Old/New Testament
กฎอื่นๆ
22 เมื่อท่านเห็นวัวหรือแกะของเพื่อนบ้านกำลังจะหลงหายไป อย่าทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ท่านต้องจับส่งคืนไปให้กับเพื่อนบ้านท่าน 2 แต่ถ้าเจ้าของสัตว์นั้นอยู่ห่างไกลจากท่านหรือท่านไม่รู้ว่าเป็นของใคร ก็ให้ท่านเก็บสัตว์นั้นไว้ก่อน จนกว่าเพื่อนบ้านคนนั้นจะออกมาตามหา ท่านถึงค่อยคืนสัตว์นั้นให้กับเขาไป 3 ให้ท่านทำแบบเดียวกันนี้กับลา กับเสื้อผ้าและกับของอื่นๆที่เพื่อนบ้านของท่านทำหายและท่านไปพบเข้า อย่าทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
4 เมื่อท่านเห็นลาหรือวัวของเพื่อนบ้านล้มอยู่ที่ถนน อย่าทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ท่านต้องเข้าไปช่วยยกมันขึ้นด้วยกันกับเจ้าของมัน
5 ผู้หญิงต้องไม่สวมใส่เสื้อผ้าของผู้ชาย และผู้ชายต้องไม่สวมใส่เสื้อผ้าผู้หญิง เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่านขยะแขยงทุกคนที่ทำอย่างนั้น
6 ถ้าท่านกำลังเดินอยู่ และพบรังนกบนต้นไม้หรือตกอยู่บนพื้นดิน มีลูกนกหรือไข่นกอยู่ในนั้น และแม่นกกำลังกกลูกหรือไข่ของมันอยู่ ท่านต้องไม่จับทั้งแม่และลูกของมัน 7 ท่านอาจจะเก็บลูกของมันไว้ได้ แต่ต้องปล่อยแม่ของมันไป เพื่อทุกอย่างจะได้เป็นไปด้วยดีสำหรับท่าน และท่านจะมีอายุยืนยาว
8 เมื่อท่านสร้างบ้านใหม่ ต้องก่ออิฐกันตกรอบดาดฟ้า ท่านจะได้ไม่มีความผิดที่ทำให้คนตกลงมาตาย
ของที่ห้ามอยู่ด้วยกัน
9 เมื่อท่านทำไร่องุ่น ท่านต้องไม่ปลูกพืชอื่นแซม ไม่อย่างนั้นทั้งพืชที่ปลูกแซมและผลองุ่นจากไร่นั้นจะกลายเป็นสมบัติของพระเจ้า ถูกส่งไปยังสถานที่นมัสการพระองค์
10 เมื่อท่านไถดิน ท่านต้องไม่เอาวัวและลามาไถพร้อมๆกัน
11 ท่านต้องไม่สวมใส่เสื้อผ้าที่ทอด้วยขนสัตว์และลินินเข้าด้วยกัน
12 ท่านต้องทำพู่[a] ห้อยที่ชายเสื้อคลุมทั้งสี่ด้านของท่าน
กฎของการแต่งงาน
13 ถ้าชายคนหนึ่งแต่งงานกับหญิงคนหนึ่ง และมีเพศสัมพันธ์กับนาง แล้วเกิดเกลียดนางขึ้นมา 14 เขากล่าวหาว่านางทำตัวไม่เหมาะสมและพูดให้นางเสียหายว่า “ผมได้แต่งงานกับผู้หญิงคนนี้ แต่เมื่อผมมีเพศสัมพันธ์กับนาง ผมพบว่านางไม่บริสุทธิ์” 15 พ่อแม่ของหญิงสาวคนนี้จะต้องหาข้อพิสูจน์ว่านางเป็นสาวบริสุทธิ์ มาให้กับพวกผู้นำของเมืองนั้นที่ประตูเมือง 16 พ่อของหญิงสาวคนนั้นต้องพูดกับพวกผู้นำว่า “ผมได้ยกลูกสาวให้กับชายคนนี้เป็นเมีย ตอนนี้เขาเกลียดนางแล้ว 17 และดูสิ เขายังกล่าวหาว่านางทำตัวไม่เหมาะสม โดยบอกว่า ‘ผมพบว่าลูกสาวของท่านไม่บริสุทธิ์ นี่คือข้อพิสูจน์ว่าลูกสาวของผมเป็นสาวบริสุทธิ์’” แล้วเขาต้องกางผ้า[b] ผืนนั้นออกต่อหน้าพวกผู้นำของเมืองนั้น 18 แล้วพวกผู้นำของเมืองนั้นต้องเอาตัวชายคนนั้นมาเฆี่ยนตี 19 พวกเขาต้องปรับชายคนนั้นเป็นเงินหนึ่งกิโลกรัม[c] และนำเงินนั้นไปให้กับพ่อของหญิงสาวคนนั้น เพราะชายคนนั้นได้ทำลายชื่อเสียงของหญิงบริสุทธิ์ของอิสราเอล นางจะยังคงเป็นเมียเขาต่อไปและเขาจะหย่าขาดจากนางไม่ได้ตลอดชีวิต
20 แต่ถ้าเป็นจริงตามที่กล่าวหา และไม่มีอะไรมาพิสูจน์ว่านางเป็นสาวบริสุทธิ์ 21 พวกผู้นำต้องนำตัวนางไปที่ประตูบ้านของพ่อนาง และพวกผู้ชายในเมืองนั้นก็จะเอาหินขว้างนางจนตาย เพราะนางได้ทำสิ่งที่น่าอัปยศอดสูในอิสราเอล ด้วยการทำตัวเหมือนหญิงโสเภณีในบ้านพ่อของนาง เมื่อทำอย่างนี้ ท่านจะได้ขจัดความชั่วร้ายออกไปจากท่ามกลางคนของท่าน
บาปทางเพศ
22 ถ้าพบว่าชายคนหนึ่งนอนอยู่กับหญิงอีกคนหนึ่ง ที่เป็นเมียของคนอื่น ทั้งสองคนคือชายคนนั้นและหญิงที่เขานอนด้วยต้องตาย เมื่อทำอย่างนี้ ท่านจะได้ขจัดความชั่วร้ายออกไปจากอิสราเอล
23 ถ้าหญิงสาวบริสุทธิ์คนหนึ่งได้รับหมั้นกับผู้ชายคนหนึ่งแล้ว และมีคนหนึ่งเจอนางที่ในเมือง และมีเพศสัมพันธ์กับนาง 24 พวกท่านต้องเอาทั้งสองคนมาที่ประตูเมืองนั้น แล้วเอาหินขว้างพวกเขาให้ตาย ที่ต้องฆ่าหญิงนั้นเพราะนางไม่ได้ร้องให้คนช่วยในเมือง และที่ต้องฆ่าชายนั้นก็เพราะเขาทำให้เมียของคนอื่นเสียหาย เมื่อทำอย่างนี้ ท่านจะได้ขจัดความชั่วร้ายออกจากท่ามกลางท่าน
25 แต่ถ้าชายคนนั้นพบหญิงที่หมั้นแล้วคนนี้ในที่โล่งนอกเมือง และชายคนนั้นก็จับนางมาข่มขืน มีแต่ชายคนนี้เท่านั้นที่ต้องตาย 26 อย่าทำอะไรกับหญิงสาวนั้น นางไม่ได้ทำบาปอะไรที่สมควรตาย เพราะกรณีนี้เหมือนกับชายที่ทำร้ายเพื่อนบ้านและฆ่าเขา 27 เพราะเขาพบนางในที่โล่งนอกเมือง หญิงที่หมั้นนี้อาจจะร้องให้คนช่วยแล้ว แต่ไม่มีใครมาช่วย
28 ถ้าชายคนหนึ่งพบหญิงสาวบริสุทธิ์ที่ยังไม่ได้หมั้นและจับนางมาข่มขืน และพวกเขาถูกจับได้ 29 ชายคนที่นอนกับนางต้องให้เงินครึ่งกิโลกรัม[d] กับพ่อของหญิงสาวคนนั้น และนางจะกลายเป็นเมียของเขา เพราะเขาทำให้นางเสียหาย เขาไม่สามารถหย่ากับนางได้ตลอดชีวิตของเขา
30 ผู้ชายจะแต่งงานกับเมียเก่าของพ่อเขาไม่ได้ เพราะจะทำให้พ่อเขาอับอายขายหน้า
คนที่ไม่สามารถเข้าร่วมนมัสการ
23 ชายที่ลูกอัณฑะถูกทำลายหรือถูกตัดอวัยวะเพศ จะเข้าร่วมนมัสการพระยาห์เวห์กับชายอิสราเอลคนอื่นๆไม่ได้ 2 ถ้าชายคนไหนที่พ่อแม่แต่งงานกันทั้งๆที่มีกฎห้ามแต่ง ชายคนนั้นก็จะไม่มีสิทธิ์ที่จะเป็นคนของพระยาห์เวห์ และลูกหลานของเขาอีกสิบชั่วรุ่น ก็จะไม่มีสิทธิ์อย่างเต็มที่เหมือนกัน
3 ชาวอัมโมนหรือชาวโมอับจะไม่เป็นส่วนหนึ่งของประชาชนอิสราเอล และลูกหลานของเขาอีกสิบชั่วรุ่นก็จะไม่เป็นส่วนหนึ่งด้วยเหมือนกัน และจะเป็นอย่างนี้ตลอดไป 4 เพราะพวกเขาไม่ยอมให้อาหารและน้ำดื่มกับท่าน ตอนที่ท่านเดินทางออกมาจากแผ่นดินอียิปต์ และพวกเขายังว่าจ้างบาลาอัมมาสาปแช่งท่าน บาลาอัมเป็นลูกชายของเบโอร์จากเมืองเปโธร์ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมโสโปเตเมีย 5 แต่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านไม่ยอมฟังบาลาอัม และพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านเปลี่ยนคำสาปแช่งให้เป็นคำอวยพรสำหรับท่าน เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านรักท่าน 6 ตลอดชีวิตของท่าน อย่าไปทำให้คนพวกนี้สะดวกสบายหรือมั่งคั่งเป็นอันขาด
คนที่ชาวอิสราเอลควรยอมรับ
7 อย่าเกลียดชาวเอโดม เพราะเขาคือพี่น้องของท่าน อย่าเกลียดชาวอียิปต์ เพราะท่านเคยเป็นชาวต่างชาติในประเทศของเขามาก่อน 8 ลูกของชาวเอโดมและชาวอียิปต์รุ่นที่สาม สามารถเข้าร่วมนมัสการพระยาห์เวห์กับชายอิสราเอลได้
สุขอนามัยในค่าย
9 เมื่อท่านออกไปตั้งค่ายเผชิญหน้ากับศัตรู ท่านต้องอยู่ห่างไกลจากทุกสิ่งที่ไม่บริสุทธิ์ 10 เมื่อมีบางคนในค่ายฝันเปียกตอนกลางคืน ทำให้เขาไม่บริสุทธิ์ เขาต้องออกไปนอกค่าย ห้ามเข้ามาในค่าย 11 พอตกเย็น เขาต้องอาบน้ำ เมื่อดวงอาทิตย์ตกดิน เขาถึงกลับเข้าค่ายได้
12 ท่านต้องมีสถานที่หนึ่งนอกค่ายสำหรับออกไปถ่ายทุกข์ 13 ท่านต้องเอาไม้กับอุปกรณ์ไปด้วย เมื่อท่านถ่ายทุกข์เสร็จแล้ว ก็ให้เอาไม้นั้นขุดหลุม และกลบอึของท่านด้วย 14 เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านอยู่กับท่านในค่ายนั้นด้วย เพื่อช่วยชีวิตท่านและช่วยให้ท่านชนะศัตรู ดังนั้นค่ายของท่านต้องเตรียมไว้ให้บริสุทธิ์สำหรับพระองค์ พระองค์จะได้ไม่เห็นอะไรที่น่ารังเกียจท่ามกลางท่านและเลิกติดตามท่านไป
กฎอื่นๆ
15 ทาสที่หนีนายของเขามาอยู่กับท่าน ท่านต้องไม่ส่งทาสนั้นคืนไปให้นายเก่าของเขา 16 ทาสนั้นจะเลือกอยู่ที่ไหนก็ได้ในเมืองต่างๆของท่าน ตามใจเขา ห้ามบังคับเขา
17 ห้ามไม่ให้ลูกสาวและลูกชายของคนอิสราเอลเป็นโสเภณี 18 ท่านต้องไม่เอาค่าตัวของโสเภณีหญิงหรือโสเภณีชาย มาแก้บนในวิหารของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านขยะแขยงทั้งโสเภณีหญิงและชาย
19 เมื่อท่านให้พี่น้องอิสราเอลกู้ยืม ท่านต้องไม่คิดดอกเบี้ย ไม่ว่าจะเป็นดอกเบี้ยเงินกู้ ดอกเบี้ยอาหารหรือดอกเบี้ยอะไรก็แล้วแต่ที่ท่านให้กู้ยืมไป 20 ท่านอาจคิดดอกเบี้ยกับชาวต่างชาติได้ แต่ต้องไม่คิดจากพี่น้องชาวอิสราเอลคนอื่น เพื่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะได้อวยพรท่านในทุกสิ่งที่ท่านทำในแผ่นดินที่ท่านกำลังจะเข้าไปยึดเป็นเจ้าของ
21 เมื่อท่านบนไว้กับพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน อย่าชักช้าที่จะแก้บน เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะทวงจากท่านแน่นอน และท่านจะมีความผิดเพราะบาปนั้น 22 แต่ถ้าท่านไม่ได้บนไว้กับพระยาห์เวห์ ท่านก็ไม่มีความผิดเพราะบาปนั้น 23 ท่านต้องทำตามคำพูดของตัวเองอย่างระมัดระวัง ตามที่ท่านสมัครใจบนไว้กับพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ด้วยปากของท่านเอง
24 ถ้าท่านเข้าไปในไร่องุ่นของเพื่อนบ้าน ท่านกินองุ่นได้เต็มที่เลย จนกว่าจะอิ่ม แต่ห้ามเก็บองุ่นใส่กระเป๋า 25 ถ้าท่านเดินผ่านทุ่งนาของเพื่อนบ้าน ท่านเอามือเด็ดรวงข้าวกินได้เลย แต่ต้องไม่ใช้เคียวเกี่ยวข้าวของคนอื่น ติดตัวไปด้วย
24 ถ้าชายคนไหนรับผู้หญิงมาและแต่งงานกับนาง ต่อมาเขาเริ่มไม่พอใจนาง เพราะเขาค้นพบว่านางได้ไปทำสิ่งที่น่ารังเกียจ[e] และถ้าเขาเขียนใบหย่าให้กับนางและส่งนางออกจากบ้านเขาไป 2 นางก็ออกจากบ้านเขาและไปเป็นเมียของชายคนอื่น 3 และถ้าสามีคนใหม่ก็ไม่ชอบนางเหมือนกัน และเขียนใบหย่าให้กับนางและส่งนางออกจากบ้านเขาไป หรือถ้าสามีคนใหม่ตาย 4 สามีคนแรกที่ส่งนางออกไปจากบ้านนั้น จะรับนางกลับไปเป็นเมียอีกไม่ได้แล้ว เพราะนางกลายเป็นคนที่ไม่บริสุทธิ์สำหรับเขาแล้ว เพราะพระยาห์เวห์เกลียดการกระทำนี้ และท่านต้องไม่นำบาปเข้ามาบนแผ่นดินที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านกำลังจะยกให้กับท่านไว้เป็นเจ้าของ
5 เมื่อผู้ชายแต่งงานใหม่ๆ เขาต้องไม่ออกไปทำสงคราม และต้องไม่ให้งานอื่นๆกับเขาทำด้วย เขาจะอยู่บ้านไม่ต้องทำอะไรเป็นเวลาหนึ่งปี และทำให้เมียที่เขาเพิ่งแต่งงานด้วยมีความสุข
6 ถ้าท่านให้ใครกู้ยืม ห้ามเอาโม่หินหรือแม้แต่หินก้อนบนของโม่นั้นเป็นเครื่องค้ำประกัน เพราะเป็นการเอาของที่สำคัญต่อชีวิตมาเป็นของค้ำประกัน[f]
7 ถ้าเจอว่าใครไปลักพาตัวพี่น้องชาวอิสราเอลของเขาเอง แล้วทำให้เขากลายเป็นทาสหรือขายเขาไป คนที่ลักพาตัวนั้นต้องถูกฆ่าตาย ท่านต้องขจัดสิ่งชั่วร้ายไปจากท่ามกลางพวกท่าน
8 ระวังให้ดี ในเรื่องเกี่ยวกับโรคผิวหนังร้ายแรง ให้ทำตามคำสั่งของนักบวชอย่างระมัดระวัง พวกท่านต้องทำตามสิ่งที่เราได้สั่งพวกเขาไว้อย่างระมัดระวัง 9 จำสิ่งที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านได้ทำกับมิเรียม[g] ในช่วงการเดินทางหลังจากที่พวกท่านออกมาจากอียิปต์
10 เมื่อท่านให้เพื่อนบ้านกู้ยืมอะไรก็แล้วแต่ ท่านต้องไม่เข้าไปหยิบของค้ำประกันในบ้านเขา 11 ท่านต้องยืนรออยู่ข้างนอก และชายคนที่กู้ยืมจากท่านจะเอาของค้ำประกันออกมาให้กับท่านนอกบ้าน 12 ถ้าคนกู้ยืมนั้นยากจน ท่านต้องไม่เก็บเสื้อคลุมของเขาข้ามคืน เสื้อคลุมที่เขาเอามาให้กับท่านเป็นของค้ำประกัน 13 ท่านต้องคืนเสื้อคลุมนั้นให้เขาเมื่อดวงอาทิตย์ตกดิน เขาจะได้ใส่นอน แล้วเขาจะอวยพรท่าน พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านก็จะยอมรับในการกระทำของท่านว่าถูกต้อง
14 ท่านต้องไม่โกงคนงานรับจ้างที่ยากจนและเดือดร้อน ไม่ว่าเขาจะเป็นพี่น้องชาวอิสราเอลของท่านหรือชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในเมืองใดเมืองหนึ่งในดินแดนของท่าน 15 ท่านต้องจ่ายค่าจ้างให้เขาในแต่ละวันก่อนดวงอาทิตย์ตกดิน เพราะเขายากจนและเขาต้องการค่าจ้างนั้น ไม่อย่างนั้นเขาจะมาฟ้องร้องท่านกับพระยาห์เวห์ ท่านก็จะมีความผิดจากบาป
16 ต้องไม่ฆ่าพ่อแม่แทนลูกๆและต้องไม่ฆ่าลูกๆแทนพ่อแม่ บาปของใครของมัน คนไหนทำบาปคนนั้นก็ต้องถูกฆ่า 17 ท่านต้องไม่ตัดสินคนต่างชาติหรือเด็กกำพร้าที่อยู่ท่ามกลางพวกท่านอย่างไม่ยุติธรรม ท่านต้องไม่รับเสื้อผ้าของแม่หม้ายเป็นของค้ำประกัน 18 ท่านต้องจำไว้ว่าท่านก็เคยเป็นทาสในแผ่นดินอียิปต์มาก่อน และพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านได้ปลดปล่อยท่านจากที่นั่น นั่นเป็นเหตุที่เราถึงได้สั่งให้ท่านทำอย่างนี้
19 เมื่อท่านรวบรวมพืชผลในท้องทุ่งของท่าน และท่านลืมฟ่อนข้าวไว้ฟ่อนหนึ่งในทุ่ง ท่านต้องไม่กลับไปเอา ทิ้งมันไว้ตรงนั้นสำหรับชาวต่างชาติ เด็กกำพร้าหรือแม่หม้าย เพื่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะได้อวยพรท่านในทุกสิ่งที่ท่านทำ 20 เมื่อท่านตีกิ่งมะกอกเพื่อเอาผลของมัน ท่านต้องไม่กลับไปตีกิ่งมันซ้ำอีก ผลมะกอกที่คาอยู่บนต้นจะเก็บไว้ให้ชาวต่างชาติ เด็กกำพร้าและแม่หม้าย 21 เมื่อท่านเก็บองุ่นจากไร่ อย่ากลับไปเก็บองุ่นที่คาอยู่บนต้น เหลือมันไว้ให้ชาวต่างชาติ เด็กกำพร้าและแม่หม้าย 22 จำไว้ว่าท่านก็เคยเป็นทาสในแผ่นดินอียิปต์ นั่นเป็นเหตุที่เราถึงได้สั่งให้ท่านทำอย่างนี้
พวกหัวหน้าวางแผนฆ่าพระเยซู
(มธ. 26:1-5; ลก. 22:1-2; ยน. 11:45-53)
14 อีกสองวันจะถึงเทศกาลวันปลดปล่อย และเทศกาลขนมปังไร้เชื้อ พวกผู้นำนักบวช และพวกครูสอนกฎปฏิบัติ ก็หาทางที่จะแอบจับพระเยซูเพื่อเอาไปฆ่า 2 พวกเขาตกลงกันว่า “อย่าเพิ่งทำในช่วงเทศกาล เพราะประชาชนจะก่อการจลาจลขึ้น”
หญิงคนหนึ่งชโลมน้ำหอมให้พระเยซู
(มธ. 26:6-13; ยน. 12:1-8)
3 เมื่อพระเยซูอยู่ที่หมู่บ้านเบธานี ขณะที่กำลังกินอาหารอยู่ในบ้านของซีโมนคนที่เคยเป็นโรคผิวหนังร้ายแรง ก็มีหญิงคนหนึ่งถือขวด[a] น้ำมันหอมนาระดา[b] ซึ่งมีราคาแพงมากเข้ามา นางทุบปากขวดให้แตกและชโลมน้ำมันหอมนั้นลงบนศีรษะของพระเยซู
4 ทำให้บางคนที่อยู่ที่นั่นไม่พอใจและบ่นกันว่า “ทำไมถึงทำเสียของอย่างนี้ 5 ถ้าเอาน้ำหอมนี้ไปขายคงได้เงินถึงสามร้อยเหรียญเงิน จะได้เอาไปแจกจ่ายให้กับคนจน” แล้วพวกเขาก็ต่อว่าเธอเป็นการใหญ่
6 แต่พระเยซูบอกว่า “อย่ายุ่งกับเธอเลย ไปวุ่นวายกับเธอทำไม เธอได้ทำสิ่งที่ดีงามให้กับเรา 7 พวกคุณจะมีคนจนอยู่ด้วยเสมอ อยากช่วยเวลาไหนก็ช่วยได้ แต่เราจะไม่อยู่กับพวกคุณเสมอไป 8 และนี่เป็นสิ่งเดียวที่เธอจะทำให้กับเราได้ ก็คือการเทน้ำมันหอมบนตัวเราเพื่อเตรียมร่างของเราล่วงหน้าก่อนการฝัง 9 เราจะบอกให้รู้ว่า ไม่ว่าข่าวดีนี้จะประกาศไปที่ไหนๆในโลกนี้ ก็จะมีคนพูดถึงเรื่องที่เธอทำให้กับเรานี้เสมอ เพื่อเป็นการระลึกถึงเธอ”
ยูดาสตกลงที่จะช่วยศัตรูของพระเยซู
(มธ. 26:14-16; ลก. 22:3-6)
10 แล้วยูดาสอิสคาริโอท ศิษย์คนหนึ่งในสิบสองคนของพระเยซูก็ได้ไปหาพวกหัวหน้านักบวช เพื่อเสนอตัวที่จะช่วยจับพระเยซูให้ 11 พวกเขาดีใจมากที่ได้ยินอย่างนั้น และสัญญาว่าจะจ่ายเงินให้เป็นค่าตอบแทน ดังนั้นยูดาสจึงเริ่มหาโอกาสเหมาะที่จะส่งมอบพระเยซูให้กับพวกหัวหน้านักบวช
มื้อสุดท้ายของพระเยซูกับพวกศิษย์
(มธ. 26:17-25; ลก. 22:7-14, 21-23; ยน. 13:21-30)
12 ในวันแรกของเทศกาลกินขนมปังไร้เชื้อ ซึ่งเป็นวันที่พวกยิวจะฆ่าลูกแกะถวายพระเจ้า สำหรับเทศกาลวันปลดปล่อย[c] ด้วย พวกศิษย์ของพระเยซูได้ถามพระองค์ว่า “จะให้พวกเราไปเตรียมอาหารสำหรับเทศกาลวันปลดปล่อยให้กับอาจารย์ที่ไหนดีครับ”
13 พระเยซูส่งศิษย์สองคนไป พระองค์สั่งว่า “เข้าไปในเมืองแล้วจะเจอผู้ชายที่แบกเหยือกน้ำ ให้ตามเขาไป 14 ให้พูดกับเจ้าของบ้านที่ชายคนนั้นเข้าไปว่า ‘อาจารย์ให้ถามว่าห้องที่เราจะใช้กินอาหารในเทศกาลวันปลดปล่อยกับพวกศิษย์นั้นอยู่ที่ไหน’ 15 แล้วเขาจะพาคุณไปดูห้องใหญ่ชั้นบนที่เตรียมไว้พร้อมแล้ว ให้จัดอาหารที่นั่น”
16 แล้วศิษย์ทั้งสองก็เข้าไปในเมือง และมันก็เป็นไปตามที่พระเยซูบอกทุกอย่าง พวกเขาจึงจัดเตรียมอาหารสำหรับเทศกาลวันปลดปล่อยที่นั่น
17 เมื่อถึงตอนเย็น พระเยซูมาถึงบ้านหลังนั้นพร้อมกับพวกศิษย์เอกทั้งสิบสองคน 18 ในขณะที่กำลังกินอยู่นั้น พระเยซูพูดว่า “เราจะบอกให้รู้ว่า คนหนึ่งในพวกคุณจะหักหลังเรา และเขาก็นั่งกินอยู่กับเราที่นี่ด้วย”
19 พวกศิษย์รู้สึกเป็นทุกข์มาก ต่างคนต่างก็ถามพระองค์ว่า “คงไม่ใช่ผมนะอาจารย์”
20 พระเยซูจึงพูดกับพวกเขาว่า “คนหนึ่งในพวกคุณสิบสองคนนี่แหละ คนที่จุ่มขนมปังในชามเดียวกับเรา 21 บุตรมนุษย์จะต้องตายเหมือนกับที่พระคัมภีร์ ได้เขียนไว้แล้ว แต่คนที่ได้หักหลังบุตรมนุษย์นั้นน่าละอายจริงๆ ถ้าเขาไม่ได้เกิดมาก็คงจะดีกว่า”
ขนมปังและเหล้าองุ่น
(มธ. 26:26-30; ลก. 22:15-20; 1 คร. 11:23-25)
22 ขณะที่กำลังกินอาหารอยู่นั้น พระเยซูได้หยิบขนมปังขึ้นมาขอบคุณพระเจ้า จากนั้นก็หักแบ่งให้พวกศิษย์แล้วพูดว่า “รับไปกินสิ นี่คือร่างกายของเรา”
23 แล้วพระองค์หยิบถ้วยขึ้นมาขอบคุณพระเจ้าและยื่นให้กับพวกศิษย์ พวกเขาก็ได้ดื่มจากถ้วยนั้นทุกคน
24 แล้วพระองค์พูดว่า “นี่คือเลือดของเรา พระเจ้าทำสัญญาขึ้นมาด้วยเลือดนี้ มันได้หลั่งไหลออกมาเพื่อคนเป็นจำนวนมาก 25 เราจะบอกให้รู้ว่า เราจะไม่ดื่มเหล้าองุ่นอีกเลยจนกว่าจะถึงวันนั้นที่เราจะดื่มเหล้าองุ่นใหม่ในอาณาจักรของพระเจ้า”
26 เมื่อพวกเขาได้ร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้าแล้ว ก็ออกไปที่ภูเขามะกอกเทศ
พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International