Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

Old/New Testament

Each day includes a passage from both the Old Testament and New Testament.
Duration: 365 days
Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
2 พงศ์กษัตริย์ 15-16

อุสซียาห์ปกครองยูดาห์

(2 พศด. 26:3-23)

15 อุสซียาห์[a] ลูกชายของกษัตริย์อามาซิยาห์แห่งยูดาห์ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ ตรงกับปีที่ยี่สิบเจ็ด ที่เยโรโบอัมเป็นกษัตริย์ของอิสราเอล อุสซียาห์มีอายุสิบหกปีเมื่อเขาขึ้นเป็นกษัตริย์ และเขาได้ครองราชย์อยู่ในเมืองเยรูซาเล็มห้าสิบสองปี แม่ของเขามีชื่อว่าเยโคลียาห์ นางมาจากเมืองเยรูซาเล็ม เขาได้ทำสิ่งที่ถูกต้องในสายตาของพระยาห์เวห์ เหมือนกับที่อามาซิยาห์พ่อของเขาทำ แต่สถานนมัสการต่างๆก็ยังไม่ได้ถูกรื้อทิ้ง ประชาชนยังคงไปถวายเครื่องสัตวบูชาและเผาเครื่องหอม ที่นั่นอยู่เหมือนเดิม

พระยาห์เวห์ทำให้กษัตริย์อุสซียาห์ต้องทนทุกข์ทรมานจากโรคผิวหนังร้ายแรงจนถึงวันตาย และอุสซียาห์ใช้ชีวิตอยู่ในบ้านที่แยกออกมาต่างหาก โยธามลูกชายของเขา ได้ทำหน้าที่ดูแลวังและปกครองประชาชนในแผ่นดินนั้น

เหตุการณ์อื่นๆในยุคสมัยของอุสซียาห์และทุกสิ่งที่เขาได้ทำไป ได้จดบันทึกไว้แล้วในหนังสือประวัติของบรรดากษัตริย์แห่งยูดาห์ อุสซียาห์ได้ตายไปอยู่กับบรรพบุรุษของเขา และศพของเขาถูกฝังรวมกับบรรพบุรุษของเขาในเมืองของดาวิด และโยธามลูกชายของเขาก็ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์สืบต่อจากเขา

เศคาริยาห์ปกครองอิสราเอล

เศคาริยาห์ลูกชายของเยโรโบอัมได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ในเมืองสะมาเรียของอิสราเอล ตรงกับปีที่สามสิบแปด ที่อุสซียาห์เป็นกษัตริย์ปกครองยูดาห์ เศคาริยาห์ได้ครองราชย์อยู่หกเดือน เศคาริยาห์ได้ทำความชั่วในสายตาของพระยาห์เวห์เหมือนกับที่บรรพบุรุษของเขาทำ เขาไม่ยอมหันไปจากพวกบาปของเยโรโบอัม ลูกชายของเนบัท ที่ทำให้อิสราเอลพลอยทำบาปไปด้วย

10 ชัลลูมลูกชายของยาเบชได้กบฏต่อเศคาริยาห์ เขาได้ล้มเศคาริยาห์ลงต่อหน้าประชาชน และฆ่าเขา แล้วขึ้นเป็นกษัตริย์แทน 11 เหตุการณ์อื่นในยุคสมัยของเศคาริยาห์ได้จดบันทึกไว้แล้วในหนังสือประวัติของบรรดากษัตริย์แห่งอิสราเอล 12 เรื่องนี้เป็นไปตามคำสัญญาที่พระยาห์เวห์เคยให้ไว้กับกษัตริย์เยฮู ที่ว่า “ลูกหลานของเจ้าจะได้นั่งอยู่บนบัลลังก์อิสราเอลถึงสี่ชั่วคน”

ชัลลูมปกครองอิสราเอล

13 ชัลลูมลูกชายของยาเบชได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ ตรงกับปีที่สามสิบเก้าของกษัตริย์อุสซียาห์แห่งยูดาห์ และเขาได้ครองราชย์อยู่ในเมืองสะมาเรียเพียงหนึ่งเดือน

14 เมนาเฮมลูกชายของกาดีได้มาจากเมืองทีรซาห์ขึ้นไปที่เมืองสะมาเรีย เขาได้ล้มชัลลูมลูกชายของยาเบชลงและฆ่าเขาในสะมาเรีย และขึ้นเป็นกษัตริย์แทน

15 เหตุการณ์อื่นๆในสมัยของชัลลูมและการสมคบกันกบฏที่มีเขาเป็นผู้นำนั้น ได้จดบันทึกไว้แล้วในหนังสือประวัติของบรรดากษัตริย์แห่งอิสราเอล

เมนาเฮมปกครองอิสราเอล

16 ในเวลานั้น เมนาเฮมที่ออกเดินทางมาจากเมืองทีรซาห์ ได้เข้าโจมตีเมืองทิฟสาห์และผู้คนที่อยู่ในเมืองนั้น รวมทั้งเมืองที่อยู่รอบๆเพราะคนเหล่านั้นไม่ยอมเปิดประตูเมืองให้ เขาปล้นเมืองเหล่านั้นและแหวกท้องของหญิงมีครรภ์ทุกคน

17 เมนาเฮมลูกชายของกาดีได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ของอิสราเอล ตรงกับปีที่สามสิบเก้าที่กษัตริย์อุสซียาห์ปกครองยูดาห์ เขาได้ครองราชย์อยู่ในเมืองสะมาเรียเป็นเวลาสิบปี 18 เขาได้ทำความชั่วในสายตาของพระยาห์เวห์ ตลอดเวลาที่เขาครองราชย์อยู่ เขาไม่เคยหันไปจากพวกบาปของเยโรโบอัมลูกชายของเนบัท ที่ทำให้อิสราเอลพลอยทำบาปไปด้วย

19 แล้วกษัตริย์ปูล[b] แห่งอัสซีเรียได้มาบุกอิสราเอล กษัตริย์เมนาเฮมได้ให้เงินสามหมื่นสี่พันกิโลกรัม[c] แก่กษัตริย์ปูล เพื่อให้กษัตริย์ปูลสนับสนุนเขา และช่วยให้เขากุมอำนาจในการเป็นกษัตริย์ต่อไป 20 เมนาเฮมได้เรี่ยไรเงินจากคนอิสราเอลที่เป็นคนรวย เขาให้คนรวยจ่ายภาษีคนละห้าสิบเชเขล[d] แล้วเอาเงินนั้นมาให้กับกษัตริย์ปูลของอัสซีเรีย ดังนั้น กษัตริย์ปูลของอัสซีเรียจึงยอมถอยทัพกลับ ไม่อยู่ในแผ่นดินอิสราเอลอีกต่อไป

21 เหตุการณ์อื่นๆในสมัยของเมนาเฮม และสิ่งที่เขาได้ทำทั้งหมด ได้จดบันทึกไว้แล้วในหนังสือประวัติของบรรดากษัตริย์ของอิสราเอล 22 เมนาเฮมได้ตายไปอยู่กับบรรพบุรุษของเขา และเปคาหิยาห์ลูกชายของเขาก็ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์สืบต่อจากเขา

เปคาหิยาห์ปกครองอิสราเอล

23 เปคาหิยาห์ลูกชายของเมนาเฮมได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ของอิสราเอลอยู่ในเมืองสะมาเรีย ตรงกับปีที่ห้าสิบที่กษัตริย์อุสซียาห์ปกครองยูดาห์ เปคาหิยาห์ได้ครองราชย์อยู่สองปี 24 เปคาหิยาห์ได้ทำความชั่วในสายตาของพระยาห์เวห์ เขาไม่ได้หันไปจากพวกบาปทั้งหลายของเยโรโบอัมลูกชายของเนบัท ที่ทำให้อิสราเอลพลอยทำบาปไปด้วย

25 แม่ทัพคนหนึ่งของเปคาหิยาห์ ชื่อเปคาห์ลูกชายของเรมาลิยาห์ได้คิดวางแผนกบฏต่อเขา เปคาห์ได้รวบรวมคนห้าสิบคนมาจากกิเลอาด และได้ฆ่าเปคาหิยาห์พร้อมกับอารโกบและอาริเอห์ตายที่ป้อมของวังกษัตริย์ที่เมืองสะมาเรีย ดังนั้น เปคาห์ได้ฆ่าเปคาหิยาห์และขึ้นเป็นกษัตริย์แทน

26 ส่วนเหตุการณ์อื่นๆในยุคสมัยของเปคาหิยาห์และทุกสิ่งที่เขาได้ทำไป ได้จดบันทึกไว้แล้วในหนังสือประวัติของบรรดากษัตริย์ของอิสราเอล

เปคาห์ปกครองอิสราเอล

27 เปคาห์ลูกชายของเรมาลิยาห์ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ของอิสราเอลในเมืองสะมาเรีย ตรงกับปีที่ห้าสิบสอง ที่กษัตริย์อุสซียาห์ปกครองยูดาห์ เปคาห์ได้ครองราชย์อยู่ยี่สิบปี 28 เขาได้ทำความชั่วในสายตาของพระยาห์เวห์ เขาไม่ได้หันไปจากบาปทั้งหลายของเยโรโบอัมลูกชายของเนบัท ซึ่งทำให้อิสราเอลพลอยทำบาปไปด้วย

29 ในช่วงที่กษัตริย์เปคาห์ปกครองอิสราเอลอยู่นั้น กษัตริย์ทิกลัท-ปิเลเสอร์[e] แห่งอัสซีเรียได้ลงมายึดเมืองอิโยน อาเบล-เบธมาอาคาห์ ยาโนอาห์ เคเดช ฮาโซร์ กิเลอาด กาลิลี รวมทั้งแผ่นดินนัฟทาลีทั้งหมดและได้กวาดต้อนผู้คนไปที่อัสซีเรีย

30 แล้วโฮเชยา ลูกชายของเอลาห์ก็ได้วางแผนกบฏต่อเปคาห์ลูกชายของเรมาลิยาห์ โฮเชยาฆ่าเปคาห์ตาย และขึ้นเป็นกษัตริย์แทนเขา ตรงกับปีที่ยี่สิบที่โยธามลูกชายของอุสซียาห์เป็นกษัตริย์ของยูดาห์

31 ส่วนเหตุการณ์อื่นๆในยุคสมัยของเปคาห์และสิ่งที่เขาได้ทำไปทั้งหมด ได้จดบันทึกไว้แล้วในหนังสือประวัติของบรรดากษัตริย์ของอิสราเอล

โยธามปกครองยูดาห์

(2 พศด. 27:1-9)

32 โยธามลูกชายของกษัตริย์อุสซียาห์แห่งยูดาห์ขึ้นเป็นกษัตริย์ ตรงกับปีที่สองที่กษัตริย์เปคาห์ลูกชายของเรมาลิยาห์ปกครองอิสราเอล 33 โยธามมีอายุยี่สิบห้าปี ตอนที่เขาขึ้นเป็นกษัตริย์ และเขาครองราชย์อยู่ในเยรูซาเล็มเป็นเวลาสิบหกปี แม่ของเขามีชื่อว่าเยรูชา นางเป็นลูกสาวของศาโดก 34 โยธามได้ทำสิ่งที่ถูกต้องในสายตาของพระยาห์เวห์ เหมือนกับที่อุสซียาห์พ่อของเขาทำ 35 แต่สถานนมัสการต่างๆก็ยังไม่ได้ถูกรื้อทิ้ง ประชาชนยังคงไปถวายเครื่องสัตวบูชาและเผาเครื่องหอมที่นั่นอยู่เหมือนเดิม โยธามได้สร้างประตูชั้นบนของวิหาร ของพระยาห์เวห์ขึ้นใหม่อีกครั้ง 36 ส่วนเหตุการณ์อื่นๆในยุคสมัยของโยธาม และสิ่งที่เขาได้ทำไป ได้จดบันทึกไว้แล้วในหนังสือประวัติของบรรดากษัตริย์ของยูดาห์

37 ในเวลานั้น พระยาห์เวห์ได้ส่งกษัตริย์เรซีนของชาวอารัมและเปคาห์ลูกชายของเรมาลิยาห์มาสู้รบกับยูดาห์

38 โยธามตายไปอยู่กับบรรพบุรุษของเขาและศพของเขาถูกฝังรวมอยู่กับพวกบรรพบุรุษของเขาในเมืองของดาวิด และอาหัสลูกชายของเขาก็ขึ้นเป็นกษัตริย์สืบต่อจากเขา

อาหัสปกครองยูดาห์

(2 พศด. 28:1-27)

16 อาหัสลูกชายของโยธามขึ้นเป็นกษัตริย์ของยูดาห์ ตรงกับปีที่สิบเจ็ด ที่เปคาห์ลูกชายของเรมาลิยาห์ เป็นกษัตริย์ปกครองอิสราเอล ตอนที่อาหัสขึ้นเป็นกษัตริย์นั้น เขามีอายุยี่สิบปี อาหัสครองราชย์อยู่ในเยรูซาเล็มสิบหกปี เขาไม่เหมือนกับดาวิดบรรพบุรุษของเขา เพราะเขาไม่ยอมทำสิ่งที่ถูกต้องในสายตาของพระยาห์เวห์พระเจ้าของเขา อาหัสเดินตามรอยกษัตริย์องค์อื่นๆของอิสราเอล ถึงขนาดที่เอาลูกชายของตัวเองไปเผาไฟเป็นเครื่องบูชา[f] เลียนแบบการกระทำอันน่าขยะแขยงของพวกชนชาติทั้งหลายที่พระยาห์เวห์ได้ขับไล่ออกไปจากแผ่นดินตอนที่อิสราเอลย้ายเข้ามาอยู่ อาหัสถวายเครื่องสัตวบูชาและเผาเครื่องหอม ในสถานนมัสการต่างๆและตามยอดเขาและใต้ต้นไม้ใบร่มทั้งหลาย

แล้วเรซีนกษัตริย์ของชาวอารัมและกษัตริย์เปคาห์แห่งอิสราเอลลูกชายของเรมาลิยาห์ ได้ยกทัพขึ้นมาสู้รบกับเมืองเยรูซาเล็ม และไปล้อมอาหัสไว้ แต่พวกเขาไม่สามารถเอาชนะอาหัสได้ ในเวลานั้น กษัตริย์เรซีนของชาวอารัมได้ยึดเมืองเอลัทคืนมาให้กับชาวอารัม และขับไล่คนยูดาห์ออกไปจนหมด แล้วชาวเอโดมก็ได้ย้ายเข้ามาในเมืองเอลัท และได้อาศัยอยู่ที่นั่นจนถึงทุกวันนี้

อาหัสส่งพวกคนส่งข่าวไปหากษัตริย์ทิกลัท-ปิเลเสอร์ของอัสซีเรีย บอกว่า “เราเป็นผู้รับใช้ และเป็นเหมือนลูกของท่าน ขึ้นมาช่วยเหลือเราให้พ้นจากเงื้อมมือของกษัตริย์ของอารัมและกษัตริย์ของอิสราเอล ที่มาโจมตีเราด้วยเถิด” อาหัสเอาเงินและทองคำที่มีอยู่ในวิหารของพระยาห์เวห์และในคลังสมบัติในวัง ส่งไปให้เป็นของขวัญแก่กษัตริย์ของอัสซีเรีย กษัตริย์ของอัสซีเรียก็ฟังเขา แล้วก็ยกทัพไปโจมตีเมืองดามัสกัสและยึดเมืองไว้ได้ เขาได้กวาดต้อนเอาคนที่นั่นไปไว้ที่เมืองคีร์และได้ฆ่ากษัตริย์เรซีน

10 แล้วกษัตริย์อาหัสก็ลงไปที่เมืองดามัสกัสเพื่อพบกับกษัตริย์ทิกลัท-ปิเลเสอร์ของอัสซีเรีย เขาเห็นแท่นบูชาแท่นหนึ่งในเมืองดามัสกัสและได้ส่งแบบจำลองและรายละเอียดของแท่นบูชานั้นไปให้กับนักบวชอุรียาห์ 11 แล้วนักบวชอุรียาห์ก็ได้สร้างแท่นบูชาขึ้นแท่นหนึ่งเหมือนกับแบบที่กษัตริย์อาหัสส่งมาให้เขาจากเมืองดามัสกัสทุกอย่าง และสร้างมันเสร็จก่อนที่กษัตริย์อาหัสจะกลับมา

12 เมื่อกษัตริย์อาหัสกลับมาจากเมืองดามัสกัสและเห็นแท่นบูชานั้น เขาเข้าไปใกล้ๆและขึ้นไปบนแท่นบูชานั้น 13 เขาถวายเครื่องเผาบูชาและเครื่องบูชาจากเมล็ดพืช เขาเทเครื่องดื่มบูชาของเขาออกมาและสาดเลือดจากเครื่องสังสรรค์บูชาเข้าใส่แท่นบูชานั้น

14 อาหัสได้ย้ายแท่นบูชาที่ทำจากทองสัมฤทธิ์ซึ่งตั้งอยู่ตรงหน้าพระยาห์เวห์ ออกไปจากด้านหน้าของวิหาร แท่นบูชานี้ตั้งอยู่ระหว่างแท่นบูชาใหม่ของอาหัสกับวิหารของพระยาห์เวห์ อาหัสย้ายแท่นบูชาทองสัมฤทธิ์นี้ไปตั้งไว้ทางทิศเหนือของแท่นบูชาใหม่ 15 แล้วกษัตริย์อาหัสสั่งนักบวชอุรียาห์ว่า “บนแท่นบูชาขนาดใหญ่แท่นใหม่นี้ ให้ถวายเครื่องเผาบูชาในตอนเช้าและเครื่องบูชาจากเมล็ดพืชในตอนเย็น และเครื่องเผาบูชาและเครื่องบูชาจากเมล็ดพืชของกษัตริย์ รวมทั้งเครื่องเผาบูชาของประชาชนและเครื่องบูชาจากเมล็ดพืชของพวกเขา ตลอดจนเครื่องดื่มบูชาของพวกเขาทั้งหลาย และให้เอาเลือดทั้งหมดของเครื่องเผาบูชาทั้งหลายและเครื่องสัตวบูชาต่างๆสาดใส่แท่นบูชาใหม่นี้ ส่วนแท่นบูชาที่ทำจากทองสัมฤทธิ์นั้น เราจะใช้ตอนที่ขอคำแนะนำจากพระเจ้า” 16 และนักบวชอุรียาห์ก็ทำตามที่กษัตริย์อาหัสได้สั่งเขาไว้

17 กษัตริย์อาหัสได้ตัดแผงกั้นด้านข้างของรถเข็นที่เลื่อนได้เหล่านั้นออกและยกพวกอ่างออกจากรถเข็นพวกนั้น เขาได้เอาขันทะเลออกจากรูปปั้นวัวทองสัมฤทธิ์ที่รองอยู่ใต้มัน และเอามันไปตั้งไว้บนฐานหิน 18 เขาได้รื้อศาลาวันหยุดทางศาสนาที่เคยสร้างเอาไว้ในบริเวณวิหารออก และรื้อทางเข้าสำหรับกษัตริย์ที่อยู่ด้านนอกของวิหารของพระยาห์เวห์ออก เขาทำทั้งหมดนี้เพื่อส่งของที่มีค่าทั้งหมดนี้ไปเป็นส่วยให้กับกษัตริย์ของอัสซีเรีย

19 ส่วนเหตุการณ์อื่นในยุคสมัยของอาหัสและสิ่งที่เขาได้ทำไป ได้จดบันทึกไว้แล้วในหนังสือประวัติของบรรดากษัตริย์ของยูดาห์ 20 อาหัสได้ตายไปอยู่กับบรรพบุรุษของเขา เขาถูกฝังไว้กับพวกบรรพบุรุษของเขาในเมืองของดาวิด และเฮเซคียาห์ลูกชายของเขาก็ขึ้นเป็นกษัตริย์สืบต่อจากเขา

ยอห์น 3:1-18

พระเยซูกับนิโคเดมัส

มีชายคนหนึ่งเป็นพวกฟาริสี ชื่อนิโคเดมัส เป็นผู้นำชาวยิวคนหนึ่ง เขามาหาพระเยซูตอนกลางคืน และพูดว่า “อาจารย์ครับ พวกเรารู้ว่าพระเจ้าส่งอาจารย์มาสอนพวกเรา เพราะไม่มีใครทำเรื่องอัศจรรย์อย่างที่อาจารย์ทำได้ นอกจากจะมีพระเจ้าอยู่ด้วยเท่านั้น” พระเยซูบอกว่า “เราจะบอกให้รู้ว่า คนที่ไม่ได้เกิดใหม่[a]ก็จะไม่เห็นอาณาจักรของพระเจ้า”

นิโคเดมัสถามพระเยซูว่า “คนแก่แล้วจะเกิดใหม่ได้ยังไงครับ จะให้เข้าไปในท้องแม่เป็นครั้งที่สอง แล้วเกิดออกมาใหม่ได้หรือ”

พระเยซูตอบว่า “เราจะบอกให้รู้ว่า คนที่ไม่ได้เกิดจากน้ำและพระวิญญาณบริสุทธิ์ จะเข้าไปในอาณาจักรของพระเจ้าไม่ได้ พ่อแม่ให้เราเกิดมาเป็นได้แค่ลูกของมนุษย์ แต่พระวิญญาณของพระเจ้าทำให้เราเกิดมาเป็นลูกของพระเจ้า ไม่ต้องแปลกใจหรอกที่เราบอกว่า ‘พวกคุณจะต้องเกิดใหม่’ ลม[b] อยากพัดไปทางไหนมันก็พัดไป คุณได้ยินเสียงลม แต่ไม่รู้หรอกว่าพัดมาจากไหนหรือจะพัดไปไหน คนที่เกิดจากพระวิญญาณก็จะเป็นอย่างนั้นเหมือนกัน”

นิโคเดมัสถามว่า “มันจะเป็นไปได้ยังไงครับอาจารย์”

10 พระเยซูตอบว่า “คุณเป็นอาจารย์ที่นับหน้าถือตาของคนอิสราเอล แต่ยังไม่เข้าใจสิ่งเหล่านี้อีกหรือ 11 เราจะบอกให้รู้ว่า พวกเราเล่าเรื่องที่พวกเราได้รู้ได้เห็นมา แต่พวกคุณไม่ยอมเชื่อในสิ่งที่พวกเราบอก 12 นี่ขนาดเราเล่าเรื่องบนโลกนี้ให้ฟัง พวกคุณยังไม่ยอมเชื่อเราเลย แล้วถ้าเราเล่าเรื่องบนสวรรค์ให้ฟัง คุณจะเชื่อเราหรือ 13 ไม่มีใครเคยขึ้นไปบนสวรรค์ นอกจากผู้ที่ลงมาจากสวรรค์ ซึ่งก็คือ บุตรมนุษย์

14 โมเสสเคยยกงูขึ้นในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้ง[c] บุตรมนุษย์ก็จะต้องถูกยกขึ้นอย่างนั้นเหมือนกัน 15 เพื่อทุกคนที่ไว้วางใจในบุตรมนุษย์นั้นจะได้มีชีวิตกับพระเจ้าตลอดไป”

16 เพราะว่าพระเจ้ารักผูกพันกับมนุษย์ในโลกนี้มาก จนถึงขนาดยอมสละพระบุตรเพียงองค์เดียวของพระองค์ เพื่อว่าทุกคนที่ไว้วางใจในพระบุตรนั้นจะไม่สูญสิ้น แต่จะมีชีวิตกับพระเจ้าตลอดไป 17 พระเจ้าไม่ได้ส่งพระบุตรของพระองค์เข้ามาในโลกนี้ เพื่อตัดสินลงโทษโลกนี้ แต่เพื่อช่วยโลกนี้ให้รอดพ้น 18 คนที่ไว้วางใจพระบุตรจะไม่ถูกตัดสินลงโทษ แต่คนที่ไม่ไว้วางใจก็ได้ถูกตัดสินลงโทษไปแล้ว เพราะพวกเขาไม่ไว้วางใจพระบุตรเพียงองค์เดียวของพระเจ้า

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International