู่ในกิเลอาด ในบาชานและตามหมู่บ้านชานเมืองบาชาน และอยู่ในดินแดนที่เป็นทุ่งหญ้าของชาโรนเรื่อยไปจนสุดเขตแดนของมัน

17 รายชื่อของคนเหล่านี้ทั้งหมดได้ถูกจดไว้ในบัญชีรายชื่อเชื้อสายของพวกเขา ในช่วงยุคสมัยของกษัตริย์โยธามแห่งยูดาห์และช่วงยุคสมัยของกษัตริย์เยโรโบอัมของอิสราเอล

ทหารส่วนหนึ่งที่ชำนาญศึก

18 ชาวรูเบน ชาวกาดและครึ่งหนึ่งของคนเผ่ามนัสเสห์ที่เป็นนักรบที่กล้าหาญ ผู้ถือโล่และดาบ ผู้ที่สามารถใช้ธนู และชำนาญศึก มีจำนวนทั้งสิ้น สี่หมื่นสี่พันเจ็ดร้อยหกสิบคน พร้อมที่จะเข้ารับใช้ในกองทัพ 19 พวกเขาได้ทำสงครามขับเคี่ยวกับชาวฮาการ์ เยทูร์ นาฟิชและโนดับ 20 พวกเขาได้ร้องขอความช่วยเหลือกับพระเจ้าในสนามรบ พระองค์ก็ได้ตอบคำอธิษฐานของพวกเขา เพราะพวกเขาไว้วางใจในพระองค์ พระองค์ยอมให้พวกเขาชนะชาวฮาการ์และพวกที่อยู่กับคนเหล่านั้นด้วย 21 พวกเขาได้เข้ายึดเอาฝูงสัตว์ของคนเหล่านั้นไว้ (มี อูฐห้าหมื่นตัว แกะสองแสนห้าหมื่นตัว ลาสองพันตัว) และจับหนึ่งหมื่นคนไปเป็นเชลย 22 ชาวฮาการ์มากมายถูกฆ่าตายในการสู้รบเพราะว่าชัยชนะในสงครามนี้มาจากพระเจ้า และคนทั้งสองเผ่าครึ่งนั้นก็ได้อาศัยอยู่ในแผ่นดินของชาวฮาการ์จนถึงสมัยที่ชาวอิสราเอลถูกจับไปเป็นเชลย

23 คนของเผ่ามนัสเสห์ครึ่งหนึ่งก็ได้อาศัยอยู่ในแผ่นดินแห่งนั้นด้วย ตั้งแต่บาชานเรื่อยไปจนถึงบาอัลเฮอร์โมน เสนีร์ และภูเขาเฮอร์โมน พวกเขามีจำนวนมากมาย

24 ต่อไปนี้คือหัวหน้าของตระกูลต่างๆของพวกเขา คือ เอเฟอร์ อิชอี เอลีเอล อัสรีเอล เยเรมียาห์ โฮดาวิยาห์และยาดีเอล หัวหน้าตระกูลพวกนี้ แข็งแรง กล้าหาญและมีชื่อเสียง 25 แต่พวกเขาได้ทำบาปต่อพระเจ้าของบรรพบุรุษพวกเขา พวกเขาไปนมัสการพระต่างๆของคนในแผ่นดินนั้น ซึ่งเป็นคนที่พระเจ้าได้ทำลายไปแล้วต่อหน้าพวกเขา

26 พระเจ้าของอิสราเอลจึงได้ปลุกเร้าความโกรธของกษัตริย์ปูลแห่งอัสซีเรีย ซึ่งก็คือกษัตริย์ทิกลัท-ปิเลเสอร์แห่งอัสซีเรียนั่นเอง และเขาก็ได้มาสู้รบและได้ขับไล่ชาวรูเบน ชาวกาดและครึ่งหนึ่งของเผ่ามนัสเสห์ออกไปจากแผ่นดิน เขาได้กวาดต้อนคนเหล่านี้ไปที่ฮาลาห์ ฮาโบร์ ฮาราและที่แม่น้ำโกซาน ซึ่งเป็นสถานที่ที่ชนเผ่าเหล่านี้ยังคงอาศัยอยู่จนถึงทุกวันนี้

เหล่าลูกหลานของเลวี

บรรดาลูกชายของเลวีคือ เกอร์โชน โคฮาทและเมรารี

บรรดาลูกชายของโคฮาทคือ อัมราม อิสฮาร์ เฮโบรนและอุสซีเอล

ลูกๆของอัมรามคือ อาโรน โมเสสและมิเรียม

พวกลูกชายของอาโรนคือ นาดับ อาบีฮู เอเลอาซาร์และอิธามาร์ เอเลอาซาร์เป็นพ่อของฟีเนหัส ฟีเนหัสเป็นพ่อของอาบีชูวา อาบีชูวาเป็นพ่อของบุคคี และบุคคีเป็นพ่อของอุสซี อุสซีเป็นพ่อของเศราหิยาห์ เศราหิยาห์เป็นพ่อของเมราโยท เมราโยทเป็นพ่อของอามาริยาห์ อามาริยาห์เป็นพ่อของอาหิทูบ อาหิทูบเป็นพ่อของศาโดก และศาโดกก็เป็นพ่อของอาหิมาอัส อาหิมาอัสเป็นพ่อของอาซาริยาห์ อาซาริยาห์เป็นพ่อของโยฮานัน 10 โยฮานันเป็นพ่อของอาซาริยาห์ (คนผู้นี้ได้เป็นนักบวชรับใช้อยู่ในวิหารที่ซาโลมอนได้สร้างขึ้นในเมืองเยรูซาเล็ม) 11 อาซาริยาห์เป็นพ่อของอามาริยาห์ อามาริยาห์เป็นพ่อของอาหิทูบ 12 อาหิทูบเป็นพ่อของศาโดก และศาโดกก็เป็นพ่อของชัลลูม 13 ชัลลูมเป็นพ่อของฮิลคียาห์ และฮิลคียาห์เป็นพ่อของอาซาริยาห์ 14 อาซาริยาห์เป็นพ่อของเสไรอาห์ ส่วนเสไรอาห์ก็เป็นพ่อของเยโฮซาดัก

15 เยโฮซาดักถูกจับไปเป็นเชลยเมื่อครั้งที่พระยาห์เวห์ได้ขับไล่ยูดาห์และเมืองเยรูซาเล็ม ด้วยน้ำมือของเนบู-คัดเนสซาร์

ลูกหลานของเลวี

16 บรรดาลูกหลานของเลวี คือ เกอร์โชม โคฮาทและเมรารี

17 ต่อไปนี้คือชื่อของลูกๆเกอร์โชน คือ ลิบนีและชิเมอี

18 บรรดาลูกชายของโคฮาทคือ อัมราม อิสฮาร์ เฮโบรนและอุสซีเอล

19 บรรดาลูกชายของเมรารีคือ มาห์ลีและมูชี

ต่อไปนี้จะเป็นเหล่าตระกูลของชาวเลวีซึ่งเรียงตามลำดับรายชื่อของบรรพบุรุษของพวกเขา

20 ลูกชายของเกอร์โชม คือลิบนี ลูกชายของลิบนีคือยาหาท ลูกชายของยาหาทคือศิมมาห์ 21 ลูกชายของศิมมาห์คือโยอาห์ ลูกชายของโยอาห์คืออิดโด ลูกชายของอิดโดคือ เศราห์ ลูกชายของเศราห์คือเยอาเธรัย

22 ต่อไปนี้คือลูกหลานของโคฮาท ลูกชายของโคฮาทคือ อัมมีนาดับ ลูกชายของอัมมีนาดับคือโคราห์ ลูกชายของโคราห์ คือ อัสสีร์ 23 (ลูกชายของโคราห์ คือเอลคานาห์ เอบียาสาฟและอัสสีร์) 24 ลูกชายของอัสสีร์คือทาหัท ลูกชายของทาหัทคืออุรีเอล ลูกชายของอุรีเอลคืออุสซียาห์ ลูกชายของอุสซียาห์คือชาอูล

25 ลูกชายของเอลคานาห์คือ อามาสัยและอาหิโมท 26 ลูกชายของอาหิโมทคือเอลคานาห์ ลูกชายของเอลคานาห์คือโศฟัย ลูกชายของโศฟัยคือนาหัท 27 ลูกชายของนาหัท คือเอลีอับ ลูกชายของเอลีอับคือเยโรฮัม ลูกชายของเยโรฮัมคือเอลคานาห์ ลูกชายของเอลคานาห์คือซามูเอล 28 ลูกชายของซามูเอลคือ โยเอลซึ่งเป็นลูกชายคนแรก คนที่สองคืออาบียาห์

29 ลูกชายของเมรารีคือ มาห์ลี ลูกชายของมาห์ลีคือลิบนี ลูกชายของลิบนีคือชิเมอี ลูกชายของชิเมอีคืออุสซาห์ 30 ลูกชายของอุสซาห์คือชิเมอา ลูกชายของชิเมอา คือฮักกียาห์ ลูกชายของฮักกียาห์คืออาสายาห์

ดาวิดแต่งตั้งนักร้องของวิหาร

31 ต่อไปนี้คือคนที่ดาวิดได้แต่งตั้งให้ดูแลเรื่องการร้องเพลงในวิหารของพระยาห์เวห์ หลังจากที่หีบศักดิ์สิทธิ์ ได้มาอยู่ในเมืองเยรูซาเล็มแล้ว 32 และพวกเขาได้รับใช้ด้วยการร้องเพลงอยู่ต่อหน้าเต็นท์ศักดิ์สิทธิ์ หรือที่เรียกว่าเต็นท์นัดพบ พวกเขารับใช้อยู่จนกระทั่งซาโลมอนได้สร้างวิหารของพระยาห์เวห์ขึ้นในเมืองเยรูซาเล็ม และพวกเขาได้ทำงานรับใช้ตามที่ได้รับมอบหมายมา และตามกฏระเบียบทางพิธีกรรม

33 ต่อไปนี้คือผู้ที่ได้รับใช้ในการนมัสการพร้อมกับลูกหลานของพวกเขา

จากตระกูลโคฮาท คือ เฮมานที่เป็นนักร้อง ที่เป็นลูกชายของโยเอลที่เป็นลูกชายของซามูเอล 34 ที่เป็นลูกชายของเอลคานาห์ ที่เป็นลูกชายของเยโรฮัม ที่เป็นลูกชายของเอลีเอล ที่เป็นลูกชายของโทอาห์ 35 ที่เป็นลูกชายของศูฟ ที่เป็นลูกชายของเอลคานาห์ ที่เป็นลูกชายของมาฮาท ที่เป็นลูกชายของอามาสัย 36 ที่เป็นลูกชายของเอลคานาห์ที่เป็นลูกชายของโยเอล ที่เป็นลูกชายของอาซาริยาห์ ที่เป็นลูกชายของเศฟันยาห์ 37 ที่เป็นลูกชายของทาหัท ที่เป็นลูกชายของอัสสีร์ ที่เป็นลูกชายของเอบียาสาฟ ที่เป็นลูกชายของโคราห์ 38 ที่เป็นลูกชายของอิสฮาร์ ที่เป็นลูกชายของโคฮาท ที่เป็นลูกชายของเลวี ที่เป็นลูกชายของอิสราเอล

39 และเพื่อนร่วมงานของเฮมาน ที่ยืนอยู่ทางขวาของเขาคือ อาสาฟ ลูกชายของเบเรคิยาห์ ที่เป็นลูกชายของชิเมอา 40 ที่เป็นลูกชายของมีคาเอล ที่เป็นลูกชายของบาอาเสยาห์ ที่เป็นลูกชายของมัลคิยาห์ 41 ที่เป็นลูกชายของเอทนี ที่เป็นลูกชายของเศราห์ ที่เป็นลูกชายของอาดายาห์ 42 ที่เป็นลูกชายของเอธาน ที่เป็นลูกชายของศิมมาห์ ที่เป็นลูกชายของชิเมอี 43 ที่เป็นลูกชายของยาหาท ที่เป็นลูกชายของเกอร์โชน[i] ที่เป็นลูกชายของเลวี

44 และลูกหลานของเมรารี เพื่อนร่วมงานของพวกเขา ที่ยืนอยู่ซ้ายมือ คือลูกหลานของเมรารี ประกอบด้วยเอธานลูกชายของคีชี ที่เป็นลูกชายของอับดี ที่เป็นลูกชายของมัลลูค 45 ที่เป็นลูกชายของฮาชาบิยาห์ ที่เป็นลูกชายของอามาซิยาห์ ที่เป็นลูกชายของฮิลคียาห์ 46 ที่เป็นลูกชายของอัมซี ที่เป็นลูกชายของบานี ที่เป็นลูกชายของเชเมอร์ 47 ที่เป็นลูกชายของมาห์ลี ที่เป็นลูกชายของมูชี ที่เป็นลูกชายของเมรารี ที่เป็นลูกชายของเลวี

48 บรรดาญาติๆของชาวเลวี ได้อุทิศตัวให้กับงานบริการทุกอย่างในเต็นท์ศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นบ้านของพระเจ้า 49 แต่อาโรนและบรรดาลูกหลานของเขา ได้ทำหน้าที่เผาสัตว์ทั้งตัวถวายบนแท่นบูชาที่ใช้สำหรับเรื่องนี้ และเผาเครื่องหอมบนแท่นเครื่องหอม รวมทั้งทำงานทุกอย่างภายในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดด้วย และพวกเขาได้กำจัดบาปและความไม่บริสุทธิ์ให้กับชาวอิสราเอล ตามที่โมเสสผู้รับใช้พระเจ้าได้สั่งเอาไว้

พวกลูกหลานของอาโรน

50 ต่อไปนี้คือพวกลูกหลานของอาโรน อาโรนมีลูกชายชื่อเอเลอาซาร์ ที่มีลูกชายชื่อฟีเนหัส ที่มีลูกชายชื่ออาบีชูวา 51 ที่มีลูกชายชื่อบุคคี ที่มีลูกชายชื่ออุสซี ที่มีลูกชายชื่อเศราหิยาห์ 52 ที่มีลูกชายชื่อเมราโยท ที่มีลูกชายชื่ออามาริยาห์ ที่มีลูกชายชื่ออาหิทูบ 53 ที่มีลูกชายชื่อศาโดก ที่มีลูกชายชื่ออาหิมาอัส

ที่พักอาศัยของครอบครัวชาวเลวี

(ยชว. 21:1-42)

54 ต่อไปนี้คือที่พักอาศัยของลูกหลานของอาโรนตามชุมชนของพวกเขา ในเขตแดนของพวกเขา

ตระกูลโคฮาทได้รับส่วนแบ่งส่วนแรกของที่ดินที่ได้มอบให้กับชาวเลวี 55 พวกเขาได้เมืองเฮโบรนที่อยู่ในแผ่นดินของยูดาห์และทุ่งหญ้าโดยรอบ 56 แต่บริเวณท้องทุ่งที่อยู่ไกลออกไปจากเมืองนั้นและพวกหมู่บ้านโดยรอบเป็นของคาเลบลูกชายของเยฟุนเนห์ 57 บรรดาลูกหลานของอาโรนได้รับเมืองสำหรับลี้ภัย[j] หลายเมือง เช่น เมืองเฮโบรน ลิบนาห์และทุ่งหญ้ารอบๆ เมืองยาททีร์ เมืองเอชเทโมอาและทุ่งหญ้ารอบๆ 58 เมืองฮีเลนและทุ่งหญ้ารอบๆ เมืองเดบีร์และทุ่งหญ้ารอบๆ 59 เมืองอาชันและทุ่งหญ้ารอบๆ เมืองยุททาห์และทุ่งหญ้ารอบๆ เมืองเบธเชเมชและทุ่งหญ้ารอบๆ 60 แล้วในเขตแดนของเผ่าเบนยามิน พวกชาวเลวีได้รับเมืองกิเบโอนและทุ่งหญ้ารอบๆ เมืองเกบาและทุ่งหญ้ารอบๆ เมืองอาเลเมทและทุ่งหญ้ารอบๆ เมืองอานาโธทและทุ่งหญ้ารอบๆ

ตระกูลโคฮาทได้เมืองไปทั้งหมดสิบสามเมือง

61 และจากการจับสลาก ลูกหลานที่เหลือของโคฮาทก็ได้รับเมืองอีกสิบเมือง มาจากตระกูลทั้งหลายในเผ่าของเอฟราอิม เผ่าดาน และเผ่ามนัสเสห์ครึ่งเผ่า

62 ส่วนตระกูลต่างๆของเกอร์โชมได้รับเมืองสิบสามเมืองจากชนเผ่าอิสสาคาร์ อาเชอร์ นัฟทาลีและคนเผ่ามนัสเสห์ครึ่งหนึ่งที่อยู่ในบาชาน

63 ส่วนตระกูลต่างๆของเมรารี พวกเขาจับสลากได้รับเมืองสิบสองเมือง จากชนเผ่ารูเบน กาดและเศบูลุน

64 ดังนั้น ชาวอิสราเอลทั้งหลายจึงได้มอบเมืองต่างๆเหล่านั้นพร้อมกับทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์มากมายให้แก่ชาวเลวี 65 พวกชาวเลวี ได้รับเมืองทั้งหมดเหล่านั้นมาจากชนเผ่ายูดาห์ สิเมโอนและเบนยามิน จากการจับสลากแบ่งกัน

66 มีตระกูลบางตระกูลในกลุ่มลูกหลานของโคฮาทที่ได้รับเมืองต่างๆมาเป็นเขตแดนของพวกเขา จากชนเผ่าเอฟราอิม 67 พวกเอฟราอิมได้ให้เมืองสำหรับลี้ภัยหลายเมืองแก่พวกเขา เช่น เมืองเชเคมและทุ่งหญ้าโดยรอบในแถบเนินเขาเอฟราอิม เมืองเกเซอร์และทุ่งหญ้ารอบๆ 68 โยกเมอัมและทุ่งหญ้ารอบๆเมืองเบธโฮโรนและทุ่งหญ้ารอบๆ 69 และจากเผ่าดาน เอลเทเค และทุ่งหญ้ารอบๆและกิบเบโทนและทุ่งหญ้ารอบๆ[k] เมืองอัยยาโลนและทุ่งหญ้ารอบๆเมืองกัทริมโมนและทุ่งหญ้ารอบๆ 70 พวกชาวอิสราเอลยังได้ให้เมืองอาเนอร์และทุ่งหญ้ารอบๆเมืองบิเลอัมและทุ่งหญ้ารอบๆที่เป็นของคนเผ่ามนัสเสห์ครึ่งหนึ่งนั้น ให้กับตระกูลต่างๆที่เป็นลูกหลานของโคฮาทด้วย

ที่พักอาศัยของครอบครัวชาวเลวีอื่นๆ

71 ส่วนลูกหลานของเกอร์โชม ได้รับโกลานที่อยู่ในเมืองบาชานและทุ่งหญ้ารอบๆรวมทั้งอัชทาโรทและทุ่งหญ้ารอบๆมาจากครึ่งหนึ่งของคนเผ่ามนัสเสห์

72 พวกเขาได้รับเคเดชกับทุ่งหญ้ารอบๆดาเบรัทกับทุ่งหญ้ารอบๆ 73 ราโมทกับทุ่งหญ้ารอบๆและอาเนมรวมทั้งทุ่งหญ้ารอบๆจากเผ่าอิสสาคาร์

74-75 พวกเขาได้มาชาลกับทุ่งหญ้ารอบๆอับโดนกับทุ่งหญ้ารอบๆ หุกอกกับทุ่งหญ้ารอบๆและเรโหบกับทุ่งหญ้ารอบๆจากเผ่าอาเชอร์

76 พวกเขาได้รับเคเดชในกาลิลีกับทุ่งหญ้ารอบๆฮัมโมนกับทุ่งหญ้ารอบๆคิริยาธาอิมกับทุ่งหญ้ารอบๆจากเผ่านัฟทาลี

77 ส่วนพวกลูกหลานของเมรารีที่เหลือ ต่างก็ได้เมืองมาจากชนเผ่าเศบูลุนหลายเมือง คือ ริมโมโนกับทุ่งหญ้ารอบๆทาโบร์กับทุ่งหญ้ารอบๆ

78-79 แล้วในที่ดินที่อยู่ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดน ที่อยู่ตรงข้ามกับเมืองเยริโค พวกเขาได้รับเมืองเบเซอร์ในที่แห้งแล้งและทุ่งหญ้ารอบๆยาซาห์กับทุ่งหญ้ารอบๆ เคเดโมทกับทุ่งหญ้ารอบๆรวมทั้งเมฟาอัทกับทุ่งหญ้ารอบๆจากเผ่ารูเบน

80-81 พวกเขาได้รับเมืองราโมทที่อยู่ในกิเลอาด และทุ่งหญ้ารอบๆมาหะนาอิมกับทุ่งหญ้ารอบๆ เฮชโบนกับทุ่งหญ้ารอบๆและยาเซอร์กับทุ่งหญ้ารอบๆจากชนเผ่ากาด

ยอห์น 6:1-21

พระเยซูเลี้ยงคนกว่าห้าพัน

(มธ. 14:13-21; มก. 6:30-44; ลก. 9:10-17)

หลังจากนั้นพระเยซูข้ามไปอีกฟากหนึ่งของทะเลสาบกาลิลี (หรือทะเลสาบทิเบเรียส) มีคนมากมายติดตามพระองค์ไป เพราะพวกเขาเห็นพระองค์ทำสิ่งอัศจรรย์ตอนรักษาคนป่วย พระเยซูขึ้นไปบนภูเขา แล้วนั่งอยู่กับพวกศิษย์ของพระองค์ ตอนนั้นใกล้จะถึงเทศกาลวันปลดปล่อยของชาวยิวแล้ว

เมื่อพระองค์เงยหน้าขึ้นก็เห็นคนมากมายพากันมาหาพระองค์ พระองค์พูดกับฟีลิปว่า “พวกเราจะไปซื้ออาหารที่ไหนถึงจะพอเลี้ยงคนทั้งหมดนี้” (พระเยซูถามเพื่อลองใจฟีลิป เพราะพระองค์รู้อยู่แล้วว่าจะทำอย่างไร)

ฟีลิปตอบว่า “เงินค่าแรงเกือบแปดเดือน[a] ก็ยังไม่พอซื้ออาหารให้คนพวกนี้กินกันคนละนิดคนละหน่อยได้เลยครับ”

ศิษย์อีกคนหนึ่งของพระเยซู ชื่ออันดรูว์ น้องชายของซีโมนเปโตรบอกพระองค์ว่า “มีเด็กชายคนหนึ่งที่นี่ มีขนมปังบาร์เลย์อยู่ห้าก้อน กับปลาอีกสองตัวครับ แต่แค่นี้จะไปพออะไรกับคนตั้งมากมายขนาดนี้”

10 พระเยซูบอกพวกศิษย์ว่า “บอกให้พวกเขานั่งลง” (ที่นั่นมีหญ้าขึ้นเต็มไปหมด) แล้วทุกคนก็นั่งลง (มีผู้ชายประมาณห้าพันคนในฝูงชนนั้น) 11 พระเยซูเอาขนมปังของเด็กน้อยคนนั้นมา เมื่อขอบคุณพระเจ้าเสร็จแล้ว ก็แบ่งขนมปังแจกให้กับทุกๆคนที่นั่งอยู่ที่พื้นนั้นอย่างไม่อั้น และพระองค์ก็หยิบปลามาทำอย่างเดียวกัน

12 เมื่อผู้คนกินกันจนอิ่มแล้ว พระองค์สั่งพวกศิษย์ว่า “เก็บขนมปังที่เหลือให้หมด จะได้ไม่เสียของ” 13 พวกศิษย์ก็เก็บเศษที่เหลือจากขนมปังห้าก้อนนี้ได้สิบสองเข่งเต็มๆ

14 เมื่อคนพวกนี้เห็นสิ่งอัศจรรย์ที่พระองค์ทำ เขาเริ่มพูดกันว่า “คนนี้ต้องเป็นผู้พูดแทนพระเจ้าคนนั้นที่ว่ากันว่าจะมาในโลกนี้แน่ๆ”

15 เมื่อพระเยซูรู้ว่าพวกเขาจะมาบีบบังคับให้พระองค์ไปเป็นกษัตริย์ของพวกเขา พระองค์ก็หลบขึ้นไปบนภูเขาเพียงคนเดียว

พระเยซูเดินบนน้ำ

(มธ. 14:22-27; มก. 6:45-52)

16 พอตกเย็นพวกศิษย์ของพระองค์ไปที่ทะเลสาบ 17 พวกเขาลงเรือและเริ่มข้ามฟากไปที่เมืองคาเปอรนาอุม ตอนนั้นมืดแล้ว แต่พระเยซูยังไม่ได้มาหาพวกเขา 18 เกิดพายุขึ้นทำให้คลื่นในทะเลสาบปั่นป่วนรุนแรงมาก 19 หลังจากที่พวกศิษย์พายเรือออกจากฝั่งมาได้ประมาณห้าถึงหกกิโลเมตร พวกเขาเห็นพระเยซูกำลังเดินอยู่บนน้ำตรงมาที่เรือ พวกเขาต่างก็ตกใจกลัว 20 แต่พระเยซูพูดกับพวกเขาว่า “นี่เราเอง ไม่ต้องกลัว” 21 พวกเขาก็ดีอกดีใจและรับพระองค์ขึ้นมาบนเรือ แล้วเรือก็ถึงฝั่งที่พวกเขาจะไปทันที

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International